“แม็คโคร-โลตัส” เร่งปั๊มยอด ซินเนอร์ยี “สาขา-สมาชิก” รุกหนัก “โอทูโอ”

แม็คโคร

“แม็คโคร-โลตัส” ผนึกกำลัง กางแผนบุกค้าส่ง-ค้าปลีก รับเศรษฐกิจฟื้นตัว ทุ่มงบฯ ปูพรมสาขาทั้งในไทย-ต่างประเทศ ภายใต้งบฯทั้งปีกว่า 2.4 หมื่นล้าน พร้อมเพิ่มดีกรี O2O ยกระดับบริการ ซินเนอร์ยี สาขา-ฐานสมาชิก ชู โลตัส สมาร์ท แอป เร่งปั๊มยอดขายออนไลน์

นางศิริพร วิธานนิติธรรม ที่ปรึกษา-นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เจ้าของธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก รายใหญ่ เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์การสร้างการเติบโตของบริษัทในช่วงจากนี้ไปว่า บริษัทจะเดินหน้าขยายสาขาของทั้งแม็คโครและโลตัสอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปที่สินค้ากลุ่มอาหารสด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของร้านค้า ผู้ประกอบการ และเอนด์ยูสเซอร์ และการผสมผสานโมเดลธุรกิจแบบ Online to Offline หรือ O2O เพื่อยกระดับการบริการบนโลกออนไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันก็จะใช้จำนวนสาขาที่มีอยู่กว่า 2,800 สาขาทั่วประเทศเป็นจุดส่งสินค้าออนไลน์ด้วย และจะมีการปรับปรุงในส่วนของพื้นที่เช่า และเพิ่มพื้นที่เช่าให้มากขึ้น และจะมีการซินเนอร์ยีกันมากขึ้น นอกจากนี้ หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง บริษัทก็จะหันมาให้ความสำคัญในการขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

กราฟฟิกแม็คโคร-โลตัส

เดินหน้าขยายสาขาไทย-เทศ

นางศิริพรกล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานสำหรับในครึ่งปีหลัง ในส่วนของธุรกิจค้าส่ง หรือแม็คโคร สำหรับในประเทศจะเปิดเพิ่ม 5 สาขาคือ อุตรดิตถ์ พัฒนาการ เมืองทอง เลียบคลอง 2 และอ้อมน้อย ส่วนต่างประเทศ จะเปิดที่เดลี และพนมเปญ สาขา 2 ส่วนธุรกิจค้าปลีก หรือโลตัส จะเปิดเพิ่ม 3 สาขา ที่นวลจันทร์ ราชพฤกษ์ ไอคอนสยาม รวมถึงสาขาในโมเดล Go Fresh จะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 45-50 สาขา ขณะที่ในมาเลเซีย จะเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มอีก 3 สาขา จากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แม็คโครเปิดสาขาเพิ่ม 4 สาขา เป็นโมเดลฟู้ดเซอร์วิส 3 สาขา และเฟรช @ แม็คโคร 1 สาขา และโลตัสเปิดไป 18 สาขา เป็น ซูเปอร์มาร์เก็ต 1 สาขา และโก เฟรช 17 สาขา

ส่วนในแง่ของงบประมาณในการลงทุน รวม ๆ ทั้งปีจะใช้อยู่ที่ประมาณ 22,700-24,900 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจค้าส่งประมาณ 10,200-11,400 ล้านบาทในจำนวนนี้ 4,500-5,500 ล้านบาทจะเป็นการขยายสาขาในประเทศ และอีก 1,200-1,300 ล้านบาท สำหรับการขยายสาขาในต่างประเทศ

ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกมีงบประมาณราว ๆ 12,500-13,500 ล้านบาท ในจำนวนนี้ประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท จะใช้สำหรับการขยายสาขาใหม่ และอีก 2,500 ล้านบาท ใช้ในการรีโนเวต และ 3,000-3,500 ล้านบาท ใช้สำหรับเรื่องของระบบไอที ซิสเต็ม และการรีแบรนด์ ซึ่งในส่วนนี้เป็นการลงทุนที่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา รวมถึงการริเริ่มโปรเจ็กต์ใหม่ ๆ เพื่อทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดในระยะถัดไป

“เดิมบริษัทมีเฉพาะธุรกิจค้าส่ง คือแม็คโคร แต่หลังจากที่รวมกิจการกับโลตัส จะทำให้บริษัทมีธุรกิจค้าปลีกเข้ามาเพิ่ม เดิมแม็คโครมีประมาณ 154 สาขา เป็นสาขาในไทย 147 สาขา ต่างประเทศ 7 สาขา รวมพื้นที่ 830,216 ตร.ม. เมื่อรวมกับโลตัสก็จะทำให้มีสาขาของธุรกิจเพิ่มเข้ามาอีก 2,661 สาขา เป็นสาขาในไทย 2,597 สาขา และมาเลเซียอีก 64 สาขา รวมพื้นที่ 1,829,330 ตร.ม. เท่ากับว่าตอนนี้บริษัทมีสาขามากถึง 2,815 สาขา รวมพื้นที่กว่า 2,659,546 ตร.ม. และนอกจากนี้ ยังจะทำให้มีพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 1,028,485 ตร.ม. เป็นในประเทศ 724,906 ตร.ม. และมาเลเซีย 303,579 ตร.ม.”

นอกจากนี้ การรวมกิจการดังกล่าวยังจะทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น เดิมแม็คโครมีสมาชิกประมาณ 3.9 ล้านสมาชิก การรวมกับโลตัสก็จะทำให้มีฐานสมาชิกคลับการ์ดเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 23 ล้านราย ในจำนวนนั้นเป็นสมาชิกในไทย 20 ล้านราย และมาเลเซีย 3 ล้านราย ซึ่งเป็นการช่วยขยายจำนวนลูกค้าของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้น”

สมาร์ทแอปตัวเร่งออนไลน์

นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บริษัท สยามแม็คโคร กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกว่า สำหรับในไตรมาส 3 นี้ ซึ่งผ่านมา 2 เดือนแล้ว คือเดือน ก.ค. และ ส.ค. ในแง่ของธุรกิจค้ายังมีการเติบโตมากกว่า 10% และเดือน ก.ย.ผ่านมา 5-6 วัน ก็มีอัตราการเติบโตที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้น ในไตรมาส 3 ในแง่การปิดยอดขาย คาดว่าน่าจะไม่น้อยกว่าการเติบโตในไตรมาส 2 ที่เพิ่งจบลงไป จากนี้ไปบริษัทยังมีแผนการลงทุนในเรื่องของออนไลน์และการเปิดสาขาต่างประเทศ เป็นการสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

“ที่ผ่านมายอดขายของสาขาต่าง ๆ เริ่มกลับมาแล้ว หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศ ฉะนั้น ยอดขายที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่เป็นร้านค้า ร้านอาหารของแม็คโครเติบโต รีเทลก็เติบโตตามไปด้วย ตอนนี้ที่เรามองก็คือ จะทำอย่างไรให้เติบโตมากกว่านี้ เพราะตอนนั้นทั้งแม็คโครและโลตัส มีสาขารวมกันมากกว่า 2,800 สาขาทั่วประเทศ ทำอย่างไรจึงจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เรามีนโยบายที่จะเร่งการขายนอกร้านมากขึ้น โดยจะมีทีมงานนักขาย ที่เรียกว่ากองทัพนักขายพร้อมจะส่งสินค้าไปถึงร้านลูกค้า หรือบ้านลูกค้า เราอาจจะเห็นการเติบโตที่มากกว่านี้จากออนไลน์ ซึ่งจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 4 หรือต้นปีหน้าเป็นต้นไป”

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจโลตัสประเทศไทย บริษัท สยามแม็คโคร กล่าวเสริมว่า สำหรับธุรกิจรีเทล ในแง่ของยอดขาย ต้องบอกว่า same store growth ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3 มีตัวเลขที่เป็นบวก และ ก.ย.มีแนวโน้มที่ดี เชื่อว่าไตรมาส 3 ปิดบวกแน่นอน และในแง่ของมอลล์ occupancy ดีขึ้นตามลำดับ ปิดไตรมาส 2 ที่ประมาณ 89% พอไตรมาส 3 เริ่มเป็น 91-92% เพราะฉะนั้น contribution จากมอลล์ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย และหากเทียบกับปีที่ผ่านมาจะเห็นการเติบโตของมอลล์ค่อนข้างเยอะเพราะปีที่ผ่านมามีการล็อกดาวน์

อีกอันหนึ่งต้องชูโรงก็คือออนไลน์ ครึ่งปีแรกธุรกิจออนไลน์ของโลตัสเป็นช่วงตั้งตัว โดยโลตัสเพิ่งเปิดตัว Lotus’s SMART App แอปพลิเคชั่นใหม่ ที่รวมออนไลน์ช็อปปิ้งและรีวอร์ดโปรแกรมใหม่อยู่ในที่เดียวไปเมื่อปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และครึ่งปีแรกจบที่บวก 4% จากนี้ไปในครึ่งปีหลังจะเป็นการต่อยอดธุรกิจในส่วนนี้ และมีความพร้อมสำหรับธุรกิจออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งจากสาขาเล็ก หรือสาขาใหญ่ จากสาขาที่มีอยู่กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ ตรงนี้จะเป็นการต่อยอดในเรื่องของการเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของบริษัทสยามแม็คโคร มีรายได้รวม 118,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.6% และมีกำไรสุทธิ 1,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 229,680 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,623 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

โดยกลุ่มธุรกิจแม็คโคร ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทำให้กลุ่มค้าส่งแม็คโครเติบโตได้จากธุรกิจร้านอาหาร โรงแรมที่กลับมาฟื้นตัว ประกอบกับการเติบโตของยอดขาย จากทั้งสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแม็คโครกัมพูชา ที่มีผลประกอบการเป็นบวกมาหลายไตรมาส รวมถึงธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสที่ปรับตัวดีขึ้น


ส่วนกลุ่มค้าปลีกโลตัส กลับมาเติบโตจากการที่สามารถเปิดให้บริการศูนย์การค้าได้ตามปกติ การรีแบรนด์สาขา การพัฒนาสินค้าอาหารสด รวมทั้งการเปิดตัวแพลตฟอร์มจัดจำหน่ายออนไลน์ โลตัส สมาร์ท แอปพลิเคชั่น