สกายวอล์กเมืองกาญจน์ เฟส 2 เปิดเข้าชมเดือนสิงหาคมนี้

สกายวอล์ค กาญจนบุรี

“สกายวอล์ก” เมืองกาญจน์ เฟส 2  ริมแม่น้ำแควใหญ่ แล้วเสร็จ 100% พร้อมเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการกลางเดือนสิงหาคมนี้ คาดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของกาญจนบุรีเพิ่มขึ้น เล็งเดินหน้าต่อเฟส 3

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าโครงการปรับปรุงสกายวอล์กริมแม่น้ำแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี เฟส 2 ว่า ล่าสุดเสร็จสมบูรณ์ 100% แล้ว หลังจากประสบความสำเร็จในเฟสแรก และประชาชนให้ความสนใจเข้าชมจำนวนมาก ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ยื่นเข้าไปในแม่น้ำ 2 สี คือ แม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแควใหญ่ ที่ไหลมาบรรจบกันที่บ้านลิ้นช้าง เป็นจุดเริ่มต้นของ “แม่น้ำแม่กลอง” และคาดว่า เฟส 2 จะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างเป็นทางการไม่เกินกลางเดือนสิงหาคมนี้

โดยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา “ทศพล ไชยโกมินทร์” ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือแนวทางการพัฒนาพื้นที่ถนนสองแคว การจัดระเบียบแพ และการดำเนินโครงการก่อสร้าง Sky Walk เฟส 3 และผลการหารือเป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายมีความเห็นชอบร่วมกันในการพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และจะตั้งคณะกรรมการขึ้น 2 ชุด เพื่อกำหนดการวางแผนการเคลื่อนย้ายแพ พร้อมจัดหาสถานที่ตั้งแพอาหารที่มีความสะดวกเหมาะสมสามารถอยู่ได้ในระยะยาว

แลนด์มาร์กแห่งใหม่

สำหรับ “สกายวอล์ก” (Sky Walk) ที่ทอดยาวริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี เกิดจากโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาเมืองเก่ากาญจนบุรีและสองฝั่งแม่น้ำแควน้อย แควใหญ่

เริ่มจากที่จังหวัดกาญจนบุรีได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแพรุกล้ำบริเวณแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย รวมทั้งทางภาคเอกชน ได้เสนอขอรับการสนับสนุนในการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสองฝั่งแม่น้ำแควน้อย-แควใหญ่ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวจากคณะรัฐมนตรี ตลอดจนจัดระเบียบและปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมฝั่งถนนแม่น้ำแคว จัดทำเป็น Walking Street สวนสาธารณะ ลานกิจกรรม ให้เป็นพื้นที่สาธารณะของชาวเมืองกาญจนบุรี เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในตัวเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

เมื่อดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จก็ได้ส่งมอบให้ทางสำนักงานเทศบาลเมืองกาญจนบุรีดำเนินการเปิดให้บริการประชาชนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในตัวเมืองกาญจน์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด

สกายวอล์กกาญจนบุรี สามารถดึงนักท่องเที่ยวให้ใช้เวลาในตัวเมืองเพิ่มมากขึ้น เพราะเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวอื่น เช่น ย่านเมืองเก่าปากแพรก โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี ล่องแพอาหารในแม่น้ำ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ฯลฯ โดยเฉพาะเย็นวันเสาร์ที่มี “ถนนคนเดินสองแคว” สร้างเงินสะพัดให้กว่า 600 ร้านค้า

นางสาวสรียา บุญมาก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี เปิดเผยว่า
แต่เดิมพื้นที่บริเวณที่มีการก่อสร้าง Sky walk เป็นจุดจอดแพพัก แพล่องจำนวนมาก ทำให้บดบังทัศนียภาพริมแม่น้ำ และชาวบ้านบางส่วนมีการก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ นอกจากนี้จังหวัดกาญจนบุรียังมีปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวที่กระจุกตัวอยู่เฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมตามอำเภอต่าง ๆ รอบนอก นักท่องเที่ยวใช้อำเภอเมืองเป็นเพียงเส้นทางผ่านไปสู่อำเภออื่น ๆ เท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ ทางจังหวัดกาญจนบุรีจึงได้เข้ามาดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ และก่อสร้างสะพานทางเดินลอยฟ้า (Sky Walk) ขึ้นเพื่อใช้เป็นจุดชมวิวบริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำแควใหญ่และแควน้อย ที่ไหลมารวมกันเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่กลอง

รวมถึงมีการก่อสร้างท่าเทียบเรือแพแห่งใหม่ที่ได้มาตรฐาน เป็นการสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และพักค้างในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรีเพิ่มมากขึ้น

ชู “สะพานกระจก” ชมแม่น้ำสามสาย

แนวคิดหลักของการก่อสร้าง Sky walk คือ ต้องการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าถึงธรรมชาติ โดยในการออกแบบสถาปนิกได้นำเอา “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในระดับโลก มาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมไทยเข้าไว้ด้วยกัน และเพิ่มความน่าสนใจด้วยสะพานกระจกที่ยื่นออกไปชมแม่น้ำสามสาย โดยไม่ใช้สลิงยึด

