กลุ่ม CMR ทุ่ม 5.5 พันล้าน รุกลงทุนโรงพยาบาล 5 แห่งในภาคเหนือตอนบนตั้งเป้าศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพรองรับตลาดกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เผยรายได้ปี’63 แตะ 1 หมื่นล้านบาท
นพ.วรพันธ์ อุณจักร ผู้บริหารในเครือรามภาคเหนือ บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ CMR เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปีนี้ (2564) กลุ่ม CMR เตรียมลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ พร้อมทั้งเตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลที่ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จราวกลางปี 2564 นี้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
รวมทั้งสิ้น5 แห่ง รวมมูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดอยู่ในภาคเหนือตอนบนได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน และน่านได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหงเชียงใหม่ โดยบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหงเชียงใหม่ จำกัด บริษัทในเครือ CMR ได้ซื้อที่ดิน 12 ไร่
ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมปอยหลวงเดิม จากบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) มูลค่า 400 ล้านบาท ล่าสุดได้ทุบอาคารโรงแรมเดิม และอยู่ระหว่างเขียนแบบอาคารใหม่ใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งการก่อสร้างจะแยกเป็น 2 อาคาร โดยจะเริ่มทำการก่อสร้างภายในปี 2564 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 2 ปี
สำหรับโรงพยาบาลรามคำแหงเชียงใหม่ได้วางจุดขายหลักเป็นโรงพยาบาลเด็กที่ครบวงจรมากที่สุด มีขนาด 400 เตียง แบ่งเป็น 2 อาคาร อาคารแรกเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับเด็ก ขนาด 8 ชั้น จำนวน 200 เตียงที่ครอบคลุมการรักษาทุกด้าน
ทั้งโรคทั่วไป การผ่าตัด ICU เป็นต้น ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือยังขาดโรงพยาบาลเฉพาะทางที่ครบวงจรสำหรับเด็ก ส่วนอาคารหลังที่ 2 เป็นโรงพยาบาลสำหรับรักษาโรคทั่วไป ขนาด 10 ชั้น จำนวน 200 เตียง และเป็นโรงพยาบาลสำหรับการดูแลรักษาคนไข้ในกลุ่มผู้สูงอายุแบบครบวงจรด้วย
นพ.วรพันธ์กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลรามคำแหงเชียงใหม่จะเป็นโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานและเน้นวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ทั้งระบบ ซึ่งคาดว่าจะนำ robot หรือหุ่นยนต์ทางการแพทย์ที่มีความแม่นยำและมีมาตรฐานสูงเข้ามาใช้ในทางการแพทย์และการรักษาพยาบาล
ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนของโรงพยาบาลรามคำแหงเชียงใหม่ เฉพาะการก่อสร้างอาคารและเครื่องมือแพทย์อยู่ที่ราว 2,000 ล้านบาท และหากรวมที่ดิน มูลค่าการลงทุนทั้งหมดจะอยู่ที่ราว 2,400 ล้านบาท คาดว่าต้องเตรียมบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรส่วนอื่น ๆ ราว 1,000 คน
โครงการที่ 2 คือ การลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลลานนา 3 มูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านบาท ขนาด 300 เตียง บนเนื้อที่ 25 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลลานนา 1 และ 2 ขณะนี้การก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้กลางปี 2564 จุดขายของโรงพยาบาลลานนา 3
จะเป็นโรงพยาบาลที่รองรับคนไข้ประกันสังคม 100% เป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงในการรักษาด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เช่น ผ่าตัดโดยใช้กล้อง คาดว่าภายในปีแรกจะสามารถรองรับคนไข้ได้ 25,000-30,000 คน
โครงการที่ 3 คือ การลงทุนสร้างอาคารสำหรับการฉายแสงและรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งของโรงพยาบาลเทพปัญญา เชียงใหม่ ขณะนี้ได้เริ่มการก่อสร้างแล้ว มูลค่าการลงทุนราว 300 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งจากหลายจังหวัดในภาคเหนือเดินทางมารักษาที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยมะเร็งและมีการรักษาด้วยการฉายแสง 2 แห่ง คือโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่และโรงพยาบาลมะเร็งลำปาง ดังนั้นเพื่อเป็นการรองรับจำนวนผู้ป่วยด้านนี้ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทางกลุ่ม CMR จึงตัดสินใจลงทุนสร้างอาคารฉายแสงและการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
โครงการที่ 4 คือ โรงพยาบาลหริภุญชัย ราม จังหวัดลำพูน เป็นการขยายการลงทุน จากขนาด 300 เตียง โดยลงทุนสร้างอาคารหลังใหม่อีก 300 เตียง มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท เ
พื่อรองรับคนไข้กลุ่มประกันสังคมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีมากกว่า 50,000 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรม คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเต็มระบบราวกลางปี 2564 นี้
และโครงการที่ 5 คือ การเตรียมลงทุนสร้างโรงพยาบาลน่าน ราม ล่าสุด ทางกลุ่มได้ซื้อที่ดินแล้ว 10 ไร่ ในเขตใจกลางเมืองจังหวัดน่าน โดยจะใช้เงินลงทุนในการก่อสร้างเฉพาะอาคารและเครื่องมือแพทย์ราว 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2564 นี้
จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงและมีความพร้อมด้านการรักษาพยาบาล เป็น medical health hub หรือศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติและเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดที่กำลังขับเคลื่อน เชียงใหม่มีโรงเรียนทางการแพทย์-มหาวิทยาลัยที่ผลิตบุคลากรทางการแพทย์
ซึ่งมีเป้าหมายของการรักษาพยาบาลจากทั้งคนในพื้นที่ ต่างพื้นที่ รวมถึงต่างประเทศ โดยเฉพาะแนวโน้มในอนาคตกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
อาทิ เมียนมาและลาวที่มีกำลังซื้อสูง จะเดินทางเข้ามารักษาพยาบาลที่เชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิดเข้าสู่ภาวะปกติ ฐานลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มนี้จะเพิ่มสูงขึ้น
“ผลประกอบการของโรงพยาบาลในเครือ CMR ปี 2563 อยู่ที่ราว 8,000-10,000 ล้านบาท”