เนื่องในวันตรุษจีนซึ่งตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เทศกาลสำคัญของประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนและคนจีนทั่วโลก ซึ่งจะมีการปฏิบัติตามประเพณีอยู่ 3 วัน ได้แก่ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว ดังนี้
สำหรับ “วันเที่ยว” ในปีนี้จะตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยวันดังกล่าวถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน เป็นการไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก ด้วยการนำ “ส้มสีทอง” ไปมอบให้
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
เหตุที่ให้ส้มก็เพราะส้มออกเสียงภาษาแต้จิ๋วว่า “กิก” ไปพ้องกับคำว่าความสุขหรือโชคลาภแปลว่า โชคลาภ หรือภาษาฮกเกี้ยน และ ภาษากวางตุ้ง ส้มเรียกว่า “ก้าม” ซึ่งไปพ้องกับคำว่า ทอง เพราะฉะนั้น การให้ส้มจึงเหมือนนำความสุขหรือโชคลาภไปให้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวันตรุษจีนอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกที่ต้องเฝ้าระวังอย่างมาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำการพบปะของประชาชนคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งสามารถปฏิบัติได้ดังนี้
- เลือก : ซื้อเนื้อที่สดใหม่จากร้านที่สะอาดได้มาตรฐาน บริโภคเนื้อไก่ เป็ด และไข่ ที่ปรุงสุกและสะอาด
- หลีก : เลี่ยงการสัมผัส หรือนำสัตว์ปีกที่ป่วย มีอาการหงอย ซึม ขนยุ่ง หรือป่วยตาย มาประกอบอาหาร
- ล้าง : ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่ โดยเฉพาะหลังจากสัมผัสสัตว์และสิ่งคัดหลั่ง
- สุก : รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่
- ร้อน : อุ่นอาหารที่เก็บไว้เกิน 2 ชั่วโมง
- สะอาด : เลือกบริโภคอาหาร น้ำดื่ม น้ำแข็ง ที่สะอาด ที่มีเครื่องหมาย อย.
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention : UP) ในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่หรือแอลกอฮอล์ ใช้ช้อนกลางส่วนตัว และควรสังเกตอาการตนเองหลังกลับจากการเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ให้ตรวจ ATK 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 3 วัน