เศรษฐกิจภูมิภาค

เปิดไอเดียจาก “กางเกงแมว” สู่ “เจ้าเมื่อย” แก๊งแมวกวักโบราณ

จิรพิสิฐ์ รุจน์เจริญ
สัมภาษณ์

นับเป็นอีกหนึ่งหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ไขว่คว้าหาโอกาสทางธุรกิจมาต่อยอดไม่เคยหยุดนิ่ง “จิรพิสิษฐ์ รุจร์เจริญ” หรือ “โจ” ประธาน YEC (Young Entrepreneur Chamber of Commerce : YEC) หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และประธาน YEC Food Network หอการค้าไทย

“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ถึงกระแส “กางเกงแมวโคราช” ที่โด่งดังระดับโลกต่อยอดด้วยไอเดียส่วนตัวสู่ “เจ้าเมื่อย” Art Toy

Soft Power กางเกงแมว

หลังจากที่หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้รับงบประมาณสนับสนุนจากทางจังหวัดนครราชสีมาในการจัดการประกวดหาลายโคราช โมโนแกรม (Korat Monogram) เพื่อให้เป็นลายเอกลักษณ์ของจังหวัดในเชิงสัญลักษณ์ทางภาพ เพื่อให้สื่อถึงอัตลักษณ์ของจังหวัดนครราชสีมา มีองค์ประกอบที่ลงตัว งดงาม และสามารถประยุกต์ใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัย

โดยสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของเมืองโคราช และความเป็นโคราชมากที่สุด มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดมากกว่า 100 ผลงาน และมีศิลปินระดับประเทศเป็นกรรมการตัดสิน จนได้ลาย Korat Monogram

ในช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้ชื่องาน “มามูย่า” และได้ทำการเปิดตัวลาย Korat Monogram ในการผลิตสินค้าต่าง ๆ ออกมาพร้อม ๆ กัน ทั้งกระเป๋า หมวก แก้วน้ำ เสื้อ

ทำให้เกิดกระแสกางเกงแมวโคราชขึ้นภายในงานครั้งนี้ กลายเป็น Soft Power ดังไปทั่วประเทศ มีผู้ประกอบการนำลาย Korat Monogram ไปต่อยอดผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายอย่างแพร่หลาย เกิดเป็นมูลค่าทางการตลาดมากกว่า 100 ล้านบาท

รวมทั้ง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด หรือ 7-Eleven ได้ติดต่อเข้ามาที่หอการค้าเพื่อนำลาย Korat Monogram ไปพิมพ์ลายบนเสื้อ และกางเกงโคราชในช่วงวันตรุษจีนในทุกสาขาทั่วประเทศ

ล่าสุดทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ร่วมมือกับภาครัฐ และเอกชน ผลักดันกางเกงแมวโคราชไปประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วโลกได้รู้จักผ่านบริษัทผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลเอ็นเตอร์เทนเมนต์รายหนึ่ง ซึ่งทำไอเท็มในเกมออนไลน์ เช่น Free Fire ซึ่งเป็นเกมชื่อดังระดับโลก

โดยตัวการ์ตูนในเกมจะใส่กางเกงแมว ในแต่ละไตรมาส Free Fire สามารถเข้าถึงผู้เล่นได้มากกว่า 568 ล้านคน จากกว่า 160 ประเทศทั่วโลก นับเป็นการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้เล่นเกมทั้งในไทย และต่างประเทศ ได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นการเผยแพร่เสน่ห์ของประเทศไทยในมุมใหม่ ๆ ออกไปสู่สายตาต่างชาติ และคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เล่นทั่วโลก

ที่สำคัญเจ้าของเกม Free Fire ได้นำกางเกงแมวไปประชาสัมพันธ์ให้ฟรี เพื่อช่วยสนับสนุนสินค้าของคนในท้องถิ่น โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ลักษณะเป็น Free Media โดยทางบริษัทบอกว่าหากตีเป็นมูลค่าในการทำประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ จะเป็นค่าใช้จ่ายถึง 363 ล้านบาท

arttoy เจ้าเมื่อย

นับเป็นการต่อยอดการประยุกต์ใช้ดิจิทัลคอนเทนต์จากอุตสาหกรรมเกม และอีสปอร์ตที่กำลังเติบโต และถือเป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ที่สะท้อนวัฒนธรรม เรื่องราว และเสน่ห์ของประเทศไทย นำไปสู่การสร้าง Soft Power ต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า ระบบนิเวศ Soft Power สำคัญ สร้างมาแล้วไม่ถูกสนับสนุนต่อก็จะเป็นแค่ วัตถุอย่างหนึ่ง ระบบนิเวศควรจะมี 1.สร้างสรรค์ ผลงานหรือหยิบยกอัตลักษณ์ใด ๆ ที่น่าสนใจขึ้นมาอย่างสร้างสรรค์ 2.ส่งเสริม ต้องช่วยกันส่งเสริมทั้งภาครัฐและเอกชน

3.สื่อสาร ต้องสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ไม่เป็นแค่โยนหินลงน้ำ ที่กระเพื่อมแล้วจมหายไป 4.สนับสนุน ต้องได้รับการสนับสนุนที่ดี เพราะ Soft Power จะต้องสร้างภาพจำ ต้องใช้เวลา กว่าคนจะซึมซับ กว่าคนจะจำได้ว่า โคราชคืออะไร

ต่อยอดสู่ Art Toy “เจ้าเมื่อย”

