ภูเก็ต รุกตลาดระยะใกล้ สงครามทำคนชะลอเที่ยว

ภูเก็ต

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ตชี้สงคราม-ค่าเงิน-น้ำมันแพงกระทบคนท่องเที่ยว เร่งทำตลาดระยะใกล้ “อินเดีย-เกาหลีใต้-ไต้หวัน-สิงคโปร์-ฮ่องกง” เสริมพร้อมชงรัฐขยาย “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน”

นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตตอนนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาภูเก็ตเฉลี่ยวันละประมาณ 3,000 คน ถ้าเปรียบเทียบกับปี 2562 ถือว่ายังน้อยมากอยู่ที่ประมาณกว่า 10% เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีน ประมาณ 30% ยังไม่เดินทาง ขณะที่รัสเซีย ยุโรป มีสงคราม

ธเนศ ตันติพิริยะกิจ

ดังนั้น เพื่อให้ได้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ได้ร่วมกับ ททท.และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตไปส่งเสริมการทำตลาดอินเดีย และตลาดระยะใกล้ อาทิ เกาหลีใต้ ไต้หวัน รวมถึง สิงคโปร์ ฮ่องกง ที่เคยเป็นลูกค้าของภูเก็ต และก่อนหน้านี้ได้ไปทำตลาดออสเตรเลีย ดูไบ ได้รับการตอบรับแนวโน้มค่อนข้างดีมาก

อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยเสี่ยงกระทบการท่องเที่ยวระดับโลกคือ สงคราม ค่าเงิน เมื่อน้ำมันปรับราคาขึ้น สินค้าต่าง ๆ ปรับราคาขึ้นตาม ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำรงชีวิต แต่รายได้ไม่ได้ขึ้น เหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้คนอาจจะชะลอการใช้เงินการเดินทางท่องเที่ยว

“สำหรับตลาดในประเทศค่อนข้างดีพอสมควร เป็นตลาดที่ช่วยหล่อเลี้ยงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงอยากร้องขอรัฐบาลให้มีโครงการเราเที่ยวด้วยกันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ภูเก็ตกลัว คือ โลว์ซีซั่นที่จะถึงนี้ ถ้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันไม่ได้รับการต่อ ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวของคนไทย และนักท่องเที่ยวน้อย จะทำให้การท่องเที่ยวสะดุด

“และขอฝากถึงธนาคารพาณิชย์อย่าเพิ่งปรับเงื่อนไขกับผู้ประกอบการ ซึ่งเงื่อนไขที่มีอยู่อาจจะพออยู่ได้แล้ว ในโลว์ซีซั่นที่จะถึงก็ไม่ใช่จะมีรายได้ที่ดีขึ้น แม้ว่ารัฐบาลประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบแล้ว แต่จำนวนนักท่องเที่ยวยังไม่ได้กลับมาเต็มรูปแบบ”

นายธเนศกล่าวต่อไปว่า วันนี้ภูเก็ตฟื้นตัวประมาณ 30% โดยมีรายได้การท่องเที่ยวตั้งแต่ภูเก็ตแซนด์บอกซ์มาถึงตอนนี้ประเมินว่าประมาณกว่า 6 หมื่นล้านบาท หล่อเลี้ยงภูเก็ตได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่าเปรียบเทียบกับในอดีตที่เคยมีรายได้ กว่า 470,000 ล้านบาท

ปัจจุบันมีโรงแรมในภูเก็ตกลับมาเปิดดำเนินการแล้วประมาณ 60-70% จำนวนห้องประมาณ 50,000-70,000 ห้อง โดยโรงแรมหลายแห่งบางช่วงลูกค้าดีก็เปิดเต็มที่ แต่หากลูกค้าไม่ดีก็ลดจำนวนห้องลง อัตราเข้าพัก ปีนี้จนถึงสิ้นปีทุกโรงแรมน่าจะได้ที่ 60%

“สำหรับแผนยุทธศาสตร์ให้ภูเก็ตมีรายได้เพิ่มนอกจากธุรกิจท่องเที่ยว PHUKET GEMMMSST เพื่อให้คนต่างชาติอยู่ในภูเก็ตได้นานขึ้น ประกอบด้วย G : gastronomy ธุรกิจอาหารท้องถิ่น E : education ภูเก็ตเป็นคอมมิวนิตี้ มีโรงเรียนนานาชาติใหญ่ที่สุดแล้วในประเทศไทย และอยากเห็นการเติบโตถึงระดับมหาวิทยาลัย, marina : มีการโปรโมตกันรุนแรงพอสมควร, medical & wellness เป็นธีมสำคัญที่จะจัดงานในอนาคต, MICE city, smart city และ T : tuna อุตสาหกรรมทูน่า ซึ่งทั้งหมดนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ววัน เพราะว่าการขยับเปลี่ยนยุทธศาสตร์แต่ละเรื่องต้องใช้เวลา และผู้ประกอบการต้องใช้กำลังเงินขับเคลื่อน”