“เชียงราย” เตรียมเชื่อมค้า “ด่านรุ่ยลี่” ทึ่งมูลค่า 3.5 แสนล้านหยวน

หอการค้าเชียงราย ลงพื้นที่เขตปกครองตนเองชนชาติไต-จิ่งโป ถึงกับ ตะลึงพบข้อมูลด่านเมืองรุ่ยลี่มีมูลค่าการค้าสูงปีละ 3.5 แสนล้านหยวน สูงกว่าด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก 5 เท่า สินค้าสำคัญ อาทิ เกษตร ไม้ อัญมณี ด้านจีนให้ความสำคัญตัดถนน สร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม พร้อมลงทุนหลายโครงการ ขณะที่หอค้าเชียงรายเตรียมหาช่องเชื่อมการค้าหวังเพิ่มมูลค่าค้าชายแดน

น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า วันชาติจีนที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนได้รับเชิญไปร่วมกิจกรรมวันชาติจีนที่เมืองรุ่ยลี่ เขตปกครองตนเองชนชาติไต-จิ่งโป จ.เต๋อหง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งเป็นเมืองด่านเชื่อมกับเมืองมูเซ จ.ลาเชียว รัฐฉานตอนเหนือของประเทศเมียนมา โดยเดินทางไปพร้อมกับนายเทวัญ ธนมาลารัตน์ เกษตรและสหกรณ์ จ.เชียงราย ซึ่งการเดินทางไปครั้งนี้ พบว่าด่านมูเซ-รุ่ยลี่ แม้จะเป็นจุดผ่านแดนถาวรแห่งที่ 2 ของเมียนมา (แห่งที่ 1 คือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก)

แต่ข้อมูลจากนายหวัง จุ้น เฉียง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ จ.เต๋อหง รวมทั้งภาครัฐและเอกชนอื่น ๆ ของจีน พบว่าด่านการค้าระหว่างเมืองรุ่ยลี่กับเมืองมูเซมีมูลค่าปีละกว่า 350,000 ล้านหยวน ซึ่งมากที่สุดในบรรดาด่านการค้าของมณฑลยูนนาน และมากกว่ามูลค่าการค้าชายแดนระหว่างแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ถึง 5 เท่าตัวโดยการค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทเกษตร ไม้ อัญมณี เป็นต้น

ส่วนคนเข้าออกพบว่ามีปีละกว่า 16 ล้านคน เป็นข้อมูลที่น่าสนใจว่าหากมีการเชื่อมการค้าที่ด่านนี้กับ จ.เชียงราย ได้ช่องทางนี้จะกลายเป็นที่ระบายสินค้าไทยที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่ง

ทั้งนี้ ตรงด่านรุ่ยลี่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเต๋อหงประมาณ 93 กิโลเมตร โดยเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจเจียเก๋าติดกับด่านมูเซของเมียนมา เปิดช่วงเช้า และปิดเวลา 21.30 น. ตามเวลาในเมียนมา ซึ่งช้ากว่าจีน 1.30 ชั่วโมง โดยเป็นเขตปลอดภาษี ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้า และจำหน่ายสินค้าโดยเฉพาะอัญมณีจำนวนมาก

ปัจจุบันรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับด่านแห่งนี้มาก จึงมีการสร้างถนนและรถไฟความเร็วสูงไปถึง รวมทั้งมีการสร้างท่อก๊าซ-น้ำมันเชื้อเพลิง แหล่งอุตสาหกรรมหนักเพื่อเชื่อมการค้ากับประเทศเมียนมา-มหาสมุทรอินเดีย ส่วนในเขตเมืองมูเซของประเทศเมียนมาห่างจากด่านมูเซ-รุ่ยลี่ ประมาณ 18 กิโลเมตร ทั้งยังเป็นที่ตั้งของศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมา ใช้ชื่อว่า 105 mailes ที่ใช้รองรับการขนส่งสินค้าเมียนมา-จีนด้วย ขณะเดียวกันพื้นที่ชายแดนดังกล่าวมีกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ อยู่หลากหลายกลุ่ม ซึ่งในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทางเมืองรุ่ยลี่ให้ความสำคัญเชิญไปร่วมงานอย่างต่อเนื่องเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

“ในปัจจุบันพบว่านอกจากการพัฒนาด้านต่าง ๆ แล้ว ทราบว่าได้มีโรงงานอุตสาหกรรมรถยนต์รายใหญ่จากเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน เริ่มเข้าไปตั้งกิจการที่ชายแดนแห่งนี้แล้ว และยังมีการพัฒนาตลาดอัญมณีจากระดับท้องถิ่นให้เป็นตลาดแหล่งใหญ่ หลังจากเอกชนจีนได้รับสัมปทานเหมืองแร่ในมงก๊กของเมียนมา ทำให้ในเขตเศรษฐกิจเจียเก๋ามีร้านค้าอัญมณี โดยเฉพาะประเภทหยกมากถึงกว่า 2,000 ร้าน โดยเปิดบริการตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว” น.ส.ผกายมาศกล่าว

น.ส.ผกายมาศกล่าวอีกว่า ด้าน จ.ลาเชียว ประเทศเมียนมา ตั้งอยู่ห่างจากเมืองตองจีซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐฉานที่อยู่ทางใต้ของรัฐประมาณ 367.1 กิโลเมตร และจากเมืองตองจีสามารถเชื่อมไปยังเมืองเชียงตุงด้วยระยะทาง 423.2 กิโลเมตร โดยเมืองเชียงตุงบนถนนอาร์สามบีที่เชื่อม อ.แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง ห่างจาก อ.แม่สาย เพียงประมาณ 155 กิโลเมตร ซึ่งหากมองในแง่ของเส้นทางแล้วถือว่าไม่ห่างไกลกันมากนัก

อย่างไรก็ตาม พบว่าในปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์ด้านการค้าระหว่างไทย-รัฐฉาน-รุ่ยลี่ น้อยมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ

“ดิฉันจะนำข้อมูลมาศึกษาและหารือทั้งในหอการค้าและภาครัฐ เพื่อหาแนวทางเชื่อมความสัมพันธ์กับเขตการค้ารุ่ยลี่-มูเซ ล่าสุดได้พบกับนายต่ง เลอ ฉั่น เจ้าของโรงแรมในมณฑลยูนนาน และยังเป็นเจ้าของสายการบินรุ่ยลี่ แอร์ไลน์ ที่มีแอร์บัส 737 มากถึง 15 ลำ ทราบว่ากำลังมีแผนจะเปิดเส้นทางการบินมาประเทศไทยทั้งที่กรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ เชียงราย รวมไปถึงประเทศกัมพูชา ซึ่งก็จะได้เชิญมาพบปะสร้างความสัมพันธ์และหารือทางธุรกิจที่ จ.เชียงราย ในอนาคตอันใกล้นี้ต่อไป” น.ส.ผกายมาศกล่าว