โครงการก่อสร้าง Sky walk และการปรับปรุงพื้นที่บริเวณโดยรอบ ขณะนี้ได้ดำเนินการในเฟสที่ 2 เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอการส่งมอบหน่วยงานไปบริหารจัดการและเปิดให้เข้าชมเร็ว ๆ นี้ โดยในเฟส 1 เป็น โครงการปรับปรุงฟื้นฟู และจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวเดิม และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่โดดเด่นทั้งด้านธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิต กิจกรรมปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ

สำหรับเฟส 2 เป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และอารยธรรมทวารวดี กิจกรรมปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเทียบเรือขุนแผน ระยะที่ 2 ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้ควบคุมงานและดำเนินการก่อสร้าง ได้ส่งมอบทรัพย์สินสิ่งปลูกสร้าง Skywalk ให้แก่หน่วยงานท้องถิ่น คือ เทศบาลเมืองกาญจนบุรี เป็นผู้ดูแลปกติมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ วันธรรมดา มีนักท่องเที่ยวเข้าชมประมาณ 300-500 คน คิดเป็นคนไทย ประมาณร้อยละ 80 และชาวต่างชาติประมาณร้อยละ 20

ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีนักท่องเที่ยวเข้าชม ประมาณ 700-1,200 คน คิดเป็นคนไทย ประมาณร้อยละ 65 และชาวต่างชาติประมาณร้อยละ 35 ในส่วนของชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยว 4 อันดับสูงสุด ได้แก่ อันดับ 1 นักท่องเที่ยวเมียนมา อันดับ 2 นักท่องเที่ยวจากยุโรป และอเมริกา อันดับ 3 นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น อันดับ 4 นักท่องเที่ยวไต้หวัน

สำหรับการใช้บริการ วัน/เวลา การเปิดให้บริการของ Skywalk วันธรรมดา เปิดให้ขึ้นเที่ยวชม ระหว่างเวลา 09.00-18.00 น. ส่วน วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดให้เที่ยวชม ระหว่างเวลา 08.00-19.00 น. โดยคิดค่าบริการ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ คนละ 60 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีความสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ยกเว้นค่าบริการเข้าชม

ส่วนค่าบริการ 60 บาท แบ่งเป็น ค่าบริหารจัดการ จำนวน 30 บาท และค่ารองเท้าสำหรับนักท่องเที่ยว จำนวน 30 บาท (รองเท้าที่ได้รับสามารถนำกลับบ้านได้เลย ซึ่งหากนักท่องเที่ยวนำรองเท้ากลับมาใช้บริการในครั้งถัดไป จะเสียค่าบริการเพียงแค่ 30 บาทเท่านั้น)

Skywalk กาญจนบุรี ได้รับคำชมจากนักท่องเที่ยวว่า มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มีบริการที่ดี เจ้าหน้าที่ใส่ใจในการให้บริการ ขณะที่ชาวต่างชาติมีความพึงพอใจมากในการเยี่ยมชม และได้นำไปประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมอีก

“ทั้งนี้ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี ได้จัดทำแผ่นพับแนะนำ Skywalk และ 11 แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ในรูปแบบแผนที่ และข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแบบสั้น ๆ มีป้ายคำแนะนำในการเที่ยวชม ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า Skywalk 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย อังกฤษ จีน และพม่า (เมียนมา) เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ” นางสาวสรียา บุญมาก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี กล่าว

สำหรับโครงการสกายวอล์กเฟสที่ 1 ใช้เงินงบประมาณปี 2565 การก่อสร้างประกอบด้วยอาคารขึ้นลงสูง 4 ชั้น และตัวสกายวอล์กเป็นกระจกนิรภัย 3 ชั้น ยาวประมาณ 144 เมตร กว้าง 1.50 เมตร สูงจากระดับถนนสองแคว 12 เมตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่

ด้านหนึ่งมองเห็นทัศนียภาพของหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ที่บริเวณท่าน้ำวัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง หรือวัดเหนือ อีกด้านหนึ่งเป็นมุมมองแม่น้ำ 3 สาย ได้ส่งมอบให้เทศบาลเมืองกาญจนบุรีเป็นผู้ดูแล และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมตั้งแต่กลางปี 2565

ส่วนโครงการสกายวอล์กเฟสที่ 2 เชื่อมต่อกับโครงการสกายวอล์กเฟสที่ 1 โดยมีทางเดินรวมประมาณ 120 เมตร ไฮไลต์อยู่ที่บริเวณปลายของสกายวอล์กยื่นออกไปประมาณ 25 เมตร เพื่อชมแม่น้ำ 2 สีที่ไหลบรรจบกัน ได้แก่ แม่น้ำแควน้อย และแม่น้ำแควใหญ่ รวมกันเป็นต้นแม่น้ำแม่กลอง โดยใช้โครงสร้างพิเศษในการยื่นรับพื้นกระจกเพื่อให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบถนนสองแควให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นรวมอยู่ในโครงการนี้ด้วย
ส่วนเฟส 3 กำลังจะเริ่มดำเนินการ ซึ่งเป็นตัวอาคารประชาสัมพันธ์ เป็นอาคารนิทรรศการพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ สำหรับบอกเล่าเรื่องราวและประวัติการเรียนรู้ในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่มาตั้งฐานทัพรับศึกที่บริเวณนี้ พร้อมทั้งมีอาคารประกอบรายล้อมซึ่งจะเป็นร้านค้าไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวชม