เทศบาลตำบลบุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เร่งช่วยเหลือประชาชนเนื่องจากน้ำในแม่น้ำมูลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตร ขณะเดียวกัน โครงการชลประทานอุบลราชธานีก็เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการวางกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำมูลแล้ว
วันที่ 28 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปรีชา เงินหมื่น นายกเทศมนตรีตำบลบุ่งไหม เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำในแม่น้ำมูล พื้นที่อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ลุ่มต่ำติดริมฝั่งแม่น้ำแล้ว และคาดว่าผลกระทบจะขยายเป็นวงกว้าง
ขณะนี้เทศบาลตำบลบุ่งไหมได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจอุทกภัย วาตภัย บ้านกุดระงุม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัย พร้อมมอบหมายเจ้าหน้าที่เทศบาลลงพื้นที่กางเต็นท์เตรียมสถานที่รองรับผู้ที่ขนย้ายสิ่งของหนีน้ำท่วม มาพักอาศัยที่ศูนย์อพยพเฉพาะกิจ จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกหากน้ำล้นตลิ่งถึงบ้านเรือน
ทั้งนี้ มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว 12 ครัวเรือน อพยพ 4 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 70 ไร่ โค กระบือ ประมาณ 80 ตัว และคาดว่าจะมีราษฎรที่ได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น เพราะพื้นที่บ้านกุดระงุมเป็นพื้นที่สุดท้ายและเป็นคอขวดของแม่น้ำมูล
ด้านโครงการชลประทานอุบลราชธานี ก็ร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 7 เทศบาลเมืองวารินชำราบ และกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 6 ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการวางกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำมูล ที่ชุมชนท่ากอไผ่ อำเภอวารินชำราบ
โดนนายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี มอบหมายให้นายมารุต องค์สถาพร หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน และนายชานนท์ พันธุยา หัวหน้าฝ่ายช่างกล ร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 7 เทศบาลเมืองวารินชำราบ และ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 6 ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการวางกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำมูล ที่ชุมชนท่ากอไผ่ อำเภอวารินชำราบ
เนื่องจากระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นและบริเวณดังกล่าวเป็นจุดฟันหลอไม่มีพนังกันน้ำ ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าภายในชุมชน พร้อมดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 4 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง เร่งสูบระบายน้ำท่วมขังออกจากบ้านเรือนพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบ โดยทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 13 อุบลราชธานี ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมเดินเครื่อง เพื่อเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ชุมชนดังกล่าวด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ นายสัมพันธ์ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งสถานการณ์ระดับน้ำที่จุดเฝ้าระวังเตือนภัยน้ำท่วม ในเขตอำเภอเมืองอุบลราชธานีที่ชุมชนหาดคูเดื่อ และในเขตอำเภอวารินชำราบ ที่ชุมชนท่าก่อไผ่ ชุมชนดีงาม และชุมชนท่าบ้งมั่ง ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในเกณฑ์วิกฤต (ล้นตลิ่งฝั่งอำเภอวารินชำราบ 0.55 เมตร) และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนเคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงและระวังภัยที่เกิดจากน้ำ