“หาญณรงค์” ค้านสุดตัวแลนด์บริดจ์-ฉะรัฐบาลตอบคำถามไม่ชัดเจนสักเรื่อง

ค้านสุดตัวแลนด์บริดจ์

“หาญณรงค์” ค้านสุดตัวแลนด์บริดจ์-ฉะรัฐบาลตอบคำถามไม่ชัดเจนสักเรื่อง แจงการถมทะเลกระทบเรือประมงพื้นบ้านกว่า 7 พันลำ

วันที่ 20 มกราคม 2567 นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนยังไม่เห็นด้วยกับโครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง เพราะรัฐบาลยังตอบคำถามต่างๆ ในเรื่องนี้ไม่ชัดเจนแม้แต่ข้อเดียว

กรณีการถมทะเลกว่า 6 พันไร่ เพื่อจะนำเรือขนาดใหญ่ที่กินน้ำลึกถึง 20.5 เมตรเข้ามา ส่งผลกระทบกับชาวประมงที่ประกอบอาชีพเรือประมงพื้นบ้านแน่นอน โดยในส่วนจ.ชุมพร มีประมาณ 3,600 ลำ สร้างรายได้ปีละ 3,000 ล้านบาท ส่วนระนองมีเรือประมงพื้นบ้านประมาณ 3,400 ลำ สร้างรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาท หากขุดลอกชายฝั่งออกไป 13.5 กม.เรือประมงขนาดเล็กคงออกไม่ได้ รัฐบาลจะชดเชยชาวประมงที่ต้องสูญเสียอาชีพอย่างไร

“หลายคนต้องเสียทั้งที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย นอกจากนั้น โครงการดังกล่าวยังจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ป่าชายเลยและพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งระนองกำลังจะได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางทะเล ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่เขตโครงการแลนด์บริดจ์ด้วย แสดงว่ารัฐบาลไม่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเลย ถ้าคิดจะเดินหน้าโครงการนี้จริงๆ อยากเสนอให้ย้ายไปที่เดิมคือฝั่งสุราษฎร์ธานี-กระบี่ ที่เคยมีการสำรวจศึกษาและเวนคืนที่ดินไปแล้ว 3,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ได้แจ้งว่าจะนำน้ำจากเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) จ.สุราษฎร์ธานีมาใช้ในโครงการ แต่ตอบไม่ได้ว่าต้องนำน้ำมากี่หมื่นล้านลิตร แล้วจะนำมาอย่างไร ถือเป็นการพูดง่ายแต่ทำยาก”

นายหาญณรงค์ กล่าวต่อไปว่า กมธ.วิสามัญฯ พิจารณาเรื่องนี้ในกรอบ 90 วัน โดยเชิญ 14-15 หน่วยงานมาประชุมหารือแล้ว 10 ครั้ง ส่วนใหญ่บอกว่าเห็นด้วย แต่อยู่บนพื้นฐานอะไรก็ยังตอบไม่ชัด รัฐบาลมีหลักประกันความเสี่ยงของโครงการหรือไม่ว่า หากไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ในการจ่าย และจะเอาเงินจากไหนมาจ่าย”นายหาญณรงค์ กล่าว

ค้านแลนด์บริดจ์