ปฏิบัติการ “ภูเก็ต” แซนด์บอกซ์ ลุ้นเปิดเกาะรับต่างชาติ 1 ก.ค. 64

นับถอยหลังอีกเพียง 48 วันเท่านั้น ก็จะรู้ว่า “ฝันเป็นจริงหรือไม่” กับนโยบายการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ดีเดย์ 1 ก.ค. 2564 โดยมีแผนปฏิบัติการเปิดเกาะ “ภูเก็ต” เป็นโมเดลนำร่อง

ภายใต้ความพยายามของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่เผชิญการกลืนเลือดมานานข้ามปี จากพิษโควิด-19

รวมถึงการผลักดันตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มุ่งมั่นให้ “ภูเก็ต” เป็นพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทย โดยผ่านการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 2 เข็ม โดยไม่ต้องกักตัว

ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจึงต่างรอลุ้นให้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แม้คำตอบสุดท้ายจะอยู่ที่การจัดสรร “วัคซีนโควิด” ของรัฐบาลประยุทธ์

จากข้อมูลล่าสุดมีการผิดนัดการส่งมอบวัคซีน 1 แสนโดส เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยไม่ระบุเหตุผลใด ๆ

หลังจากก่อนหน้านี้ได้ส่งมอบเรียบร้อยแล้ว 2 แสนโดส แบ่งเป็นลอตแรก 1 แสนโดส ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 และลอตที่ 2 ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์อีก 1 แสนโดส

ณ ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตได้ระดมฉีดวัคซีนอย่างตื่นตัว โดยมีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้วประมาณ 94,000 คน ยังคงเหลือประชากรที่รอการฉีดอีก 321,979 คน

จากตัวเลขเหล่านี้ ทำให้ผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ตเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องและนั่งไม่ติด เพราะหากฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่ถึง 70% ตามมาตรฐานและที่ประกาศ

แผนเปิดเกาะภูเก็ตคงต้องม้วนเสื่อพับเก็บไว้ เนื่องจากเหตุผลเดียว คือ รัฐไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมาได้จริง

ขอรัฐเปิดช่องซื้อวัคซีนเอง

หนึ่งในแกนนำหลัก 14 องค์กรเอกชนภูเก็ต นำโดย นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าวย้ำว่า แม้ยุทธศาสตร์ Phuket Tourism Sandbox จะได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่มาเกิดปัญหาการระบาดของไวรัสรอบใหม่ ทำให้แผนจัดสรรวัคซีนให้กับ “ภูเก็ต” ถูกกระจายไปหลายพื้นที่ที่จำเป็น ซึ่งคนภูเก็ตเข้าใจถึงเหตุผลนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ในเมื่อยุทธศาสตร์ประกาศออกไปแล้ว และเป็นบริบทสำคัญของประเทศไทย จึงอยากขอให้รัฐบาลอนุมัติช่องทางพิเศษให้ภูเก็ตสามารถจัดซื้อวัคซีนมาสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

“ไม่มีใครปลอดภัยจากโควิดได้จนกว่าคนไทยทุกคนจะปลอดภัยไปด้วยกัน วัคซีนคือคำตอบที่ชัดเจนมากที่สุดในปัจจุบัน ภูเก็ตอยากเห็นการเดินต่อไปข้างหน้าของประเทศไทย และพร้อมอยู่แถวหน้าในการขับเคลื่อนประเทศบนยุทธศาสตร์ที่วางไว้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม” นายภูมิกิตติ์กล่าวและว่า

บนทุกแรงกดดันทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ภูเก็ตจะไม่สร้างเงื่อนไขใด ๆ ขอเพียงความเข้าใจและการทำงานที่รวดเร็วของรัฐบาล ให้ทันต่อสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนทุกเมื่อ

ยุโรปจ่อนำชาร์เตอร์ไฟลต์มาไทย

นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้กล่าวเสริมว่า ชาวภูเก็ตต้องการแสดงพลังให้ประชาคมโลกได้เห็นความพยายามและความสำเร็จที่ภูเก็ตจะเป็นพื้นที่นำร่องของไทยในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ขณะนี้มีบริษัทนำเที่ยวหลายประเทศสนใจจะส่งลูกค้ามาเที่ยวภูเก็ต โดยเฉพาะตลาดหลักซึ่งเป็นลูกค้าประจำ เช่น เยอรมนี มีบริษัทรายใหญ่แจ้งนำชาร์เตอร์ไฟลต์จำนวน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เข้ามา โดยจะเริ่มบินในวันที่ 10 ตุลาคม 2564 รวมถึงกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวียที่ขอความชัดเจนเรื่องพิธีการด้านเอกสารและเงื่อนไขการเดินทางเข้าภูเก็ต

