ทุนเชียงใหม่ต่อยอด “ชาอัสสัม” ทำสกินแคร์ออร์แกนิก เล็งส่งออกอาเซียน

ชาอัสสัม

ทุนเชียงใหม่พลิกไร่ชา 7 ไร่ ที่อำเภอดอยสะเก็ด บุกหนักตลาดสกินแคร์จากใบชาออร์แกนิก ส่งแบรนด์ “ชามีเลีย” ต่อยอดงานวิจัยของ ม.แม่โจ้ ชูคุณสมบัติเด่น EGCG สารสกัดสำคัญจากใบชา ปูพรมช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ เผย รายได้เติบโตกว่า 70% เล็งส่งออกอาเซียนปี 2566

นางสาวจิตเมตตา นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท มะแอ เฮอร์เบิล (ไทยแลนด์) จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ผลิตสกินแคร์ ภายใต้แบรนด์ “ชามีเลีย” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดสกินแคร์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะสกินแคร์ออร์แกนิกกำลังมาแรง และตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาสินค้าไร้สารเคมี ส่งผลให้สินค้าสกินแคร์ท้องถิ่นเชียงใหม่ของบริษัท ที่ผลิตจากใบชาพันธุ์อัสสัม

ซึ่งปลูกแบบออร์แกนิก สูตรเข้มข้นจำนวน 5 ไอเท็ม ซึ่งผลิตจากโรงงานของบริษัท บนเนื้อที่ 4 ไร่ ตำบลแม่ฮ้อยเงิน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ เซรั่ม, สบู่, โทนเนอร์, บอดี้ออยล์ และเมาท์สเปรย์ มีกำลังการผลิตสินค้าประมาณ 7,000 ชิ้นต่อวัน

มีอัตราการเติบโตของยอดขายในปี 2565 มากกว่า 70% ตอบโจทย์ตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

“การเข้าสู่ธุรกิจสกินแคร์ของบริษัท เริ่มต้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาเรามีความต้องการผลิตสินค้ากลุ่มสกินแคร์จากธรรมชาติแบบออร์แกนิก ราคาไม่แพงและจับต้องได้

จึงได้นำผลงานวิจัยเรื่องชาอัสสัม ของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มธุรส ชัยหาญ หลักสูตรเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาต่อยอดเชิงธุรกิจนำมาทำผลิตภัณฑ์ด้านความงาม

โดยได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการกระบวนการสกัดสารสำคัญจากใบชาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประกอบกับบริษัทมีไร่ชาพันธุ์อัสสัมออร์แกนิกอยู่ที่บ้านปางน้ำถุ ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งผลผลิตใบชาทั้งหมดนำมาผลิตสกินแคร์ภายใต้แบรนด์ชามีเลีย”

จิตเมตตา นันทขว้าง
จิตเมตตา นันทขว้าง

นางสาวจิตเมตตากล่าวต่อไปว่า ชาพันธุ์อัสสัมสามารถเรียกได้หลายชื่อ เช่น ชาอัสสัม ชาพื้นเมือง ชาป่า หรือชาเมี่ยง เป็นต้น พบมากบนเขตพื้นที่สูงแถบภาคเหนือของไทย เช่น เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ลำปาง และแพร่ พื้นที่ปลูกที่เหมาะสม 100-1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล

สำหรับไร่ชาของบริษัทสูงจากระดับน้ำทะเล 700 เมตร โดยพบว่าคุณสมบัติพิเศษของชาอัสสัมหรือชาเมี่ยง มีสารสกัดสำคัญคือ EGCG (EPIGALLOCATECHIN GALLATE) ที่สามารถนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

นางสาวจิตเมตตากล่าวต่อว่า บริษัทเน้นหนักการทำตลาดผ่านช่องทางขายออนไลน์ที่เริ่มขยายตัวขึ้นและสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค และเพิ่มน้ำหนักช่องทางขายผ่านทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงวางจำหน่ายผ่านร้านเอเดน เชียงใหม่ และสวนนวลตองออร์แกนิค ฟาร์ม อำเภอแม่ริม

ล่าสุดได้ขยายช่องทางการออกบูทจำหน่ายสินค้าตามงานอีเวนต์ หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยขณะนี้ได้ทำโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อาทิ เซรั่มราคาปกติอยู่ที่ขวดละ 600 บาท

นอกจากนี้ แผนงานในปี 2566 บริษัทเตรียมขยายตลาดไปยังต่างประเทศในกลุ่มอาเซียน อาทิ สปป.ลาว กัมพูชาและมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้ผู้นำเข้าทั้ง 3 ประเทศสนใจสกินแคร์ของบริษัท โดยอยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียด