ภูเก็ตปรับยุทธวิธีสู้โควิดพุ่ง จี้ สธ.อัดวัคซีนเข็ม 3 ดันแซนด์บอกซ์เดินต่อ

ภูเก็ต โควิด

ภูเก็ตปรับยุทธศาสตร์ Quick Win หลังวิกฤตโควิดเพิ่มยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 200 คน/วัน เร่งดัน “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” เดินต่อ จี้ สธ.ต้องเร่งอัดวัคซีนเข็ม 3 สู้เดลต้า

วันที่ 1 กันยายน 2564 นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดภูเก็ต ตัวเลขหลัก 200 รายขึ้นติดต่อกันมา 3-4 วันแล้ว โดยตัวเลขวันที่ 31 ส.ค.64 ผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 258 คน แยกเป็นคนพื้นที่ 257 คน จากแซนด์บอกซ์ 1 คน

ขณะนี้อัตราการใช้เตียง 78% ยังมีเตียงว่าง 378 เตียง เฉพาะผู้ป่วยสีเขียวเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการสามารถขยายจำนวนห้องรองรับได้ โดยความร่วมมือของภาคเอกชนและท้องถิ่นจัดหาโรงแรมและเปิดศูนย์ดูแลโควิดชุมชน เช่น CI, Hospitel, Hotel Isolation รวมทั้งมีผู้ป่วย ที่แยกกักตัวที่บ้านอยู่ในความดูแลของทีมสาธารณสุข ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลหลักของจังหวัด

“ตอนนี้การระบาดโควิด-19 ทั่วพื้นที่ภูเก็ตแล้ว แต่ได้ฉีดวัคซีนครบ 85% ขึ้นไป จึงพบการติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ ถ้าระดมตรวจปูพรมทั้งจังหวัดสมมุติว่า ตรวจ 1,000 คนจะพบผู้ติดเชื้อ 10 คน ไม่คุ้มค่าในการตรวจ จากนี้ไปจะตรวจเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียชีวิต และกลุ่มคนที่ทางการแพทย์เรียกว่ากลุ่ม 608 เป็นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มสี่ยง 7โรคเรื้อรัง กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ คอนเซ็ปต์การดูแลปรับเปลี่ยนไปในการตรวจโควิด” นายแพทย์กู้ศักดิ์กล่าว

ขณะที่นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากวันที่ 1 ก.ค. 64 พบเชื้อสายพันธุ์อัลฟ่า เปลี่ยนเป็น เดลต้า ใช้ ATK ตรวจ แยกจัดการทุกรายเข้า รพ.สนาม ศูนย์พักคอย CI, Hospitel จำนวนนับพันคน และที่พบรายใหม่ยังไม่รวมการตรวจด้วย ATK อีกวันละ 200-250 ราย

สถานการณ์แบบนี้ติดเชื้อง่ายมาก ตัวเลขของภูเก็ต เป็นช่วงขาขึ้น แม้ได้รับวัคซีนซิโนแวคแล้ว 2 เข็ม ไม่เพียงพอกับการป้องกันโรคยังพบผู้ป่วยสีเขียวจำนวนมาก ถ้าได้ฉีดเข็ม 3 จะสามารถต่อสู้กับเดลต้าได้ และภูเก็ตแซนด์บอกซ์ สามารถเดินต่อไปได้ จึงเสนอยุทธศาสตร์ Quick Win : ผู้ติดเชื้อที่รุนแรงไม่เพิ่มขึ้น, ประชาชนมีภูมิคุ้มกัน เพื่อปรับแผนให้การแพทย์สาธารณสุขอยู่ได้ คือ

1. มาตรการยุติการเคลื่อนไหวของคนอย่างเป็นรูปธรรมและลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น

2. เน้นตรวจเชิงรุกเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่ม 608 โดยมุ่งเน้นให้ อปท./ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นและให้พื้นที่ช่วยเฝ้าระวังและตรวจเฉพาะบ้านหรือชุมชน ที่เป็นกลุ่ม 608 หรือเคสป่วยรีบแจ้งและรีบนำมาเข้าระบบการรักษา

3. แนวทางการจัดการกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว Home Isolation กักตัวในพื้นที่ท้องถิ่นหรือชุมชนกำหนด, OQ, Factory Quarantine/สีเหลือง หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงโรงพยาบาลสนามในพื้นที่/สีแดง เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

4. ระดมฉีดบูสเตอร์ AZ เข็ม 3 ใน 1 เดือนแบบช่วงเมษายน ต้องฉีดให้เสร็จภายในเดือนกันยายน 2564

ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ประเด็นยุทธศาสตร์ Quick Win ที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเสนอเป็นการจัดการแพร่ระบาดภายในจังหวัด จากตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง กว่า 200 คนต่อวัน ตอนนี้ถือว่าสถานการณ์วิกฤต ต้องจัดการควบคุมการแพร่ระบาดภายในจังหวัดก่อน ซึ่งการปัดกวาดเชื้อโควิดภายในยังต้องปรับปรุงอีกมาก

“ที่ผ่านมาการสกัดกั้นจากภายนอกหลายฝ่ายชมว่าทำได้ดี และจังหวัดจะต้องฉีดวัคซีน เข็ม 3 คาดว่าจะได้วัคซีนมาในเดือน ก.ย.นี้ ถ้าได้วัคซีนมาจะเป็นทางออกหนึ่งของภูเก็ต ต้องวางแผนการฉีดวัคซีนจะเอาการฉีดวัคซีนเป็นตัวตั้งสร้างความคึกคักฟื้นเศรษฐกิจและเข็ม 3 นี้จะทำให้เราเดินต่อไปได้อย่างมั่นใจที่จะจัดการเชื้อโรค ส่วนการดูแลคนตกทุกข์ได้ยากจะแจกถุงยังชีพในเดือนกันยายนนี้”

พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ตกระจายเชื้อรวดเร็วนั้น ต้องหยุดการเคลื่อนที่ คือหยุดการระบาดของเชื้อ หยุดแรงงานต่างด้าวที่มีวิถีชีวิตในพื้นที่ปิดพักอาศัยทำงานในที่เดียวกันและต่างที่กันทั้งสองแบบนี้ซึ่งจังหวัดได้มีคำสั่งออกมาแล้วในการควบคุมแรงงานต่างด้าว

“กลุ่มแรงงานต่างด้าวยังมีกลุ่มที่ไร้ระเบียบ ที่หลังเลิกงานรวมกลุ่มดื่มน้ำท่อมกันจะกระจายเชื้อในวันรุ่งขึ้นอีกกลุ่มจะมีนายจ้างที่ไม่เอาแล้ว เป็นแรงงานไม่มีคุณภาพ เข้าพักอาศัยปะปนในชุมชน ต้องจัดการแรงงานไร้ระเบียบให้หมด โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามแรงงานต่างด้าวที่ไร้ระเบียบ เริ่มปฏิบัติมาได้ 2 วันแล้ว”

“โดยหลัง 5 โมงเย็นของทุกวันจะปล่อยแถวออกปฏิบัติการล็อกดาวน์แรงงานนำมาตรการของจังหวัดออกมาเป็นการปฏิบัติถ้าพบแรงงานที่ฝ่าฝืนจะเชิญตัวมาที่ศูนย์ปฏิบัติการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ หากตรวจพบเชื้อส่งเข้าศูนย์ CCC หากไม่พบเชื้อแต่ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดจะว่ากล่าวตักเตือนและจับกุมดำเนินคดี” พ.ต.อ.ธเนศกล่าวและว่า

ผลการปฏิบัติ 30 สิงหาคมถึง 1 กันยายน มี 39 เป้าหมาย 222 ราย ตักเตือน 5 ราย จับกุมความผิดหลบหนีเข้าเมือง 5 ราย หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดของแรงงานต่างด้าวแจ้งได้ที่ 076-530220