ขณะที่กางเกงแมวได้รับความนิยม และกลายเป็นกระแสแรงขึ้น เมื่อถูกนำไปประชาสัมพันธ์ผ่านเกม Free Fire ผมเองมองเห็นช่องทางธุรกิจส่วนตัวที่จะต่อยอดสร้างรายได้จากสิ่งที่เรามีอยู่ จาก Local to Global ผมเลยหยิบสตอรี่ของแมว

โดยนำเอาอัตลักษณ์เรื่องแมวในสมุดข่อยโบราณกว่า 600 ปี ซึ่งผมไปศึกษาดูประวัติ และรายละเอียดของแมวต่าง ๆ มามาก ขณะเดียวกันผมคิดว่า ถ้าแมวกวักของญี่ปุ่น คนรู้จักทั่วโลกได้ แมวกวักไทยก็ต้องทำได้เหมือนกัน

จึงได้ทำเป็น Art Toy แมว ตั้งชื่อว่า “เจ้าเมื่อย” ผสมกับ “ความมูเตลู” ผ่านแมวมงคลโบราณของไทย 5 สายพันธุ์ ออกมาเป็น “เจ้าเมื่อยแก๊งแมวกวักโบราณ” เพื่อให้แมวโคราชได้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก Art Toy โดยหน้าตาแมวเจ้าเมื่อยก็ตามชื่อเลยครับ ผมรู้สึกว่าถ้าเราเป็นแมวที่ให้พร แล้วต้องมากวักแบบนี้ตลอดเวลาคงจะเบื่อ จะเหนื่อยมากแน่ ๆ เลยออกแบบหน้าตาแมวเจ้าเมื่อยตามชื่อเลยครับ

“เจ้าเมื่อยแก๊งแมวกวักโบราณ” เป็นแมวสายพันธุ์ไทย ที่มีดอกไม้มงคลของไทยที่บนหัว ฐานมาจากสถานที่สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ในไทย เพื่อตอกย้ำให้คนต่างชาติรู้จักประเทศไทยมากขึ้น เจ้าเมื่อยแมว Art Toy ของไทยจะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านการ์ตูนแคแร็กเตอร์ กวักคนทั่วโลกให้มาเที่ยวเมืองไทย ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่สื่อสารออกไปบอกเล่าเรื่องราวว่าประเทศไทยน่าสนใจอย่างไรบ้าง

โดยเวอร์ชั่นแรกจะเป็นแมวมงคลโบราณของไทย 5 ตัว คือ เป็นตัวแทนเจ้าถิ่น 5 ภาคที่พาไปเที่ยวรู้จักศิลปวัฒนธรรม อาหารต่าง ๆ ทุกตัวจะมี “ดินด่านเกวียน” ที่เป็น “จี้ห้อยคอ” อยู่ในแต่ละตัว พร้อมปลุกเสกคาถา และมีใส่แผ่นทองไปในกล่องด้วย โดยแต่ละตัว จะมีสัญลักษณ์ สำคัญบนหัว ส่วนฐานที่ตั้งทำเป็นสถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่มีความหมาย เช่น 1.เจ้าเมื่อย แมวศุภลักษณ์ บนหัวเป็นดอกทานตะวัน คือความเจริญรุ่งเรือง ส่วนฐานเป็นสมอเรือ คือการเจรจาค้าขายหน้าที่การงาน

2.เจ้าเมื่อย แมวขาวมณี หัวมีปีก และสร้อยดาวแห่งความรัก ฐานเป็นรูปหัวใจ เป็นกิมมิก ที่ต้องสุ่มซื้อเพื่อหาคู่อีกตัวให้มาประกบกัน

3.เจ้าเมื่อย แมวสีสวาด เจ้าเมื่อยแมวโคราช ที่หัวเป็นดอกสาธร ฐานมาจากฐานย่าโม ประตูเมืองทั้งสี่ หมายถึงรากฐานที่มั่นคง โชคลาภ

4.เจ้าเมื่อย แมววิเชียรมาศ ที่หัวมีดอกบัวหลวง ฐานมาจากลักษณะฐานของวัดอรุณที่ดึงดูดคนจากทั่วโลก โดดเด่นเรื่องเมตตา มหานิยม และ 5.เจ้าเมื่อย แมวโกญจา ที่หัวเป็นปลาหมึกจะพ่นปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดี ฐานเป็นปลากระเบนราหูปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดี แคล้วคลาด ปลอดภัย

“ผมขายเป็นลักษณะกล่องสุ่ม ราคา 399 บาทต่อตัว หากใครสั่งซื้อเราจะส่งเจ้าเมื่อยไปให้ ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่า ต้องการเจ้าเมื่อยแบบใด เพราะจะสุ่มส่งไปให้ เป็นเรื่องสายมูว่าใครจะเหมาะกับเจ้าเมื่อยแบบใด”

ผมดีใจมาก ๆ ครับที่เป็นจุดเริ่มต้นให้กับคนรุ่นใหม่ หรือเมืองรองต่าง ๆ ให้คนรู้จัก การจะดึงคนมาเที่ยวได้ ต้องให้เขารู้ก่อน เรามีอะไรดี มีอะไรน่าสนใจ เราต้องสื่อสารซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ ออกไป ถ้าแมวกวักของญี่ปุ่น คนรู้จักทั่วโลกได้ แมวกวักไทยก็ต้องทำได้เหมือนกัน ฝากสนับสนุน แมวกวักไทย ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยครับ”