ชุมพรเปิดพิกัดทะเลหมอกแห่งใหม่ ควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น

ควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น

หากพูดถึงจุดชมวิว “ทะเลหมอก” หลายคนคงจินตนาการเห็นภาพพื้นที่ภูเขาสูงของจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นและรู้จักกันอย่างแพร่หลาย ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวแนวผจญภัย (adventure) ก็มักค้นหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่อยู่เสมอ เพื่อเดินทางไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติที่คนส่วนมากยังไม่เคยได้เห็น

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ จังหวัดชุมพรก็เพิ่งค้นพบแหล่งท่องเที่ยวทะเลหมอกแห่งใหม่ “ควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น” โดยได้รับการสนับสนุนและได้รับคำแนะนำสำหรับการบริหารจัดการ จากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดชุมพร อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, องค์การบริหารส่วนจังหวัด, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร เป็นต้น

สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในสวนยางพารา บนยอดเขาของหมู่บ้านประชาเสรี หมู่ที่ 11 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดของจังหวัดชุมพร กำลังได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะสามารถกางเต็นท์นอนดูดาวในยามค่ำคืน แล้วตื่นขึ้นมาดูทะเลหมอกและดวงอาทิตย์ในยามเช้าได้ ท่ามกลางอากาศที่ค่อนข้างเย็น แม้จะเป็นในช่วงหน้าร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 18-22 องศา

“น้อย สวิงรัมย์” ชาวบ้านเจ้าของสวนกาแฟและสวนยางพารา ผู้ดูแลพื้นที่ควนตาน้อย เปิดเผยว่า จุดชมวิวดูทะเลหมอกควนตาน้อยเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเมื่อปี 2564 แต่เนื่องจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 เรื่อยมาจนถึงปี 2565 จึงไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ได้เท่าที่ควร

จนเมื่อสถานการณ์ของโควิด-19 คลี่คลายนักท่องเที่ยวเริ่มสนใจเดินทางมากขึ้นและมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง โดยพื้นที่แห่งนี้อยู่ใจกลางของ ต.เขาค่าย

บนควนตาน้อยสามารถกางเต็นท์ได้ไม่ต่ำกว่า 100 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้วันละไม่ต่ำกว่าครั้งละ 200 คน ด้านล่างมีลานจอดรถที่สามารถจอดได้ไม่ต่ำกว่า 50 คัน แต่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องติดต่อสอบถามก่อนล่วงหน้าก่อน ที่เบอร์โทร.08-2815-4737 เนื่องจากการเดินทางต้องขึ้นกับสภาพอากาศ หากมีฝนตกก็ไม่สามารถเดินทางขึ้นมาได้

โดยการเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น สามารถเดินทางจากตัวเมืองชุมพรลงไปตามถนนสายเอเชีย 41 ผ่าน อ.สวี ไปยังสี่แยกเขาปีบ ก่อนเลี้ยวขวาเข้าไปยัง ต.เขาทะลุ อ.สวี จากนั้นจึงใช้ระบบนำทางด้วยดาวเทียม (global positioning system : GPS) เข้าสู่ถนนดินลูกรังซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นไปยังจุดหมาย

ควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น

และไม่เหมาะต่อการใช้รถยนต์ธรรมดา ต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4 wheels) บุกขึ้นไปตามถนนที่ค่อนข้างคดเคี้ยว บางช่วงค่อนข้างแคบ บางช่วงมีความสูงชันกว่า 45 องศา ต้องผ่านสวนยาง สวนปาล์มน้ำมัน สวนกาแฟ สวนผลไม้ของชาวบ้าน ผู้ที่นำรถยนต์ส่วนตัวธรรมดาไป สามารถจอดรถฝากเอาไว้แล้วเปลี่ยนไปใช้บริการรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อได้ที่จุดจอดรถด้านล่าง

ทั้งนี้ ค่าบริการนั่งรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้น หากไม่เกิน 5 คน ราคาอยู่ที่คันละ 300 บาท ถ้าเกิน 5 คน ราคาคันละ 500 บาท ส่วนจุดกางเต็นท์หากนำเต็นท์มาเองจะเสียค่าบริการหลังละ 100 บาท ถ้าเป็นเต็นท์ของควนตาน้อยเสียค่าบริการหลังละ 350 บาท นอนได้ 2 คน โดยมีชา กาแฟ ห้องสุขา ห้องอาบน้ำไว้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถนำอาหารขึ้นมาประกอบหรือรับประทานได้ด้วย

“หากขึ้นมาบนควนตาน้อยจะมองเห็นชุมชนของ ต.เขาค่ายทั้ง 12 หมู่บ้าน ถือเป็นไฮไลต์ของ ต.เขาค่ายในขณะนี้ เพราะหลายคนที่ขึ้นมาบอกว่า บรรยากาศบนควนตาน้อยมีความสวยงามแตกต่างจากที่อื่น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา พื้นที่แห่งนี้ยังเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยังดอยตาปังและเขาทะลุที่อยู่ไม่ไกลได้ด้วย”

ข้อมูลจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรระบุไว้ว่า เขาทะลุตั้งอยู่ในตำบลเขาทะลุ ทางทิศตะวันตกของอำเภอสวี ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 35 กิโลเมตร พื้นที่โดยทั่วไปเป็นภูเขาสูง สลับที่ราบ เป็นแหล่งต้นน้ำแม่น้ำสวีหนุ่ม มีภูเขาสูงและมีรูทะลุภูเขามองเห็นในระยะไกลและโดดเด่น

ซึ่งกลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญของตำบล ไม่ไกลจากเขาทะลุมีจุดชมวิวดอยตาปัง แต่ต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อของชาวบ้านขึ้นไปเช่นกัน สามารถติดต่อได้ที่ผู้ใหญ่บ้านเขาทะลุ

ด้าน “บุษบา เชิดสูงเนิน” เจ้าของร้านอาหาร “ครัวบุษบา” บนควนตาน้อย เปิดเผยว่า หลังจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดตัวจุดชมวิวแห่งนี้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสนใจเดินทางขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

เฉลี่ยเดือนละประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่จะมาในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้พอสมควร ยกตัวอย่างรายได้ของครัวบุษบาเฉลี่ยประมาณ 40,000 บาท/เดือน

อย่างไรก็ตาม ควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น ยังเป็นพิกัดทะเลหมอกแห่งใหม่ของจังหวัดชุมพร เป็นทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวในจังหวัดชุมพร ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว หลังจากประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และกำลังพัฒนาสู่แหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของจังหวัดชุมพรที่เป็นประตูสู่ 14 จังหวัดในภาคใต้