งดจัด โมโตจีพี บุรีรัมย์สูญ 2 พันล้าน โรงแรม-ร้านค้าส่อปิดเพิ่ม

ธุรกิจเงิบ - การจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ MOTOGP ของจังหวัดบุรีรัมย์ถือเป็นงานอีเวนต์ใหญ่ที่สร้างรายได้ให้จังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงกว่าหลายพันล้านบาท เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจำานวนมาก เมื่อต่างประเทศประกาศงดจัดส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการหลายธุรกิจ

ผู้ประกอบการธุรกิจบุรีรัมย์หงายเงิบ “ดอร์นา สปอร์ต” งดจัดแข่งขัน “โมโตจีพี” เดือนตุลาคมนี้ หลังโควิด-19 ระบาดหนักต่อเนื่องในต่างประเทศ เบื้องต้นประเมินสูญไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทคาดยอดจองโรงแรมที่พักในบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียงหายวูบกว่า 60% ทุบรายได้ท่องเที่ยวหดตัวรุนแรง ธุรกิจโรงแรม-ร้านอาหารส่อเค้าปิดตัวเพิ่ม รัฐ-เอกชนเร่งหารายได้จากอีเวนต์อื่นมาชดเชย เผยโรงแรมโคราชชวดอานิสงส์งานโมโตจีพีปีนี้

หลังจากบริษัท ดอร์นา สปอร์ต ประเทศอิตาลี ผู้ถือลิขสิทธิ์จัดการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ MOTOGP ได้ประกาศยกเลิกโปรแกรมจัดการแข่งขันในประเทศไทย ภายใต้ชื่อรายการว่า “OR Thailand Grand Prix 2020” โดยกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 ตุลาคม 2563 ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศนั้น

นายบดินทร์ เรืองสุขศรีวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศยกเลิกการจัดงาน MOTOGP THAILAND 2020 (โมโตจีพี) ทำให้การท่องเที่ยวบุรีรัมย์หดตัวอย่างรุนแรง ทุกธุรกิจที่หวังฟื้นคืนด้วยงานนี้เกิดผลกระทบเป็นหน้ากระดานทั้งยอดนักท่องเที่ยว ยอดการใช้จ่าย อย่างโรงแรมที่พักคาดว่าถูกยกเลิกไปกว่า 60% ปัจจุบันยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้แน่ชัด แต่คาดว่าเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่พักภายในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียงจะสูญเสียรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

“หลังจากช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้ยกเลิกการจัดงานอีเวนต์และเลื่อนออกไปหลายงานด้วย ทุกคนฝากความหวังไว้กับงาน MOTOGP THAILAND 2020 (โมโตจีพี) ซึ่งถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่จะถูกจัดขึ้นในบุรีรัมย์ เป็นสนามที่ 2 ถัดจากสนามที่ 1 ประเทศกาตาร์ จากตอนแรกจะจัดงานในเดือนมีนาคม แต่ช่วงเกิดโควิด-19 ปิดเมืองเลื่อนออกไปหลายคนหวังว่าอาจสามารถจัดได้ในช่วงปลายปี ที่ผ่านมาการจัดงานโมโตจีพีมีการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เพียง 3 วัน สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์จำนวนมาก จนที่พักในจังหวัดล้น ต้องไปพักในจังหวัดใกล้เคียง เช่น นครราชสีมา สุรินทร์ เป็นต้น และคนในพื้นที่เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวเต็มที่ทั้งคนไทยและต่างชาติ คำนวณผู้เข้าชมเป็นคนไทยประมาณ 60% ต่างชาติกว่า 38- 40% บินมาจากประเทศต่าง ๆ ทั้งโซนยุโรป และเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมัน ส่วนใหญ่จองที่พักไม่ต่ำกว่า 3 วัน

“จังหวัดบุรีรัมย์มีงานโมโตจีพี เป็นงานมอเตอร์สปอร์ตที่คนทั่วโลกรู้จัก สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 20-30% ต่อปี โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวในด้านกีฬาเป็นหลัก จากปี 2560 บุรีรัมย์มีนักท่องเที่ยวประมาณ 1.6 ล้านคน ในปี 2561 อยู่ที่ 2 ล้านคน และเป็นจุดให้นักท่องเที่ยวจากต่างชาติทั่วโลกมาที่บุรีรัมย์เยอะมาก ททท.ก็เข้ามาจัดเป็น 12 เมืองต้องห้ามพลาด นอกจากเรื่องสปอร์ตแล้วมีคอนเซ็ปต์ชูเมืองในด้านอื่น ๆ เกิดเส้นทางการท่องเที่ยว ทำให้คนบุรีรัมย์พัฒนาจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ แล้วสร้างอัตลักษณ์ขึ้นมาจนมีอีเวนต์มากมายกระจายคนไปยังจังหวัดข้างเคียงด้วย เรากล้าพูดได้เลยว่าเมืองเราเป็นเมืองของงานอีเวนต์ ในปี 2562 เรามีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 4,859 ล้านบาท สามารถดันรายได้การท่องเที่ยวขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 7.85%”

ทั้งนี้ ในจังหวัดบุรีรัมย์ยังเหลืองานอีเวนต์เกี่ยวกับมอเตอร์สปอร์ตอยู่หลายงานแต่ไม่อาจเทียบกับงานโมโตจีพีได้ เนื่องจากเฉพาะงานโมโตจีพีเคยมีการประเมินไว้ว่า มีตัวเลขเงินสะพัดในจังหวัดมากถึงเกือบ 1,000 ล้านบาท

