
บริษัทวิจัยการ์ตเนอร์คาดอีก 4 ปี ผู้คนทั่วโลกกว่า 25% จะใช้เวลาใน Metaverse อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง การเติบโตของจักรวาลโลกเสมือนจะก่อให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ช่วยขยายการทำธุรกิจดิจิทัล
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัทวิจัย การ์ตเนอร์ อิงก์ คาดการณ์ภายในปี 2569 หรือในอีก 4 ปีข้างหน้า ผู้คนราว 25% ทั่วโลกจะใช้เวลาอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงไปกับการทำงาน ช็อปปิ้ง เรียนรู้ เข้าสังคมและรับความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ ในจักรวาลนฤมิต (Metaverse)
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- เปิดค่าตอบแทน “ผู้บริหาร” ยักษ์ บจ. BBL จ่ายพันล้านต่อปี ทิ้งห่างคู่แข่ง
นายมาร์ตี้ เรสนิค รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ตเนอร์ อิงก์ กล่าวว่า ผู้ให้บริการพร้อมสร้างแนวทางการใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลให้ผู้ใช้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การเข้าร่วมคลาสเรียนแบบเวอร์ชวลไปจนถึงการซื้อที่ดินดิจิทัลหรือสร้างบ้านเสมือนจริง แม้กิจกรรมเหล่านี้จะดำเนินอยู่ในคนละสภาพแวดล้อม แต่ท้ายที่สุดจะไปรวมอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวนั่นคือ Metaverse ปลายทางที่รวมเทคโนโลยีและประสบการณ์หลากหลายไว้ด้วยกัน
สำหรับการ์ตเนอร์ได้ให้นิยามของ Metaverse ว่าเป็นพื้นที่เสมือนจริงที่เปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันมาแบ่งปันใช้ร่วมกัน สร้างขึ้นจากการผสมผสานความเป็นจริงทางกายภาพและดิจิทัลเข้าด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์ที่สมจริงขึ้น ตลอดจนสามารถเข้าถึงผ่านอุปกรณ์ชิ้นเดียวหรืออุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ ตั้งแต่แท็บเลตไปจนถึงจอแสดงผลแบบสวมศีรษะ เนื่องจากไม่มีผู้ให้บริการใดที่เป็นเจ้าของ Metaverse แต่เพียงผู้เดียว การ์ตเนอร์จึงมองว่าจะมีรูปแบบเศรษฐกิจเสมือนจริงเกิดขึ้น และขับเคลื่อนโดยสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล (NFTs) และ Metaverse ยังส่งผลกระทบไปถึงทุกธุรกิจที่โต้ตอบสื่อสารกับผู้บริโภคทุกวัน
นอกจากนี้ Metaverse ยังส่งผลกระทบต่อวิธีการทำงาน องค์กรต่าง ๆ จะมุ่งนำเสนอการมีส่วนร่วม ความร่วมมือกัน และการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้นให้แก่พนักงานผ่านพื้นที่ทำงานเสมือนจริงแบบเวอร์ชวลออฟฟิศ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง เพราะว่า Metaverse ได้ช่วยจัดการวางระบบให้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้การจัดกิจกรรมเสมือนจริงที่ได้รับความนิยมในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา จะมอบโอกาสในการสร้างเครือข่ายและทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมและมีความสมจริงยิ่งขึ้น
“องค์กรต่าง ๆ จะมีความสามารถในการขยายและพัฒนาธุรกิจในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยย้ายจากธุรกิจดิจิทัลไปเป็นธุรกิจใน Metaverse ซึ่ง 30% ขององค์กรทั่วโลก จะมีผลิตภัณฑ์และบริการพร้อมสำหรับดำเนินธุรกิจใน Metaverse ภายในปี 2569” เรสนิคกล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีต่าง ๆ ของ Metaverse มาใช้ยังเป็นเรื่องใหม่และกระจัดกระจายอยู่มาก “การ์ตเนอร์”จึงเตือนองค์กรที่มีการลงทุนสูง ๆ โดยเฉพาะการลงทุนในตลาด Metaverse ว่ายังเร็วเกินไปที่จะทราบว่าควรลงทุนแบบใดเพื่อสร้างความสำเร็จในระยะยาว ซึ่งผู้จัดการผลิตภัณฑ์ควรใช้เวลาเรียนรู้ สำรวจ และเตรียมพร้อมรับมือกับโลก Metaverse เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน”