
“แอคคาส กรุ๊ป” ผู้นำเข้าสินค้ากลุ่มวิศวกรรมสำหรับอาคารสูง กางแผนปี’67 ส่งสินค้า 5 กลุ่มหลัก บุกตลาดภูเก็ต-เชียงใหม่-กทม.เต็มสูบ พร้อมดันประตูรีโมต “นาเน่” เจาะโครงการบ้านหรู-ลักเซอรี่ 50 โครงการ ไม่หวั่นสินค้าจีนตีตลาด ชูจุดขายสินค้าแบรนด์นำเข้ามาตรฐานระดับโลก
นายเจษฎา รุจจนพันธ์ ผู้อำนวยการ บริษัท แอคคาส กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มวิศวกรรมสำหรับอาคารสูง และประตูรีโมต ภายใต้แบรนด์ “นาเน่” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปลายปี 2567 ทางบริษัท แอคคาส กรุ๊ป มีแผนขยายตลาดประตูรีโมตไปยังจังหวัดต่าง ๆ เช่น จังหวัดภูเก็ต จากที่ก่อนหน้านี้ได้นำสินค้ากลุ่มวิศวกรรมสำหรับอาคารสูงไปเจาะตลาดเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว

ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ทำตลาดมากว่า 24 ปีแล้ว ถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก มีสัดส่วนสินค้ากลุ่มประตูรีโมต 50% และสินค้ากลุ่มวิศวกรรมสำหรับอาคารสูง 50%
“เราเริ่มบุกเบิกตลาดด้วยสินค้ากลุ่ม ‘ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้’ ซึ่งถือเป็นสินค้ากลุ่มแรกที่สร้างชื่อ ตามติดมาด้วยสินค้าอีก 4 กลุ่ม คือ ระบบป้องกันภัยจากฟ้าผ่า, ระบบควบคุมแสงไฟในอาคาร, ระบบดับเพลิง และระบบประตูรีโมต จากนั้นปี 2543 ได้ขยายสาขามายังหัวเมืองหลัก ‘เชียงใหม่’ เป็นสาขาแรกในภูมิภาค บุกตลาดประตูรีโมต ภายใต้แบรนด์ ‘นาเน่’ (NAANE) และขยายสาขาไปภูเก็ตเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว เจาะตลาดสินค้ากลุ่มวิศวกรรมสำหรับอาคารสูง พร้อมเตรียมเจาะตลาดประตูรีโมตเมืองภูเก็ตปลายปีนี้”
ทั้งนี้ ปี 2566 ที่ผ่านมา รายได้ของบริษัท อยู่ที่ 150 ล้านบาท แบ่งเป็น สัดส่วนตลาดกรุงเทพฯ 70% (105 ล้านบาท) เชียงใหม่ 15% (22.5 ล้านบาท) และภูเก็ต 15% (22.5 ล้านบาท) โดยรายได้หลักมาจากสินค้ากลุ่มวิศวกรรมสำหรับอาคารสูง รองลงมาคือ ประตูรีโมตภายใต้แบรนด์ “นาเน่” และระบบประตูอัตโนมัติ
ซึ่งฐานลูกค้าหลักประกอบด้วย องค์กร หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้รับเหมา ดีเวลอปเปอร์ และผู้บริโภคทั่วไป อาทิ ลูกค้ากลุ่มสนามบินและคมนาคม (รถไฟฟ้าสายสีม่วง เขียว น้ำเงิน) กลุ่มธนาคาร กลุ่มผู้รับเหมาและดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ กลุ่มโรงแรมและอาคารสูง กลุ่มโรงพยาบาล รวมถึงการไฟฟ้านครหลวง เขื่อนภูมิพล โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติ เป็นต้น
สำหรับสินค้าของบริษัท เป็นสินค้าที่นำเข้าและเป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยนำเข้าจากประเทศอังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี ตุรกี ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เป็นสินค้าแบรนด์มาตรฐานระดับโลก อาทิ UL, CE, TUV, KNX, NSF และ JIS เป็นต้น เช่น ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ นำเข้าจากประเทศอังกฤษ และแคนาดา ระบบป้องกันภัยจากฟ้าผ่า นำเข้าจากฝรั่งเศสและตรุกี ระบบควบคุมแสงไฟในอาคาร นำเข้าจากญี่ปุ่น ระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะ นำเข้าจากอิตาลี ระบบประตูรีโมต นำเข้าจากอิตาลี เป็นต้น
สำหรับภาพรวมด้านการตลาดปี 2567 บริษัทจะรุกทั้ง 5 กลุ่มสินค้าใน 3 ตลาดหลัก คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 160 ล้านบาท คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2566 โดยมุ่งเน้นการทำตลาดประตูรีโมต “นาเน่” มากขึ้น เจาะตลาดโครงการบ้านหรู-ลักเซอรี่
ซึ่งลูกค้าที่ได้ทำคอนแทร็กต์กับบริษัท มีทั้งหมด 40-50 โครงการ อาทิ โครงการศุภาลัย โครงการแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โครงการพฤกษาฯ โครงการแสนสิริ เอพี โนเบิลฯ ลลิลฯ และชวนชื่น รวมถึงโครงการบ้านจัดสรรระดับไฮเอนด์-ลักเซอรี่ ที่กำลังขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในจังหวัดภูเก็ต
นายเจษฎากล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีสินค้าจีนเข้ามาตีตลาดในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นทั้ง 5 กลุ่มสินค้า โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มประตูรีโมต ซึ่งของจีนราคาถูกกว่าเท่าตัว เช่น ของบริษัท ราคา 30,000 กว่าบาท แต่ประตูรีโมตจีนอยู่ที่ 10,000 กว่าบาท ซึ่งส่วนใหญ่ขายกันทางออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ถือว่าได้รับผลกระทบด้านราคา ที่ไม่สามารถแข่งขันได้ แต่หากมองความได้เปรียบแล้วถือว่าสินค้านำเข้าของบริษัท มีคุณภาพสูงกว่า ด้วยแบรนด์ที่มีมาตรฐานระดับโลก ที่เป็นจุดขายสำคัญ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ และการเน้นบริการหลังการขายและการรับประกันสินค้าตั้งแต่ 5-10 ปี