ลุ้นอีเวนต์ไทยลีกชดเชย

นายบดินทร์กล่าวว่า เดิมทีบุรีรัมย์เป็นเมืองเกษตรกรรม ไม่เคยตื่นตัวเรื่องการท่องเที่ยว กระทั่งผู้นำของจังหวัดสร้างทีมฟุตบอลขึ้นจนกลายมาเป็นสโมสรฟุตบอลที่สามารถพลิกเมืองได้ในช่วงกระแสฟุตบอลไทยกลับมาบูม เพราะการแข่งขันฟุตบอลในแต่ละแมตช์มีจำนวนคนดูไม่น้อยกว่า 8,000 คน เกิดการจับจ่ายใช้สอยและนำไปสู่มอเตอร์สปอร์ตที่ทำให้บุรีรัมย์เติบโตมากขึ้น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์จึงมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา จากมีนักท่องเที่ยวอยู่เพียงไม่กี่แสนคนขึ้นมาเป็นหลักล้านคน

รวมกิจกรรมงานอีเวนต์ของจังหวัดบุรีรัมย์จัดในตัวเมืองและต่างอำเภอเฉลี่ยอย่างต่ำประมาณ 60 งานต่อเดือน เป็นงานของภาคเอกชน ภาครัฐ รวมถึงงานที่ภาคเอกชนร่วมมือกับภาครัฐจัดร่วมกัน โดยจะมีตัวแทนจากสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วมงานและจัดตารางอีเวนต์การท่องเที่ยวทั้งหมด เบื้องต้นในปี 2563 คาดไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 2.4-2.5 ล้านคน จนถึงสถานการณ์ปัจจุบันคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน แต่มียอดของงาน BURIRAM MARATHON 2020 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่คอยช่วยประคองไว้ก่อนหน้านี้ได้บ้าง เพราะมีนักวิ่งจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมงาน 70,000-80,000 คน

“เรามีงานอีเวนต์อีกหลายงานที่ถูกยกเลิกจนรายได้หายหมด เช่น งานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง ณ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ที่มีเงินสะพัด 200-300 ล้านบาท คนเข้าร่วมกว่า 70,000-100,0000 คน งานสงกรานต์เฟสติวัล การแข่งขันปั่นจักรยาน และอีกหลายงานอีเวนต์ที่มีเงินสะพัดหลายล้านบาท”

หลังจากปลดล็อกการควบคุมโควิด-19 มีมาตรการของภาครัฐมากระตุ้นเพื่อฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวให้คนไทยเที่ยวในประเทศ แต่การท่องเที่ยวบุรีรัมย์ยังคงไม่เข้าสู่ภาวะปกติ กระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวได้ไม่ถึง 10% โรงแรมฟื้นไม่ถึง 20% ต้องรอลุ้นอีเวนต์ฟุตบอลไทยลีกว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ในการแข่งขันฟุตบอลในแต่ละแมตช์มีแฟนบอลเข้าไปชมในสนามอย่างน้อย 8,000-10,000 คน หากมีมาตรการและแผนควบคุมแบบชีวิตวิถีใหม่ (new normal) จะอยู่ในรูปแบบใด เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบจะหายไปมากเพียงใดยังระบุไม่ได้

โรงแรม-ร้านอาหารส่อปิดตัวเพิ่ม

นายบดินทร์กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์แบ่งออกเป็นการฟื้นฟูในระยะสั้นและระยะกลาง เร่งฟื้นผู้ประกอบการออกโปรโมชั่นชักจูงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวในจังหวัดมากขึ้น หนุนเงินช่วยเหลือด้านการส่งเสริมการตลาด แลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่นเข้ามาในบุรีรัมย์ เพื่อให้มีความเคลื่อนไหว พยุงผู้ประกอบการให้ได้ก่อน โดยชูความปลอดภัย ให้ความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่วนในระยะยาวเป็นการวางแผนจัดอีเวนต์ล่วงหน้าไปจนถึงปี 2564 สามารถปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมนับ 100 อีเวนต์ มีงานอีเวนต์หลักประมาณ 60 งานเชื่อว่าหากพ้นวิกฤตโควิด-19 นักท่องเที่ยวจะกลับมา

“ผมว่าทั้งในประเทศและทั่วโลกหนักกว่าต้มยำกุ้งหลายเท่า โควิดน่าจะมีเอฟเฟ็กต์ในระยะยาวพอสมควรเพราะล้มกันเป็นหน้ากระดาน โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวสาหัสที่สุด ในบุรีรัมย์ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวออกอาการ ที่เห็นคือร้านอาหารปิดตัวเห็นชัด โดยเฉพาะขนาดไซซ์ระดับกลางในอำเภอเมืองอย่างต่ำ 5 ร้าน ส่วนโรงแรมถ้าโควิดไม่จบไปแน่ ๆ อย่างน้อย 10-20% ถ้าสายป่านไม่ยาวทนอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน แต่เชื่อว่าในเดือนสิงหาคมนี้ สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ”


ด้าน นายสวัสดิ์ มังกรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมสีมาธานี จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากมีการจัดแข่งขันโมโตจีพีที่ จังหวัดบุรีรัมย์ ในแต่ละปีจังหวัดนครราชสีมาจะได้รับอานิสงส์ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักในช่วงจัดการแข่งขันจำนวนมาก ห้องพักเต็มทุกห้อง แต่เป็นช่วงระยะสั้น ๆ 1-2 คืน แต่ทำให้เกิดความคึกคักในจังหวัด ทั้งที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว ส่วนปีนี้ไม่มีการจัดการแข่งขันถือว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ก็อยากให้เกิดการแข่งขันแม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้เศรษฐกิจโคราชได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย