Zipmex ซีอีโอ อ้างธุรกรรม Babel-Celsius ฝากเงินไม่ใช่ “ลงทุน”

ซีอีโอซิปเม็กซ์แจงไทม์ไลน์-ปมธุรกรรม Babel-Celsius มูลค่ากว่า 53 ล้านเหรียญสหรัฐ เฉียด 1.8 พันล้านบาท เป็นการ “ฝากเงิน” ไม่ใช่ “ลงทุน” ยอมรับเห็นสัญญาณวิกฤตสภาพคล่องตั้งแต่ มิ.ย. ย้ำแจ้งข้อมูล ก.ล.ต. ทุกระยะ

วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอ ซิปเม็กซ์ ไทยแลนด์ แจงความเคลื่อนไหวล่าสุดและปมธุรกรรม Babel Finance-Celsius Network ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ และยูทูบ เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา ว่าบริษัทได้รับทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มลูกค้าที่ไปรวมตัวกันที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) แล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจ

โดยมีการส่งตัวแทนของบริษัทเข้าไปรับทราบคำถามจากทุกท่าน และตั้งใจมาชี้แจงในบางประเด็นเพื่อให้เกิดความชัดเจน และคลายความกังวลให้ลูกค้า

ในประเด็นแรกเกี่ยวกับไทม์ไลน์ ที่กลายปัญหาระหว่างซิปเม็กซ์ กับ Babel และ Celsius โดยซิปเม็กซ์ได้เริ่ม “ฝาก” สินทรัพย์ดิจิทัลกับทั้งสองคู่ค้าไว้ตั้งแต่เริ่มมีผลิตภัณฑ์ ZipUp+ (ราวปลายปี 2563) จนกระทั่ง 13 มิถุนายน Celsius ได้ระงับการถอนเงินลูกค้า บริษัทจึงติดต่อไปเพื่อขอรายละเอียดทันที และได้พิจารณาด้วยว่า จากงบดุลของบริษัท สามารถรองรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ หรือรับภาระการขาดทุนด้วยงบบริษัทเองได้

“ในกรณีของ Babel ที่ได้ระงับการถอนเช่นกัน แต่ยังไม่มีการยื่นล้มละลาย เราจึงยังมีการเจรจาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเราได้ตัดสินใจเริ่มดำเนินคดีกับ Babel Finance แล้ว”

การระงับการถอนของ Babel ในเดือนมิถุนายนไม่ได้มีผลกระทบกับซิปเม็กซ์อย่างมีนัยสำคัญ เพราะยังไม่ได้ยื่นล้มละลาย เราจึงสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติมาตลอด จนกระทั่งเมื่อวันพุธ ที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา การเจรจาให้ผลเชิงลบ เราจึงได้แจ้งสำนักงาน ก.ล.ต. และแถลงการณ์ให้ลูกค้าในวันนั้นทันที

“อยากจะเรียนให้ทุกท่านทราบว่า รูปแบบการทำธุรกรรมระหว่างซิปเม็กซ์ และ Babel-Celsius เป็นการ ‘ฝาก’ ไม่ใช่การลงทุน”

นายเอกลาภกล่าวต่อว่า ในประเด็นที่ลูกค้าหลายท่านถาม เรื่อง เหรียญ ZMT และมูลค่าของ ZMT ที่ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย รวมถึงสภาวะของเศรษฐกิจโลกและคริปโต ที่อยู่ในขาลง แต่ ZMT ยังคงมี Use Case เกิดขึ้นเรื่อย ๆ

โดยบริษัทยังคงมีระบบนิเวศที่ดีจึงได้นำเหรียญ ZMT ขึ้นมาซื้อขายได้ตามปกติแล้ว และภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะมีการนำระบบซื้อขายเหรียญอื่น ๆ กลับเข้ามาเรื่อย ๆ การโอน/ถอน รวมถึงบริการต่าง ๆ ผ่านกระเป๋าซื้อขาย (Trade Wallet) ทำได้ปกติ

และบริษัทอยู่ระหว่างการทำศูนย์บริการ Hotline เพื่อให้การช่วยเหลือลูกค้าทุกท่านให้แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ จะประกาศแจ้งผ่านทุกช่องทางต่อไป

นายเอกลาภกล่าวถึงการทำ MOU กับผู้สนใจเข้ามาลงทุนในบริษัทว่า อยู่ขั้นตอนการตรวจสอบสถานะของบริษัท เพื่อให้เกิดการลงทุน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการพิจารณาข้อตกลงระหว่างกัน และบริษัทจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ และขออภัยที่ยังเปิดเผยข้อมูลบางประการไม่ได้

“เรามีการประสานงานกับภาครัฐ ทั้ง ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสมอ โดยชี้แจงต่อเนื่องทั้งวาจาและเอกสาร อย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา สุดท้าย ขอชี้แจงให้ทุกท่านทราบว่า บริษัทกำลังเร่งนำสินทรัพย์กลับคืนลูกค้าอย่างเร่งด่วน และจะอัพเดตสถานการณ์ให้ทุกท่านทราบต่อเนื่องทั้งเรื่องการดำเนินคดีความและการลงทุนในบริษัท”

ก่อนหน้านี้ ซิปเม็กซ์ได้ชี้แจงมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่กับ Babel Finance เป็นเงิน 48 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน Celsius Network เป็นเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินรวมกันราว 1.8 พันล้านบาท โดยสถานะของ Celsius Network ในขณะนี้ได้ยื่นขอล้มละลาย (Chapter 11) เมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา