นายกสมาคมปาล์มตรังประชุมเคลื่อนไหวเรียกร้อง “บิ๊กตู่” แก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ

ที่จังหวัดตรัง วันที่ 22 ตุลาคม ตัวแทนกรรมการสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง นำโดยนายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ ร่วมประชุมหารือกับสมาคมปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ วันที่ 25 ตุลาคม จากนั้นจะประชุมร่วมกันของสมาพันธ์สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทยที่จังหวัดตรัง ในวันที่ 26 ตุลาคม เพื่อวิเคราะถึงสาเหตุของปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ และจะออกแถลงการณ์ร่วมกันในนามสมาพันธ์ฯเพื่อเรียกร้องไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาแต่เพียงผู้เดียว หลังราคาปาล์มตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 2.60 – 2.90 บาท ขณะที่รัฐบาลคุ้มครองแค่บริโภคซื้อน้ำมันได้ในราคาไม่เกิน 42 บาท แต่ไม่มีการคุ้มครองชาวสวน

นายชัยฤิทธิ์กล่าวว่า ในห้วงเวลา 3 – 4 เดือนที่ผ่านมา ผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดน้อย รวมทั้งแผนการใช้พลังงานของรัฐบาล ) และใช้เพื่อการบริโภค ราคาปาล์มก็ควรจะสูงขึ้น แต่ขณะนี้ตกต่ำมาก ชาวสวนต้องการเรียกร้องที่ราคากก.ละ 4.50 บาท ทั้งนี้ สาเหตุปัญหาราคาตกต่ำ เชื่อว่าเกิดจากที่รัฐปล่อยมีการทุจริต ให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มทั้งที่ถูกกฎหมายเพื่อการส่งออก แต่เชื่อว่าไม่มีการส่งออกจริง และปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มผิดกฎหมาย ทำให้สต๊อกปาล์มน้ำมันล้นตลาดอยู่ตลอดเวลาจาก 200,000 ตันเป็นกว่า 300,000 ตัน ทั้งนี้ ที่เห็นชัดคือ กรณี บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ตามที่เป็นข่าว ทำน้ำมันหายไปกว่า 70,000 ตัน ซึ่งหากนำมาหักลบแล้วสต๊อกจะเหลือน้อยกว่า 200,000 ตัน แต่ขณะนี้ยังล้นอยู่ที่กว่า 300,000 ตัน จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบ

วันเดียวกันนายอธิราษฎร์ ดำดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ระบุว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบาย ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไม่ยังตลาดต่างประเทศ ประมาณ 3 แสนตัน เพื่อแก้ปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำในขณะนี้ ไม่ใช่แนวทางการแก้ปัญหา เนื่องจาก จากข้อมูล พบว่า ขณะนี้นำมันปาล์มดิบในสต๊อคมีจริงเพียง 2.8 แสนตัน แต่ได้มีการนำน้ำมันปาล์มกลั่นแล้ว เป็นมันปาล์มขวดเพื่อบริโภคกลับมารวมในสต็อคด้วย ทำให้มีน้ำมันเกือบ 4 แสนตัน โดยกระทรวงพาณิชย์ต้องใช้งบประมาณ กว่า 500 ล้านบาท เพื่อชดเชยค่าดำเนินการให้เอกชนผู้ส่งออกกิโลกรัมละ 1.75 บาท ซึ่งไม่ตรงจุด เพราะเป็นข้อเรียกร้องเมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไป จึงควรที่จะทำตามข้อเรียกร้องของเกษตรกร คือ การนำน้ำมันปาล์ม ซึ่งราคาน้ำมันปาล์มดิบขณะนี้อยู่ที่ 17 บาท ต่อ กก. ขณะที่น้ำมันเตาอยู่ที่ 21 บาท ซึ่งสามารถนำไปเผาผลิตกระไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องใช้เงินและยังลดต้นทุนได้อีก การประกาศให้ผลปาล์มน้ำมันต้องรับซื้อที่ 4.50 บาทต่อ กก. เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มขวดอยู่ที่ 42 บาท ราคานี้ชาวสวนต้องได้อยู่ที่ 6 บาทขึ้นไปอยู่แล้ว นอกจากนั้นก็ขอให้นำน้ำมันปาล์มไปผลิตไบโอดีเซล เพียงแค่ ปี10 ก็จะสามรรถดึงราคาปาล์มขึ้นมาได้ และผู้ผลิตก็ได้กำไร เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 17 บาท ราคาน้ำมันหน้าปั้มอยู่ที่ 30 กว่า ผ่านกระบวนการกลั่นแค่ไม่กี่บาท ก็ยิ่งกำไร จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและตรงประเด็น ไม่ใช่เข้าข้างนายทุน

นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เตรียมประสานเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ในภาคพื้นที่ภาคใต้ ร่วม ชุมนุม ใหญ่อีกครั้ง ที่ศาลากลาง จังหวัดกระบี่ ในวันที่ 25-27 ตุลาคมนี้ ไม่ว่าผลการประชุมการแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 22 ตุลาคม ออกมาอย่างไรก็ตาม

 

ที่มา : มติชนออนไลน์