#ซีเซียม137 ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรีเผยพบปนเปื้อนบิ๊กแบ็ค โรงงานหลอมเหล็ก

ซีเซียม กบินทร์บุรี
ภาพจากข่าวสด (เมื่อวันที่ 19 มี.ค.66)

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี เผยผลตรวจวัดกัมมัมตรังสีพบสารซีเซียม-137 ที่โรงงงานหลอมเหล็ก อ.กบินทร์บุรี ในกระเป๋าบิ๊กแบ็ค ห่างจากโรงงานที่สูญหายประมาณ 10 กิโลเมตร สั่งควบคุมพื้นที่ตั้งแต่เย็นวาน (19 มี.ค.) ไม่แน่ชัดว่าเป็นวัตถุที่สูญหายหรือไม่

นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า สถานการณ์หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีซีเซียม-137 ที่ใช้เป็นเครื่องวัดทางอุตสาหกรรมได้สูญหายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

ปรากฏว่าเมื่อวานในช่วงเช้า (19 มีนาคม 2566) เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารค่าสารซีเซียมที่โรงงานหลอมเหล็ก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในกระเป๋าบิ๊กแบ็ค (big bag ถุงอุตสาหกรรม) และได้ทำการตรวจวัดอีกครั้งในช่วงเย็นวันเดียวกันก็ยังพบเช่นเดิม

โดยโรงงานได้นำเหล็กมารวมกันเพื่อเทลงในเตาหลอมความร้อน 1,200 องศา เมื่อหลอมเล็กเสร็จจะเกิดฝุ่นเหล็กอยู่ในระบบปิด ก่อนจะปล่อยให้เย็นแล้วตกผลึกเป็นเม็ด

ฉะนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจยืนยันชันเจนว่าเป็นสารซีเซียมอยู่ในถุงบิ๊กแบ็คจึงปิดควบคุมพื้นที่ทันที พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจวัดบริเวณโดยรอบและให้พนักงานในโรงงานดังกล่าวหยุดปฏิบัติงาน และให้เจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และหมอพยาบาลไปตรวจสุขภาพพนักงานต่อไป

“วันนี้เราพบซีเซียมผสมอยู่กับเหล็กที่มันไม่ใช่ฝุ่นเหล็กฟุ้งแบบทั่วไป มันอยู่ในระบบปิด ซึ่งเราไปเจออยู่ห่างจากโรงงานที่สูญหายประมาณ 10 กิโลเมตร แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นตัวที่เราตามหาหรือเปล่า”

สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เชื่อฝีมือมนุษย์

นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าว่า ต้นเรื่องจากโรงงานไฟฟ้าและท้ายเรื่องที่โรงงานหลอมเหล็ก เชื่อว่าเกิดโดยมนุษย์ไม่ได้หล่นเองโดยสภาพ และหน่วงงานรัฐต้องประสานงานกันทุกฝ่ายเพื่อหาสาเหตุ ถือเป็นอุบัติเหตุที่มนุษย์ยังไม่ได้รับความเสียหาย

ส่วนบริเวณที่เก็บถุงบิ๊กแบ็คมีประมาณ 24 กระสอบที่ปนเปื้อน แต่มีอยู่กระสอบหนึ่งได้ถูกนำไปถมที่บริเวณด้านหลังโรงงาน ทางเจ้าหน้าที่จึงเคลียร์พื้นที่อุดดินทั้งหมด และยกมาอยู่ในโกดังที่ปิดล้อมไว้แล้ว เพราะต้องมีขบวนการกำจัดไม่สามารถฝังกลบได้

ส่วนมาตรการต่อไปคือดำเนินการกับคนที่เกี่ยวข้อง ต้องตรวจย้อนกลับหาร่องรอยว่าใครนำมาส่งโรงงาน

“ในขบวนการตอนนี้เราไม่มั่นใจว่าอุปกรณ์หลอมหรือยัง เพราะมันจะสลายตัวเมื่อถูกความร้อน เปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวและอยู่ในเหล็กหรือยัง เพราะเมื่อพบอุณหภูมิ 600 องศาฯ มันจะกลายเป็นฝุ่นเหล็กอยู่ในระบบปิด เราวัดรอบโรงงานหลอมเหล็กแล้วไม่มีรั่วออกมาและอย่ากังวล แต่ผมไม่ยืนยันว่ามันเป็นอุปกรณ์นั้น”

ด้านนายกิตติกวิน อรามรุญ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือตรวจวัดวัตถุค่ากัมมันตรังสีซีเซียมได้จากฝุ่นโลหะที่ได้จากการผลิตโลหะ และตรวจครอบคลุมรัศมี 5 กิโลเมตรรอบโรงงาน ยังไม่พบความอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อคนและสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่าวัตถุที่พบการปนเปื้อนถูกควบคุมอยู่ในพื้นที่เฉพาะ ไม่มีการฟุ้งกระจายสู่สิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องดำเนินการให้พนักงานในโรงงานที่พบสารปนเปื้อนอยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด และต้องตรวจสุขภาพทั้งหมด 70 คน แบ่งเป็นต่างด้าว 60 คน คนไทย 10 คน

อย่างไรก็ตาม ต้องประเมินว่าจะปนเปื้อนสู่ญาติหรือครอบครัวหรือไม่ โดยต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านชีวะอนามัยประเมินเป็นช่วง 6 เดือนถึง 1 ปี ขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าระวังในวงกว้างอยู่เช่นเดิม