
ชลประทาน-ฝ่ายปกครอง ขนกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปักหมุดสร้างอ่างเก็บน้ำพื้นที่ชุมชนวังหีบ ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านเดือดผนึกกำลังขวางสุดฤทธิ์ ยันทางเดียวสร้างได้ต้องฆ่าทิ้งทั้งหมู่บ้านเท่านั้น ก่อนเจ้าหน้าที่จะยอมล่าถอยไปตั้งหลัก
วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านชุมชนวังหีบ ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ผนึกกำลังปิดทางเข้าไปยังชุมชน หลังจากนายชูศักดิ์ สุทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 15 นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอทุ่งสง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ทหารจากค่ายเทพสตรี เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้รวมหลายสิบนาย
พร้อมทั้งรถยนต์ขนหลักหมุดคอนกรีตเขตชลประทาน เดินทางเข้าไปในชุมชนวังหีบ ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายโครงการอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ของกรมชลประทาน เพื่อทำการปักแนวเขตและสำรวจผลอาสินของชาวบ้าน
โดยกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากที่ยืนยันไม่เอาโครงการดังกล่าวเข้ามาในชุมชน ได้ผนึกกำลังขวางถนนไม่ให้เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปดำเนินโครงการอย่างเด็ดขาด ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด
ทั้งนี้ ชาวบ้านยืนยันถึงการปฏิเสธไม่เอาโครงการนี้ ไม่ต้องเข้ามาดำเนินการใด ๆ ขณะที่นายชูศักดิ์ สุทธิ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 15 อ้างว่ายังไม่รู้ว่ามีพื้นที่มากน้อยแค่ไหนอย่างไร หรืออยู่ในพื้นที่ของใครบ้าง ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านยืนยันว่าไม่เอาโครงการนี้จึงไม่จำเป็นต้องสำรวจรังวัดหรือปักแนวเขต
ด้านนายยงยุทธ มณีฉาย และชาวบ้านระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้ายื่นหนังสือกับ พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ และ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยองคมนตรีได้แจ้งผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดว่า หากพื้นที่มีความขัดแย้งและชาวบ้านไม่ยินยอม โครงการเดินต่อไม่ได้
และยืนยันว่า ชาวบ้านพร้อมที่จะปกป้องถิ่นอาศัยหลายชั่วคนนี้ด้วยชีวิต มีทางเดียวที่จะสร้างได้คือเอาระเบิดมาบอมบ์ทั้งชุมชนให้ตายทุกคน แล้วเมื่อนั้นจึงจะเข้ามาสร้างได้ ขณะเจ้าหน้าที่อ้างว่าต้องทำตามหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านทั้งหมดได้ปักหลักบริเวณทางเข้าชุมชนเพื่อยืนยันเจตนารมณ์ไม่เอาโครงการ และให้ทบทวนแผนที่เก่ากว่า 30 ปี ซึ่งยังไม่มีการปรับแก้ไปตามสถานการณ์ในพื้นที่จริง ขณะที่บริบทของชุมชนเปลี่ยนไปมากแล้ว แต่แผนการก่อสร้างไม่เคยถูกปรับไปตามความเปลี่ยนแปลง
ทั้งหมดได้ปักหลักบริเวณทางขึ้น ต่อมาฝ่ายเจ้าหน้าที่จึงได้ล่าถอยไปปักหลักอยู่ที่วัดสำโรง ห่างจากชุมชนประมาณ 10 กม. เพื่อประชุมหารือในการเข้าชุมชนปักแนวเขตสร้างโครงการให้ได้ ทำให้บรรยากาศในพื้นที่เป็นไปด้วยความตึงเครียด