เปิดมุมมอง 4 พรรคใหญ่ พท.-พปชร.-ภท.-ชพน. โค้งสุดท้ายอีสานตอนบน

มาถึงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศในวันที่ 24 มีนาคม 2562 สนามเลือกตั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงคึกคัก โดย จ.นครราชสีมามีจำนวนเขตเลือกตั้งมากที่สุดถึง 14 เขต สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 14 คน ถัดมาคือขอนแก่นและอุบลราชธานี 10 เขต และอุดรธานี 8 เขต ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่สำคัญสำหรับภาคอีสานตอนบน โดยมีผู้สมัครทั้งสิ้น 309 ราย “ประชาชาติธุรกิจ” ขอฉายภาพนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดจากผู้สมัครบางส่วนในสนามเลือกตั้ง เขต 1 ที่อยู่ในตัวอำเภอเมือง

เพื่อไทยอัดลดภาษีเอื้อธุรกิจ

นายศราวุธ เพชรพนมพร หมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า นโยบายภาพด้านเศรษฐกิจในพื้นที่เฉพาะไม่มี แต่จะรวมเป็นนโยบายพรรคของทั้งประเทศ โดยการพัฒนาเศรษฐกิจภาพรวมทั้งประเทศ เป็นการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนแต่ละจังหวัด เช่น การจัดตั้งพัฒนารายได้ให้ทุกจังหวัด การขยายศักยภาพการเข้าถึงสินเชื่อรายย่อย เรื่องการปรับลดภาษีน้ำมัน ภาษีการทำธุรกิจออนไลน์ หรือ SMEs การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำไม่ให้กระทบผู้ประกอบกิจการ เป็นต้น

พปชร.ดันอุดรฯเกทเวย์สู่อินโดจีน

นายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ทางพรรคได้มีการประกาศปฏิญญาจังหวัดอุดรธานี 4 ข้อ ได้แก่ 1.จัดตั้งมหาวิทยาลัยอุดรธานี โดยยกฐานะมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีซึ่งครอบคลุมคณะการศึกษาสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อเป็นการสร้างคนสร้างการศึกษาและสร้างงานในอนาคต 2.เร่งรัดการก่อสร้างรถไฟรางคู่ในเส้นทางนครราชสีมา-ขอนแก่น-อุดรธานี-หนองคาย ให้แล้วเสร็จในรัฐบาลชุดนี้ 3.ผลักดันให้เกิดโครงการ Northeast Economic Corridor หรือ NEC อันจะนำไปสู่การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เพื่อให้เกิดการรองรับการจ้างงานต่อไป และ 4.เร่งรัดการจัดสร้างถนนสายรอบเมืองอุดรธานีรอบที่ 2 ในวงเงินงบประมาณ 7 พันล้านบาท

“เศรษฐกิจในจังหวัดอุดรธานีมีโครงสร้างที่แข็งแรงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน สนามบิน และอาจจะมีรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง นโยบายเป้าหมายคือให้อุดรธานีเป็น gateway สู่ประตูอินโดจีน สอดคล้องกับแผนภาพเศรษฐกิจของประเทศ จะผลักดันศักยภาพเพื่อเป็นช่องทางให้คนจากอินโดจีนเข้ามาช็อปปิ้ง เข้ามารักษาในโรงพยาบาลของจังหวัด ในฐานะจังหวัดศูนย์กลางอีสานเหนือตอนบน เพิ่มพื้นที่ถนนหลัก ลดการจราจร และอาจจะย้ายเรือนจำกลางออกไปจากใจกลางเมืองเพื่อให้เป็นพื้นที่พัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ”

ภท.ชูปลูกกัญชา-ยกระดับ สธ.

นายจิรันธนิน พนาวัฒนาวงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า สโลแกนของพรรค คือ ลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน มีนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น ทางพรรคจะสนับสนุนการปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ข้าว อ้อย ยางพารา รวมถึงผลักดันการปลูกกัญชาได้เสรี นอกจากนี้ จะจัดหาที่ดินเพื่อขยายโรงพยาบาล เพิ่มประโยชน์ทางด้านสาธารณสุข พร้อมผลักดันการสร้างศูนย์อุบัติเหตุ ศูนย์หัวใจ หรือศูนย์อายุรกรรม โดยมองพื้นที่เป้าหมายคือ สถาบันวิจัยประมงอุดรธานี หากได้รับเลือกเป็น ส.ส.จะเข้าไปผลักดันให้เป็นของกระทรวงสาธารณสุข

“การลงทุนด้านสาธารณสุขนับพันล้านหมื่นล้านต้องมีการเทงบประมาณลงมา เพื่อสร้างโรงพยาบาลและเครื่องมือแพทย์ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมโหฬาร ที่สำคัญได้ประโยชน์แน่นอนกับพี่น้องชาวอุดรฯและจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ หากมีโอกาสได้เข้าไปเป็นผู้แทนฯ อยากผลักดันแก้ไขกฎหมายที่ไม่ทันสมัย ที่ล้าหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนให้ภาคธุรกิจให้ได้ โดยเฉพาะเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ เชื่อว่าเศรษฐกิจในจังหวัดอุดรธานีจะเติบโตขึ้นอีกมาก”

ชพน.ชง “กองทุน” อุ้มเกษตรกร

นายธีรภัทร พรหมทะสาร ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 1 หมายเลข 6 พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เรื่องเศรษฐกิจพรรคชาติพัฒนาวางไว้ตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงมหภาค นโยบายเศรษฐกิจรากหญ้ามองถึงการแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ จะจัดตั้งกองทุนสวัสดิการเพื่อการเกษตร วงเงินเริ่มต้น 20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเวลาพืชผลตกต่ำในช่วงเริ่มต้นฤดู และส่งเสริมประสิทธิภาพด้านการเกษตรให้มีรูปแบบที่ทันสมัย Smart Farmer โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ และเน้นเรื่องการคมนาคมขนส่งด้วยระบบราง ขยายฐานการพัฒนาเศรษฐกิจด้านการลงทุน การดำเนินชีวิต การติดต่อค้าขายให้ทั่วถึงทั้ง 4 ภาค โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ ๆ พยายามผลักดันให้หันมามองอุดรธานีเพื่อเปิดประตูอีสานสู่อาเซียน

“อยากให้มีการย้ายเรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี และเปลี่ยนเป็นศูนย์ประชุมนานาชาติ เราจะเป็นประตูสู่อาเซียนที่แท้จริง เศรษฐกิจอาเซียนจะมาเพราะมีการใช้บริการสถานที่แสดงสินค้า จัดการประชุมสัมมนาในระดับภูมิภาคของอาเซียนในอุดรธานี