สงขลา ติดเชื้อโควิดพุ่งอีก 98 คน ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มชายแดนมาเลย์

ตรวจเข้มชายแดนสงขลา-มาเลเซีย

สงขลาโควิดพุ่ง 98 คน เป็นนักโทษเรือนจำ 58 คน ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มชายแดนมาเลย์ หวั่นลักลอบเข้ามา

วันที่ 30 พฤษภาคม 2564 รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลา แจ้งสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 98 คน แบ่งเป็นผู้ตัองขังในเรือนจำจังหวัดสงขลาติดโควิดเพิ่มอีก 58 คน ,อ.หาดใหญ่ 18 คน, อ.เมืองสงขลา 12 คน, อ.สะเดา 6 คน, อ.จะนะ 2 คน, อ.บางกล่ำ1 คน และจากต่างจังหวัด (สตูล) 1 คน

ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านวันนี้เพิ่ม 9 คน รวมหายป่วยกลับบ้านแล้ว 999 คน คงเหลือผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 545 คน เสียชีวิตสะสม 8 คน รวมผู้ป่วยสะสม 1,552 คน เป็นผู้ป่วยในประเทศสะสม 1,539 คน และเป็นผู้ป่วยเดินทางจากต่างประเทศสะสม 13 คน

สำหรับผู้ตัองขังในเรือนจำจังหวัดสงขลาที่ติดโควิดเพิ่มอีก 58 คนนั้น ทางทีมแพทย์เร่งค้ดกรองเชิงรุก แยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ต้องขังรายอื่น

ส่วนโรงพยาบาลหลักในจังหวัดสงขลามีเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้ทั้งหมด 367 เตียง แต่ปัจจุบันมีผู้ครองเตียงอยู่ 260 เตียง และยังสามารถยังรองรับผู้ป่วยเข้ารักษาพยาบาลได้อีกถึง 107 เตียง

ทางด้านโรงพยาบาลสนามของจังหวัดสงขลา มีทั้งหมด 9 แห่ง โดยเปิดให้บริการรับผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารักษาพยาบาลแล้ว 6 แห่ง ได้แก่ 1)โรงพยาบาลสนามศูนย์ประชุมนานาชาติ มอ. จำนวน 200 เตียง และมีผู้ครองเตียงไปแล้วจำนวน 56 เตียง ซึ่งศูนย์ประชุมฯ มอ. สามารถขยายรองรับผู้ป่วยได้ถึง 500 เตียงในกรณีที่มีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น

2)โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ มีเตียงสำหรับให้บริการผู้ป่วยจำนวน 120 เตียง และมีผู้ครองเตียงจำนวน 50 เตียง

3)โรงพยาบาลสนามสวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มีเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 80 เตียง และมีผู้ครองเตียงจำนวน 46 เตียง

4)โรงพยาบาลหาดใหญ่-นาหม่อม ที่ยกมาเป็นโรงพยาบาลสนามโดยมีเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 76 เตียง และมีผู้ครองเตียงไปแล้ว 66 เตียง

5)โรงพยาบาลสนามค่ายมหาจักรีสิรินธร อ.นาทวี โดยมีเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 100 เตียง และมีผู้ครองเตียงไปแล้ว 17 เตียง

6)โรงพยาบาลสนามธัญญรักษ์ โดยมีเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 20 เตียง และมีผู้ครองเตียงไปแล้ว 5 เตียง

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จนทำให้มีการล็อคดาวน์ประเทศอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1-14 มิถุนายน 2564 ส่งผลให้มีแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว ลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอสะเดา ซึ่งมีแนวชายแดนยาวประมาณ 85 กิโลเมตร และมักมีการลักลอบเข้ามาด้วยวิธีการทั้งใช้ไม้พาดรั้ว ตัดรั้วและขุดดินลอดเข้ามา แม้จะมีเจ้าหน้าที่จากทหาร ร้อย ร.5021 และ ตชด.4304 คอยออกลาดตระเวน สอดส่อง ป้องกันอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยคอยตรวจสอบ และซ่อมแซมรั้วลวดหนามที่ถูกตัดออกให้มิดชิด และรัดกุมกว่าเดิม รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นในการออกตรวจสกัดกั้นในพื้นที่ และแบ่งพื้นที่รับผิดชอบให้ชัดเจน หากจุดไหนที่บกพร่องมีการลักลอบเข้ามาฝ่ายที่ดูแลก็ต้องรับผิดชอบไป และให้เอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำพาผู้ที่ลักลอบข้ามแดนมา รวมทั้งให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดทั้งถนนสายหลักและสายรองอีกชั้น กรณีที่อาจหลุดรอดเข้ามาจากชายแดน