ภูเก็ตตั้งทีมสอบสวน 142 คน เที่ยวสถานบันเทิง เข้าข่ายเกี่ยวข้อง ฝีดาษลิงรายแรก

ชายไนจีเรีย ฝีดาษลิง

สสจ.ภูเก็ตเร่งตั้งทีมสอบสวน 142 คน เที่ยวสถานบันเทิงเดียวกับผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรก ยันพบตัวแน่นอน คาดอาจหายแล้ว 

วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ห้องประชุมศาลากลาง มุขหลัง ชั้น 5 จังหวัดภูเก็ต นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต) แถลงข่าวกรณีพบแถลงข่าวพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายแรกของประเทศไทย เป็นชาย สัญชาติไนจีเรีย อายุ 27 ปี มีประวัติเดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย

โดยอาการเกิดขึ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับหญิงรายหนึ่ง ชายดังกล่าว เริ่มไอ และมีผื่นที่ใบหน้า จากนั้นได้ตรวจที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ไม่มีอาการมาก และได้เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก โดยการกักตัวที่คอนโดฯ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทราบผลจากแล็บแรกด้วยการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อก่อโรค เบื้องต้นผลการตรวจ PCR พบเชื้อ Monkeypox virus โดยห้องปฏิบัติการที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (TRC-EIDCC)

ต่อมายืนยันโดยห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ช่วงบ่ายวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 และทีมสอบสวนควบคุมโรครวบรวมข้อมูลการสอบสวนทั้งข้อมูลอาการทางคลินิก ข้อมูลระบาดวิทยา และข้อมูลห้องปฏิบัติการเข้าพิจารณาในคณะกรรมการวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติในบ่ายวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ผลสรุปว่าเป็นผู้ป่วยยืนยัน ฝีดาษวานร ที่พบในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

ในช่วงแรกให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ก่อนที่จะพบว่าหายตัวไปในช่วงดึกของวันที่ 18 กรกฎาคม โดยทราบว่าชายดังกล่าวได้ขึ่นรถแท็กซี่ไปสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านป่าตอง

ขณะที่ พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ได้รับการประสานงานจากสอบสวนโรค เมื่อได้รับแจ้งในวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ได้มีผู้ป่วยรายนี้อยู่ที่ใด ทราบว่าผู้ป่วยรายนี้พักอยู่ที่คอนโดฯแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าไปตรวจสอบ

ในครั้งแรกไม่พบชายดังกล่าว จึงได้สอบถามคนในบริเวณนั้น พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าชายดังกล่าวได้ออกจากที่พักไปช่วงเวลา 19.00 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม จากนั้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่ากว่าจะไล่กล้องเห็นชายดังกล่าว เวลาได้ล่วงเลยถึงวันที่ 19 กรกฎาคม ก่อนจะทราบว่าได้เดินทางโดยรถแท็กซี่ไปยังสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในป่าตอง

จากนั้นในเช้าของวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ได้รับการประสานว่าจะเข้ารับการรักษาตัว จากนั้นในช่วงเย็นของวันเดียวกันได้ประสานกับทีมแพทย์ แต่ไม่มาตามนัดหมาย และไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้นำกำลังตามหาตลอดวันที่ 20 กรกฎาคม 2565

กระทั่งเวลา 19.00 น. พบว่า เข้าพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นได้สอบถาม พร้อมเช็กกล้องวงจรปิดทราบว่า ชายดังกล่าวพักอยู่กับใคร จากนั้นเวลา 21.05 น. เขาได้คืนกุญแจ และเดินออกจากโรงแรมไปโดยไม่แจ้งว่าต้องการเช็กเอาต์

เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ดูสภาพความเป็นอยู่และพบว่าหายไปกับรถ 1 คัน ซึ่งคาดว่า เขาน่าจะขึ้นรถคันนั้นไป รถขับไปในทาง “กระหลิม กมลา” และเห็นล่าสุดอยู่ที่ อบต.เชิงทะเล คาดว่าจะน่าอยู่ในภูเก็ตหรือออกจากพื้นที่ไปแล้ว แต่อยู่ระหว่างการติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ายังไม่ได้ต่อวีซ่า

นพ.กู้ศักดิ์ระบุว่า พบผู้ป่วยเสี่ยงสูงทั้ง 17 คน ในช่วงวันที่ 18-19 กรกฎาคม ได้มีการส่งตรวจจากคนในสถานยันเทิงป่าตอง ไป 7 คน ไม่พบเชื้อ และตรวจเพิ่มวันนี้ อีก 9 ราย

ขณะที่การติดตาม ในส่วนสถานที่บันเทิงมีผู้ใช้บริการรวม 142 ราย ตรวจสอบพบ 5 ราย มีอาการเข้าข่าย ได้แก่ ไข้ เจ็บคอ แพทย์ส่งผลตรวจเบื้องต้นแล้ว ไม่พบเชื้อ ขณะนี้เร่งค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงเพิ่มเติมในโรงแรมที่ผู้ป่วยพักอาศัยและสถานบันเทิงอีก 2 แห่ง

หากเจอตัวจะดำเนินการอย่างไร เป็นขั้นตอนของ Overstay (การอยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะอนุญาต) กรณีนักท่องเที่ยวไม่ให้ความร่วมมือมีมาตรการลงโทษอย่างไร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า เขารับปากว่าจะมา โอเวอร์สเตย์ หายแล้ว จึงเป็นสาเหตุที่ไม่มามอบตัว

ในกรณีนี้หากพบว่าเป็นโควิด-19 สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากโรคฝีดาษวานรเป็นโรคเฝ้าระวัง จึงได้ลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้เรียบร้อยแล้ว ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าสามารถเป็นความผิดใดได้บ้าง