ตรุษจีนร้านทองภูธรยอดซบ “อุดร-นครสวรรค์” นำทองเก่าแลกใหม่

ตรุษจีนปีเสือร้านทองอุดรฯ-นครสวรรค์ยอดขายวูบหนัก พิษโควิด-19 ทำเศรษฐกิจ กำลังซื้อทรุด แถมราคาทองพุ่งขึ้นสวนทางเงินในกระเป๋า ด้าน “ร้านทองกวง เชียง ล้ง จ.อุดรฯ” คาดหลังไตรมาส 1 ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น อานิสงส์ทำให้ธุรกิจค้าทองดีขึ้น ชี้หลังสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือน มี.ค. 65 มีแนวโน้มราคาทองลดลง จะจูงใจให้คนซื้อ ส่วน “ห้างทองตั้งคุงฮะ (แม่จวง) จ.นครสวรรค์” เผยยอดขายลดฮวบ 30-40% มีแต่คนนำทองคำเก่ามาแลกเป็นทองคำใหม่จำนวนมาก

นายธีระ ตั้งหลักมั่นคง เจ้าของร้านทองกวง เชียง ล้ง และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ธุรกิจค้าขายทองคำในจังหวัดอุดรธานีในช่วงตรุษจีนปีนี้ค่อนข้างซบเซา ผลพวงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเนื่องตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายคนมีปัญหาในการดำเนินธุรกิจ หน้าที่การงาน และการเงิน ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อลดน้อยลงไปด้วย ทำให้ธุรกิจการค้าทองลดน้อยลงด้วยเช่นกัน ประกอบกับราคาทองค่อนข้างสูง โดยเฉพาะช่วงนี้ราคาทองบาทละประมาณ 28,000 กว่าบาท บวกรวมค่ากำเหน็จอยู่ประมาณ 29,000 กว่าบาท จึงทำให้ยอดขายทองในช่วงตรุษจีนปีนี้ลดลง

สำหรับธุรกิจขายทอง ตอนนี้คนที่มีกำลังซื้อจริง ๆ ก็รอซื้ออยู่ แต่ต้องให้ราคาลงจึงจะจูงใจคนซื้อบ้าง แต่ชาวบ้านทั่วไปต้องเหลือกินเหลือใช้ก่อน จึงจะนึกถึงการซื้อทอง คาดหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะผ่านไปเร็ว ๆ หรือผ่านไปในระดับที่ไม่รุนแรง ผู้คนใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ หรือใกล้ปกติก็สามารถที่จะดำรงชีวิต ทำมาหากินได้ ร้านค้าต่าง ๆ ก็สามารถทำงานทำการมีรายได้ จึงจะหันมามองธุรกิจทองคำ คาดการณ์ในระยะสั้นยังไม่ดี

ส่วนระยะยาว 1.หลังจากสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2565 อาจจะกระทบต่อราคาทอง จะทำให้ราคาทองลดลง ถ้าราคาทองลงจะจูงใจให้คนซื้อ 2.ธุรกิจในประเทศ หากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หายไป มีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ กลับมาสู่ภาวะปกติ จะทำให้การค้าดีขึ้นรวมไปถึงการค้าขายทองด้วย แต่คิดว่าไม่น่าใช่ระยะอันใกล้นี้

“หวังว่าสถานการณ์แบบนี้จะอยู่แค่ช่วงต้นปี ช่วงกลางปีเป็นต้นไปทุกอย่างคงจะเริ่มดี ธุรกิจค้าทองหวังว่าหมดไตรมาส 1 ธุรกิจการท่องเที่ยวจะเริ่มขยับได้ มีผู้คนเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นการเดินทางภายในประเทศเริ่มดี ต่างประเทศเริ่มมามากขึ้นก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจในประเทศไทย เวลาจะเป็นตัวช่วย แต่ธุรกิจประเภทอื่นน่าจะฟื้นก่อน เช่น มีการเดินทางผู้คนจะมาอุดรธานีมากขึ้น เพราะเป็นหัวเมืองใหญ่

เช่น วังนาคินทร์คำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ มีการค้าชายแดนมากขึ้น มีรถไฟจีน-ลาวจะทำให้มีสินค้าจีนมาไทยมากขึ้น สินค้าไทยจะไหลไปทางจีนมากขึ้น จะมีผลประโยชน์ทางรถยนต์และรถไฟความเร็วสูงด้วย

โดยรถไฟจากจีนที่มา สปป.ลาว ธุรกิจค้าทองไม่ได้อานิสงส์ เหมือนสินค้าทางการเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภค ที่พอจะส่งข้ามแดนได้ โดยย่นระยะเวลาในการเดินทางทำให้พืชผักผลไม้มาถึงไทยเร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็ส่งย้อนกลับไปได้เช่นกัน ในกลุ่มสินค้าอาหารบางอย่างก็เป็นผลดีระดับหนึ่ง”

นายธีระกล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งความหวังว่าหากการเมืองของไทยยังไม่มีปัญหา การค้าการขายก็อาศัยเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ถ้าเศรษฐกิจโลกไม่มีปัญหา ถ้าโควิด-19 ไม่รุนแรงมากขึ้น การแพร่ระบาดในไทยน้อยลง ผู้คนเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อภาพเศรษฐกิจโดยรวม อานิสงส์ผลบุญก็จะมาตกที่ร้านทองในตอนท้าย อดีตประธานหอการค้าอุดรธานีกล่าว

ร้านทองนครสวรรค์ยอดวูบ 40%

นายวิทวัส ทานชิติกุล เจ้าของห้างทองตั้งคุงฮะ (แม่จวง) จังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมธุรกิจร้านทองค่อนข้างซบเซา ยอดขายลดลง 30-40% เพราะเศรษฐกิจปีนี้ค่อนข้างหนัก ขณะที่ราคาทองคำในตลาดปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกันกับกำลังซื้อของประชาชน ที่ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น เงินที่จะนำมาซื้อทองใหม่ค่อนข้างเบาบาง จะเป็นการนำทองคำเก่ามาแลกเปลี่ยนเป็นทองคำใหม่มากกว่า

“ที่ผ่านเทศกาลตรุษเป็นช่วงที่ชาวจีนนิยมซื้อหาทองคำไปมอบเป็นของขวัญ และในปีนี้แม้จะมียอดการขายพอสมควร แต่โดยภาพรวมแล้วหากเทียบกับช่วงที่ผ่านมาถือว่ายอดขายซบเซาและแย่กว่าทุกปีที่ผ่าน ๆ มา”

กลุ่มลูกค้าของร้านส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกร พ่อค้า แม่ค้า ชาวบ้านทั่วไปประมาณ 90% ซึ่งกลุ่มนี้ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา กำลังซื้อมันแย่ต่อเนื่องเพราะราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ การค้าขายก็ไม่ดี โดยเฉพาะช่วงปี 2563-2564 ยิ่งเห็นได้ชัดเพราะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับทองคำที่มียอดขายได้เรื่อย ๆ จะมีน้ำหนัก 2 สลึง-1 บาท แต่เฉลี่ยแล้วน้ำหนัก 1 สลึงขายดีที่สุด

“สมัยก่อนทองน้ำหนัก 1 สลึงราคา 5,000-6,000 บาท ปัจจุบันราคา 7,000-8,000 บาท ส่วนน้ำหนัก 2 สลึง ราคาหมื่นกว่าบาท ปัจจุบัน 15,000-16,000 บาท ถ้าเปรียบเทียบกับรายได้ของประชาชนที่ลดลง ทำให้คนที่จะซื้อหาทองมาใส่ลำบากขึ้น” นายวิทวัสกล่าว