ฝุ่นพิษกระเทือนท่องเที่ยวเหนือ เชียงใหม่-เชียงรายยกเลิกห้องพัก 50%

สนามบินเชียงใหม่

ปัญหาฝุ่นควันกระทบท่องเที่ยวภาคเหนือ “เชียงใหม่” ยอดจองโรงแรมแผ่ว บุ๊กกิ้งล่วงหน้าเพียง 3% ชี้คนไทยหนีไปเมืองชายทะเล ส่วนทางต่างชาติ ไดเร็กต์ไฟลต์เพียบ ส่วน “เชียงราย” ตัวเลขยกเลิกห้องพักล่วงหน้าช่วงสงกรานต์ไปแล้วกว่า 50% นักท่องเที่ยวลองสเตย์ เซย์โนหนีไปเที่ยวทะเลแทน ขณะที่ร้านอาหารเอาต์ดอร์ยอดลดฮวบ

นางละเอียด บุ้งศรีทอง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นควันซึ่งเกิดขึ้นรุนแรงในพื้นที่ภาคเหนือและจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากจะส่งผลกระทบทั้งกับสุขภาพประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจด้วย เนื่องจากปีนี้สถานการณ์มีความรุนแรงกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งภาคการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ในช่วงเดือน มี.ค. ถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่น และไม่มีกิจกรรมการท่องเที่ยวดึงดูด และมีอัตราการเข้าพักต่ำอยู่แล้ว

ประกอบกับสถานการณ์ฝุ่นควันที่รุนแรง จึงทำให้นักท่องเที่ยวคนไทยตัดสินใจเดินทางไปเมืองชายทะเลมากกว่าที่จะเดินทางมาเชียงใหม่ในช่วงนี้ สะท้อนจากตัวเลขยอดจองห้องพักโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเดือน มี.ค. อยู่ที่ราว 45% จากปกติในสถานการณ์ไม่มีฝุ่นควันตัวเลขจะอยู่ที่ระดับ 55-60% ส่วนการยกเลิกการจองมีเพียง 3% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทย

ขณะที่อัตราการจองห้องพักล่วงหน้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะนี้มี booking อยู่ที่ 30-40% เท่านั้น ซึ่งอาจต้องรอช่วง 10 วัน ก่อนช่วงหยุดสงกรานต์ คาดว่ายอดจองห้องพักจะอยู่ที่ราว 65% เทียบกับช่วงปกติก่อนโควิด (ปี 2562) จะอยู่ที่ 80-85% จึงต้องรอดูสถานการณ์ว่าช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ยอดจองจะเพิ่มเข้ามาอีกหรือไม่ และล่าสุด เทศบาลนครเชียงใหม่ เตรียมจัดกิจกรรม “ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่” ชูจุดขายประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นไฮไลต์ ซึ่งมีการแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา

“คาดว่าอัตราการจองห้องพักช่วงสงกรานต์ปีนี้จะอยู่ที่ราว 65% ซึ่งคิดเฉพาะกลุ่มโรงแรม 4-5 ดาว ที่มีจำนวนราว 5,000 ห้อง ราคาห้องพักเฉลี่ย 4,000 บาทต่อห้อง (รวมวันพักเฉลี่ย 3 วันในช่วงหยุดสงกรานต์) จะมีรายได้ในส่วนของห้องพักในช่วงสงกรานต์ราว 60 ล้านบาท”

นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ภาพรวมของธุรกิจการท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นควันไม่มากนัก ซึ่งตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยอาจแผ่วลงไปบ้าง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อน (โลว์ซีซั่น) ทำให้คนไทยนิยมไปเที่ยวทะเล ขณะที่ตลาดต่างชาติกลับสวนทาง ยังคงมีการเดินทางเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีไดเร็กต์ไฟลต์จากหลายประเทศที่บินตรงมาเชียงใหม่มากถึง 29 ไฟลต์ต่อสัปดาห์ และจะเพิ่มเป็น 30 ไฟลต์ ในช่วงเดือน ก.ค. โดยเฉพาะสายการบินจากจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาฝุ่นควันจะไม่กระทบไปถึงช่วงสงกรานต์ เพราะหากสภาพอากาศมีลมมีฝนในช่วงก่อนสงกรานต์ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นควันลงได้บ้าง ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงสงกรานต์ รายได้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งระบบจะอยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากโรงแรมที่พัก การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว และการจับจ่ายซื้อสินค้าของฝาก

ท่องเที่ยวเชียงรายกระทบหนัก

นางพร้อมพร จินดาวงศ์ เนตรหาญ รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชียงรายพัฒนาเมือง (ซีอาร์ซีดี) จำกัด ยอมรับว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายได้รับผลกระทบอย่างมากจากปัญหาฝุ่นควันที่รุนแรง โดยนักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพักโรงแรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไปมากกว่า 50% จากปกติน่าจะมียอดจองห้องพักประมาณ 70%

ขณะที่นักท่องเที่ยวที่จะมาพักผ่อนแบบระยะยาวหรือลองสเตย์ ก็มีการยกเลิกการจองห้องและย้ายออกจากจังหวัดเชียงรายไปแล้ว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปและรัสเซีย ซึ่งเป็นลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566

“ตอนนี้ชาวต่างประเทศออกไปจากเชียงรายไปจังหวัดชายทะเลกันหมดแล้ ส่วนธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ ที่เป็นลักษณะ Outdoor ยอดขายตกอย่างมาก เพราะไม่มีคนออกไปรับประทานอาหาร แม้แต่คนเชียงรายเองก็อยู่แต่ในบ้าน และอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้ระบผลกระทบก็คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นคนต่างพื้นที่และต้องการจะมาใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุที่เชียงราย พอเกิดปัญหาฝุ่นควันที่รุนแรงและยังไม่ได้รับการแก้ไขชัดเจนเป็นรูปธรรม ก็ตัดสินใจยกเลิกโครงการเช่นกัน”

“สงกรานต์” ปัจจัยบวกไตรมาส 2

รศ.ผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไตรมาส 1/2566 และแนวโน้มไตรมาส 2/2566 ที่จัดทำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสากรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นไตรมาส 2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 77 จากไตรมาสแรกที่อยู่ในระดับ 74 สะท้อนว่าผู้ประกอบการเชื่อว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวน่าจะดีขึ้น แม้จะเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซ่น) โดยมีปัจจัยบวกคือ การท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวแบบอัตราเร่ง ประเทศจีนมีการผ่อนคลายมาตรการเข้าออกพรมแดน เทศกาลสงกรานต์ของไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ออกเดินทางในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5

“เทศกาลสงกรานต์ถือว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดที่มีจำนวนการเดินทางสูงที่สุดเมื่อเทียบช่วงวันหยุดอื่น ๆ ในช่วงไตรมาส 2 นี้ โดยมีดัชนีเชื่อมั่นสูงสุดอยู่ที่ระดับ 85 รองลงมาคือ วันหยุดเนื่องในวันวิสขบูชาและวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระราชินี วันหยุดช่วงวันจักรี วันแรงงาน และวันฉัตรมงคล ตามลำดับ และหากแยกตามภูมิภาคพบว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ผู้ประกอบการคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังภาคเหนือสูงสุดที่ระดับ 91 รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคตะวันตก ภาคกลาง และกรุงเทพฯ ตามลำดับ” รศ.ผกากรอง กล่าว