สหรัฐฯ ทุ่ม 8.8 พันล้าน สร้าง “สถานกงสุลแห่งใหม่” เชียงใหม่

สหรัฐฯ ทุ่ม 8.8 พันล้าน ผุดสถานกงสุลเชียงใหม่แห่งใหม่ มุ่งสร้างความร่วมมือทุกภาคีเครือข่ายในพื้นที่ภาคเหนือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ได้จัดพิธีเปิดหน้าดินเพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ แห่งใหม่ ณ บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ แห่งใหม่ (พื้นที่ติดกับอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง) โดยมีนายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ให้เกียรติเป็นประธานร่วมในพิธีเปิดหน้าดินครั้งนี้

นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้สหรัฐอเมริกาได้เริ่มการก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่แห่งใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่ได้ก่อตั้งสถานกงสุลขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อ 70 ปีที่แล้ว โดยออกแบบอาคารหลังใหม่ให้คงอยู่ต่อไปอีกอย่างน้อย 70 ปี ทั้งนี้ การก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ แห่งใหม่ มีมูลค่าการลงทุน 284 ล้านเหรียญสหรัฐ (8,800 ล้านบาท) ตั้งอยู่บนพื้นที่ราว 16.5 ไร่ บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2566 ซึ่งจะทำให้เกิดการว่าจ้างแรงงานในท้องถิ่นกว่า 400 คน และจะกลายเป็นสัญลักษณ์ถึงความมุ่งมั่นที่สหรัฐฯ มีต่อภาคเหนือของไทยต่อไปในอนาคต

สำหรับการออกแบบสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ แห่งใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์และรูปแบบการสร้างอาคารในภาคเหนือที่มีความหลากหลาย ผสมผสานภูมิทัศน์ที่เขียวชอุ่มเข้ากับ “ศาลา” ซึ่งมีลักษณะเป็นระเบียงเปิดโล่งเพื่อใช้จัดงานที่เป็นทางการ อาคารสำนักงานแห่งใหม่นี้ ยังสะท้อนถึงลักษณะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ โดยการใช้พื้นที่สาธารณะกั้นส่วนต่างๆของอาคารออกจากกัน นอกจากนี้ สำนักงานฝ่ายศิลป์ประจำสถานเอกอัครราชทูต กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะจัดแสดงชุดผลงานหลากหลายสื่อศิลป์เป็นการถาวร ซึ่งมีทั้งภาพวาด ภาพถ่าย สิ่งทอ และประติมากรรมจากศิลปินทั้งชาวอเมริกันและชาวไทย รวมถึงจะจัดแสดงผลงานที่รังสรรค์ขึ้นเฉพาะสำหรับสถานกงสุลใหญ่แห่งใหม่นี้ เพื่อสะท้อนถึงความหลากหลายและความรุ่มรวยของมรดกทางวัฒนธรรมของสหรัฐฯ และไทย

ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวยังมีเป้าหมายที่จะได้รับการรับรองมาตรฐาน Leadership in Environmental Design ระดับ Silver โดยมีองค์ประกอบที่โดดเด่นด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ และระบบน้ำที่สอดคล้องกับเป้าหมายระดับประเทศของไทยในการใช้พลังงานทดแทน และการพัฒนาคุณภาพอากาศ รวมถึงองค์ประกอบที่ยั่งยืนอื่นๆ ได้แก่ ระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ การติดตั้งสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ ตลอดจนกรอบอาคารที่ช่วยปรับลดอุณหภูมิภายใน ซึ่งประกอบด้วยหน้าต่างที่ลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ และการออกแบบโครงสร้างโดยรอบภายนอกอาคารโดยใช้แผงบังแดด

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวต่อว่า การก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่ เชียงใหม่ แห่งใหม่นี้ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องของสหรัฐฯ ต่อภาคีและพันธมิตรในภาคเหนือ ขณะเดียวกันก็ยังมุ่งลงทุนกับแรงงานและเศรษฐกิจในท้องถิ่น เพื่อให้ไทยและอเมริกามีความยั่งยืนและมั่งคั่งยิ่งขึ้นสืบไป

นายฌอน โอนีลส์ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ กล่าวว่า ชาวอเมริกันและชาวไทยมีประวัติศาสตร์ร่วมกันในภาคเหนือ ถือเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจยิ่ง และเราก็หวังที่จะสานต่อความสำเร็จอีกมากมายที่จะบรรลุร่วมกันในภายภาคหน้า

นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การสร้างสถานกงสุลใหญ่แห่งใหม่นี้ ยิ่งแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมถึงความไว้วางใจและความมุ่งมั่นที่เรามีต่อกันในฐานะมิตรและหุ้นส่วนที่ยาวนาน อีกทั้งยังเปิดศักราชใหม่แห่งการยกระดับความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐฯ ในภาคเหนือ