ผู้ว่าฯล้างโควิดก่อนเปิดเกาะ

ปฏิบัติการของคนภูเก็ตครั้งนี้ ถือเป็น “โมเดล” ที่ได้รับความสนใจจากจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะแผนผนึกพลังการทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชน

ฝ่ายราชการนำทีมโดย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งลุยงานเต็มที่ พร้อมประกาศชัดว่าจังหวัดภูเก็ตเตรียมการเรื่องเปิดรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบ Phuket sandbox โดยบูรณาการร่วมกับภาคเอกชนระดมฉีดวัคซีนแก่ชาวภูเก็ตให้ได้ 70% ของจำนวนประชากร

แม้ปัจจุบันทำได้เพียง 22% หรือประมาณ 1 แสนคน ในเดือนพฤษภาคมต้องฉีดอีก 1 แสนคน เดือนมิถุนายนจึงต้องเร่งเดินหน้าต่อ ทุกฝ่ายมั่นใจในรัฐบาลและหน่วยงานที่จะสนับสนุนวัคซีนแก่ภูเก็ต

ขณะเดียวกัน กำลังเร่งปฏิบัติการกวาดล้างโควิด-19 ให้หมดไปโดยเร็วภายในเดือนพฤษภาคม 2564 และเริ่มทดสอบระบบกับคนไทยที่มาภูเก็ต โดยจังหวัดจะวางมาตรการหลังวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ซึ่งบุคคลที่เดินทางเข้าภูเก็ตในทุกช่องทางต้องได้รับวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม และมีใบตรวจรับรองโควิด-19 มาแสดงก่อนภายใน 72 ชั่วโมง

หากไม่มีทั้งสองอย่างต้องตรวจหาเชื้อแบบ rapid test ซึ่งทุกคนต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และเข้ามาแล้วต้องกักตัว 14 วันที่บ้านหรือโรงแรมที่พัก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้ภูเก็ตคลีนและเคลียร์เร็วขึ้น

“ก่อนถึงวันเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 กรกฎาคม 2564 ภูเก็ตต้องพร้อม ประเทศไทยต้องพร้อม คนทั่วโลกก็พร้อม นั่นหมายถึงทุกคนต้องปลอดเชื้อ ปลอดภัย มีภูมิคุ้มกันหมู่”

ทุกขั้นตอนจึงต้องมีระบบระเบียบตามมาตรการสาธารณสุข และขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจโดยภาคเอกชน เมื่อเข้ามาแล้วต้องอยู่ที่ภูเก็ต 7 วันก่อนเดินทางไปที่อื่น สายการบินที่เข้ามาต้องประสานหลายหน่วยงานในการนำนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าภูเก็ต ต้องมั่นใจ 100% ว่าไม่นำเชื้อโรคเข้ามาอีก”

รัฐบาลต้องการให้ภูเก็ตปรับโฉมเป็น new Phuket ในสายตานักท่องเที่ยว คือเป็นเมืองสะอาด สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย จังหวัดภูเก็ตได้รับงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพแก่ผู้ว่างงาน ภายใต้โครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนกับการท่องเที่ยว รวมถึงการดูแลกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ตามแผนระยะยาวภูเก็ตต้องมีอุตสาหกรรมใหม่มารองรับแทนการท่องเที่ยวด้วย หรือสร้างมิติใหม่ด้านการท่องเที่ยว เช่น ท่องเที่ยวชุมชน เศรษฐกิจฐานราก พัฒนาเกษตรวิถีกับสภาพพื้นที่แคบ การแปรรูป การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ท่องเที่ยวเชิงศึกษา ท่องเที่ยวเชิงกีฬา เป็นต้น

นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า วัคซีนที่จะเข้ามากลางเดือนพฤษภาคม 2564 จำนวน 2 แสนโดส ต้องรอกระทรวงสาธารณสุขยืนยันอีกครั้ง

“ภูเก็ตเป็นเป้าหมายใหญ่ของจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในข้อพิจารณาจะได้วัคซีนซิโนแวก 2 แสนโดส และได้ของแอสตร้าเซนเนก้าเพิ่มมาด้วย ถ้าได้วัคซีนมาจะเริ่มฉีดเข็มที่ 1 ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมไปถึงปลายเดือน และเข็มที่ 2 ในเดือนมิถุนายน 2564” นายแพทย์เฉลิมพงษ์กล่าวและว่า

ในด้านการควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต บูรณาการร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกแก่กลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ต่าง ๆ ของภูเก็ตเพื่อคุมการแพร่เชื้อ


ซึ่งคนภูเก็ตคงต้องรอลุ้นกันต่อไป เพื่อให้สถิติการติดเชื้อเป็นศูนย์ ท่ามกลางการเกิดขึ้นของคลัสเตอร์ใหม่ ๆ ไม่รู้จบ