หนองคายชู “ดอกดาวเรือง” ส่งขาย สปป.ลาว-แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

“ดอกดาวเรือง” นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่มักเจออยู่ในตลาดทั่วไป หรือสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายดอกไม้ทั่วประเทศไทย

ซึ่งในจังหวัดหนองคายเกษตรกรสามารถปลูกขายได้ทั้งในจังหวัดและส่งขายไปยัง สปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้านได้ตลอดปีโดยเฉพาะเกษตรกรที่อยู่ริมแม่น้ำโขงในเขตตำบลพานพร้าว และตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นิยมปลูกดอกดาวเรืองกันมาก

เพราะเป็นดอกไม้ที่ปลูกง่าย โรคแมลงน้อย ออกดอกสีสันสวยงาม ปลูกได้ตลอดทั้งปี ทั้งยังสามารถยกระดับพื้นที่ปลูกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันพื้นที่ปลูกดอกดาวเรืองในจังหวัดหนองคายบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงมีมากกว่า 30 ไร่ ยกตัวอย่างในเขตตำบลพานพร้าว และต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ ที่มีพื้นที่ปลูกรวมมากกว่า 5 ไร่ ยิ่งในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว มีสภาพอากาศเย็น ต้นดาวเรืองเจริญเติบโตดี เกษตรกรสามารถเก็บขายได้ทุกวันทั้งในจังหวัดหนองคายและ สปป.ลาว

ที่สำคัญต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์รวมค่าบำรุงรักษาแล้วจะตกอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นบาท/ไร่/ต่อรอบ ดอกดาวเรืองที่ได้จะขายได้ประมาณ 3-4 หมื่นบาท/ไร่/ต่อรอบ จึงสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ จังหวัดหนองคายเตรียมยกระดับพื้นที่ปลูกดอกดาวเรืองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยว “เส้นทางธรรม เส้นทางเที่ยว ทางเดียวกัน @ หนองคาย”

“นัฐกร รุ่งภาษา” เกษตรกรผู้ปลูกดาวเรืองในเขตตำบลพานพร้าว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย บอกว่า ได้ยืดอาชีพปลูกดอกดาวเรืองขายมาเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นมาจากแปลงปลูกมะเขือเทศของแม่ยาย ซึ่งต้องดูแลเป็นอย่างดีจึงออกดอกผลิผล

จึงได้คิดว่าจะเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ดูแลง่ายแทน จึงได้เปลี่ยนมาปลูกดาวเรืองที่ดูแลง่ายกว่า ใช้ยาหรือสารเคมีน้อยกว่าพืชชนิดอื่น ช่วงแรกปลูกดาวเรืองหลากหลายสายพันธุ์ เป็นการลองผิดลองถูกเรื่อยมา จนกระทั่งแม่ค้าจาก สปป.ลาวได้ส่งเมล็ดพันธุ์มาให้ปลูก ใส่ซองพลาสติกใส ๆ ส่งมาให้โดยไม่มีฉลากหรือรายละเอียดอะไรมาด้วย จึงไม่รู้ว่าเป็นพันธุ์อะไร

ต่อมาได้ตั้งชื่อขึ้นเรียกเองว่า “เทพประทานพร” เพราะสีของดอกมี 2 สี คือสีเหลืองและสีส้ม มีเอกลักษณ์คือดอกไม่ใหญ่มาก มีลักษณะกลม สีเหลืองจะเป็นที่นิยมของคนไทย ส่วนสีส้มจะเป็นที่นิยมของคน สปป.ลาว จึงได้ปลูกดาวเรืองสายพันธุ์นี้เพียงสายพันธุ์เดียวมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปีแล้ว

“นัฐกร” เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้ปลูกดาวเรืองสายพันธุ์อื่นหลายสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์ทองเฉลิม ผลผลิตพอใช้ได้ แต่ลักษณะยังไม่ตรงกับความต้องการของแม่ค้า-พ่อค้าชาว สปป.ลาว ซึ่งตลาดใน สปป.ลาว ถือเป็นตลาดที่สำคัญมากสำหรับสร้างรายได้

“ผมมีพื้นที่ปลูกดาวเรืองในเขตตำบลพานพร้าวและตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ ประมาณ 5 ไร่ โดยการปลูกเริ่มต้นจากการเพาะเมล็ดพันธุ์จนเป็นต้นกล้า ใช้เวลาประมาณ 15 วัน จากนั้นก็นำมาปลูกในพื้นที่แปลงที่เตรียมไว้ได้ ดูแลบำรุงรักษาอีกประมาณ 45 วันก็จะเริ่มให้ผลผลิตสามารถเก็บดอกขายได้ หากดูแลรักษาดีก็จะสามารถวนเก็บดอกได้นานกว่า 2 เดือน

หลังจากที่ดาวเรืองเริ่มออกดอก ก็จะเริ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ชุดใหม่ ทำให้มีผลผลิตขายได้ตลอดทั้งปี สร้างรายได้ดีพอสมควรจนมีเกษตรกรที่สนใจอยากจะปลูกดาวเรืองมาขอข้อมูลและร่วมปลูกเป็นเครือข่ายด้วย โดยผมจะรับหน้าที่ด้านการตลาดให้กับเครือข่ายด้วย”

สำหรับพื้นที่ปลูก 1 ไร่ 2 งานจะปลูกได้ประมาณ 8,000 ต้น หรือเฉลี่ย 6,000 ต้น/ไร่ ราคาเมล็ดพันธุ์เม็ดละ 1 บาท โดยจะมีการเก็บดอกดาวเรืองในช่วงวันพระ หรือทุก 7 วัน ในช่วงแรกที่เริ่มเก็บดอกได้อาจจะยังให้ผลผลิตไม่เต็มที่ เฉลี่ยในพื้นที่ 1 ไร่ 2 งานเก็บดอกได้ 600-700 กิโลกรัม/ครั้ง ใน 1 กิโลกรัมจะมีดอกดาวเรืองประมาณ 200 ดอก แม้คน สปป.ลาวจะชอบดอกดาวเรืองสีส้ม

แต่ช่วงที่ดอกดาวเรืองขาดตลาดหรือมีน้อยหรือในช่วงเทศกาลสำคัญ จะขายได้หมดทั้ง 2 สี เพราะตลาด สปป.ลาวจะมีการใช้ดอกดาวเรืองตลอดทั้งปี และซื้อเป็นจำนวนมากต่างจากตลาดในประเทศ

“ตลาดในประเทศจะใช้ดอกดาวเรืองเป็นส่วนมากเฉพาะช่วงวันพระ เฉลี่ยรอบละ 2-3 หมื่นดอก ราคาจะขายเป็นดอก เริ่มต้นจาก 100 ดอก/40-50 บาทขึ้นอยู่กับขนาด แต่ที่ส่งไปขาย สปป.ลาว จะขายเป็นกิโลกรัม เริ่มจากกิโลกรัมละ 20-30 บาท ในช่วงที่ดอกดาวเรืองมีน้อย

หรือในช่วงเทศกาลราคาจะพุ่งสูงถึง 70-80 บาท/กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ดอกดาวเรืองยังถือว่าเป็นพืชเกษตรมีตลาดค่อนข้างแคบอยู่ ผู้ที่คิดจะปลูกดอกดาวเรืองขายควรหาตลาดรองรับไว้ก่อน หรือสามารถมาปรึกษาแหล่งปลูกที่จังหวัดหนองคายได้”