ค้าชายแดนหนองคาย สูญพันล้าน ! สินค้าจีน-เวียดนามถล่มตลาด

ด่านศุลกากรหนองคาย เผยยอดการค้าชายแดนไทย-ลาว 5 เดือนแรกปีงบประมาณ 2561 สูญกว่าพันล้านเหตุสินค้าจีน-เวียดนาม ตีตลาดหนุนยกจุดผ่อนปรนเป็นด่านถาวร 

นายนิมิต แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย เปิดเผยถึงการค้าชายแดนระหว่างไทย-ลาว ที่ผ่านด่านศุลกากรหนองคาย ช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560-กุมภาพันธ์ 2561) ว่า มีมูลค่าการส่งออก-นำเข้า รวม 26,489 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออก 23,120 ล้านบาท และนำเข้าจาก สปป.ลาว 3,369 ล้านบาท หรือมีตัวเลขที่ลดลง 1,158 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2560 ที่มีมูลค่าการส่งออก-นำเข้า รวม 27,647 ล้านบาท เป็นการนำเข้า 3,890 ล้านบาท และส่งออก 23,750 ล้านบาท และนำเข้า 3,890 ล้านบาทคาดว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2561 มูลค่าการส่งออก-นำเข้า อาจจะมีตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปีงบประมาณ 2560 มีมูลค่าการส่งออก-นำเข้า รวม 63,165 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออก 54,273 ล้านบาท นำเข้า 8,892 ล้านบาท

ทั้งนี้สินค้าที่มีการส่งออกมากสุด ยังคงเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์น้ำมัน มีมูลค่าถึง 4,219 ล้านบาท รองลงมาเป็นรถยนต์นั่งขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเครื่องปรับอากาศ ที่มีมูลค่า 2,308 ล้านบาท อันดับ 3 เป็นสารอินทรีย์ที่เป็นตัวลดแรงตึงผิว มีมูลค่า 854 ล้านบาท อันดับที่ 4 เป็นรถบรรทุก 635 ล้านบาท และอันดับที่ 5 เป็นเครื่องดื่มรวมถึงน้ำอัดลม 471 ล้านบาท ส่วนสินค้านำเข้าสูงสุดคือ พลังงานไฟฟ้า ที่มีมูลค่าสูงถึง 2,129 ล้านบาท อันดับ 2 ชุดสายไฟสำเร็จรูป/สายเคเบิล 274 ล้านบาท และอันดับ 3 พื้นรองเท้าด้านนอกและส้นรองเท้าทำด้วยยาง พลาสติก 150 ล้านบาท

ชายแดนเดี้ยง – ด่านศุลกากรหนองคาย ซึ่งในอดีตค่อนข้างคึกคัก วันนี้กำลังถูกสินค้าราคาถูกจากจีนและเวียดนามตีตลาดอย่างหนัก ส่งผลให้ยอดการค้าชายแดนไทย-ลาว ลดลงในทุกสินค้า

ปัจจัยหลักที่ทำให้มูลค่าสินค้าส่งออกมีมูลค่าลดลง เนื่องจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสินค้าส่งออกที่มูลค่าสูงส่วนใหญ่เป็นวัสดุ-อุปกรณ์ก่อสร้าง และน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนสินค้าอุปโภค-บริโภค มีมูลค่าลดลง เนื่องจากที่ผ่านมาสินค้ากลุ่มนี้ถูกทดแทนด้วยสินค้าที่มาจากประเทศจีนและเวียดนาม ที่มีราคาถูกกว่าสินค้าจากไทย และทำให้สินค้าจากไทยมีส่วนแบ่งในตลาดลดลง

ในอนาคตสินค้าอุปโภค-บริโภคจากไทย มีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าการส่งออกไป สปป.ลาว ลดลงอีก ซึ่งจะเป็นผลมาจากรถไฟความเร็วสูงจากจีน-ลาว ที่สร้างเสร็จในปี 2565 จะทำให้สินค้าจากจีนถูกส่งมาถึงตลาดใน สปป.ลาว ได้เร็วขึ้นและสะดวกขึ้น ซึ่งจะเข้ามาทดแทนสินค้าจากไทยมากขึ้น เช่นเดียวกับสินค้าจากเวียดนามที่ได้เปรียบสินค้าจากไทยในแง่การมีอัตราภาษีต่ำหรือบางชนิดไม่มีภาษี ทำให้สินค้าที่มาจากทั้ง 2 ประเทศมีราคาถูกกว่าสินค้าของไทย ที่ถูกเก็บภาษีขาเข้าจาก สปป.ลาว

“การที่ทางการลาวเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากไทยในช่วงที่ผ่านมาไม่มีผลกระทบ และทำให้การนำเข้าสินค้าจากไทยลดลง เนื่องจากได้มีการประสานงานกัน และมีการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ไปแล้ว ด้วยการใช้ระเบียบศุลกากรข้อ 153 คือหากสิ่งของที่จะนำข้ามไป สปป.ลาว ไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ต้องทำใบขนสินค้า ให้ไปที่พรมแดนไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรก็สามารถขนสินค้าออกไปได้ ซึ่งทำให้สถานการณ์ดีขึ้น”

นายด่านศุลกากรหนองคายกล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้ยกระดับจุดผ่อนปรน 4 แห่งเป็นด่านพรมแดนถาวรทั้งหมด จะช่วยเพิ่มปริมาณการค้าชายแดนให้มีมูลค่ามากขึ้น

การยกฐานะเป็นด่านพรมแดนถาวรแล้วจะสามารถส่งออก-นำเข้าสินค้าได้ทุกประเภทและทุกวัน ที่ผ่านมาทางการ สปป.ลาว ก็เคยริเริ่มในเรื่องนี้เช่นกัน ทางการไทยก็เห็นสอดคล้องกัน จึงต้องมีการเจรจาร่วมกัน

โดยจุดผ่อนปรนบ้านหม้อถือว่ามีความเหมาะสมในการยกฐานะมาก เพราะอยู่ตรงกันข้ามเมืองหลวงของ สปป.ลาว และอยู่ตรงกันข้ามกับจุดกระจายสินค้าใหญ่ ปีที่ผ่านมามีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 512 ล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่เป็นผัก ผลไม้ และอาหารสด นอกจากนี้ จะทำให้สามารถส่งสินค้าอุปโภค-บริโภคจากไทยไปได้มากขึ้นจากที่ปัจจุบันเปิดเพียง 3 วัน