ยูนิโคล่ เปิดเกมรุก เพิ่มดีกรี O2O ปลุกตลาดแฟชั่น

เขมจิรา เทศประทีป-ยูนิโคล่
สัมภาษณ์

ตลอดช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ผลพวงจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาพรวมของตลาดแฟชั่นค่อนข้างเงียบเหงาและต้องปรับตัวอย่างมาก จากมาตรการ “ล็อกดาวน์” เพื่อลดการแพร่ระบาด

ล่าสุดจากสถานการณ์ที่เริ่มคลี่คลาย “ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ นางเขมจิรา เทศประทีป ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด ถึงภาพรวมของตลาดแฟชั่นและทิศทางของ “ยูนิโคล่” แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ในตลาดเมืองไทยมากว่า 10 ปี ดังนี้

Q : อัพเดตภาพรวมตลาดแฟชั่นในเมืองไทย

จากสถานการณ์โควิดที่เริ่มดีขึ้น ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้าน ทำให้เดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งในและนอกประเทศ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดแฟชั่น

สำหรับยูนิโคล่เองได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งด้านคุณภาพและความหลากหลาย เพื่อรองรับในทุกไลฟ์สไตล์และกิจกรรมของผู้บริโภค และการเปิดประเทศก็จะมีกำลังซื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มเติม การเดินทางออกนอกประเทศเพื่อท่องเที่ยวของคนไทยก็มีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งนี้ถือเป็นปัจจัยด้านบวกที่เพิ่มขึ้น

ที่สำคัญ คือ ตลาดแฟชั่นเป็นตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาสร้างสีสันและความตื่นเต้นอยู่ตลอด แม้ปีที่ผ่านมาจะมีความเคลื่อนไหวไม่มากนัก เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเป็นส่วนมาก

แต่เชื่อว่าในปีนี้ ตลาดแฟชั่นจะกลับมาคึกคักอีกครั้งจากสถานการณ์ด้านบวกทั้งในและนอกประเทศ ตลาดเสื้อผ้าในประเทศไทยยังคงเติบโตได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเสื้อผ้ายังเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน เทรนด์ หรือความต้องการใหม่ ๆ ของผู้บริโภคก็เกิดขึ้นตลอดเวลา อาทิ หลังการกลับมาทำงานที่ทำงาน เสื้อผ้าทางการ อาทิ เสื้อเชิ้ต กางเกง smart pants ก็จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น หรือการเปิดประเทศก็จะมีความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ

นอกจากนี้ ปัจจุบันลูกค้าชาวไทยเองก็มีความตื่นตัวกับความยั่งยืนและเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Millennial และ Gen Z อาทิ ความต้องการสินค้าในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือการใช้บรรจุภัณฑ์ให้น้อยลง

ที่ผ่านมา ยูนิโคล่ได้ร่วมกับพันธมิตรในการพัฒนาวัสดุรีไซเคิลสำหรับการทำเสื้อผ้า ปัจจุบันยูนิโคล่มีเสื้อผ้าบางรุ่นที่ทำมาจากนำเส้นด้ายจากขวดพลาสติกที่ใช้แล้วมาผลิตเป็นเสื้อผ้าใหม่ มีกระเป๋าที่ผสมผสานกับเส้นด้ายจากเศษด้ายไนลอนที่เหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตเสื้อผ้า เป็นต้น

Q : สถานการณ์โควิดที่คลี่คลายมากขึ้น จากนี้ไป ยูนิโคล่วางนโยบายและแนวทางการดำเนินงานไว้อย่างไร

ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญของยูนิโคล่ตลอดมา นับตั้งแต่ปี 2554 ที่ยูนิโคล่เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ และไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย และปี 2565 นี้จะเป็นปีที่ยูนิโคล่ ครบรอบ 11 ปีในเมืองไทย

ที่ผ่านมา ยูนิโคล่ได้สร้างหลักไมล์สำคัญให้ธุรกิจในเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ยูนิโคล่ ออนไลน์ สโตร์ ให้ลูกค้าสามารถช็อปปิ้งออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง (ปี 2559), การเปิด ยูนิโคล่ โรดไซด์สโตร์ สาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย ที่ถนนพัฒนาการ (ปี 2561), แต่งตั้ง ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ เป็น Local Brand Presenter คนแรกของเมืองไทย (ปี 2563) รวมถึงการเปิดร้านยูนิโคล่ในแต่ละภาคทั่วประเทศ

สิ่งที่ยูนิโคล่ให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือ ความต้องการของลูกค้า ที่ยังมุ่งเน้นเรื่องไลฟ์แวร์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นผ่านไอเท็มต่าง ๆ ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน สำหรับทุกไลฟ์สไตล์ และเหมาะกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย หรือเด็ก โดยมีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง

แต่ละปีจะมีการอัพเดตสินค้า อาทิ การเพิ่มสีใหม่ ๆ หรือการเพิ่มไอเท็มใหม่ ๆ ตามต้องการของลูกค้า รวมทั้งการปรับโฉมสาขาให้ทันสมัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

Q : แผนการขยายสาขาและช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ

ปัจจุบัน ยูนิโคล่มี 56 สาขาโดยสาขาล่าสุดคือ ยูนิโคล่ เซ็นทรัล จันทบุรี รวมถึงร้านโรดไซด์สโตร์อีก 6 สาขา ได้แก่ พัฒนาการ, ลาซาล, บุญถาวร, อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ คอมเพล็กซ์, มีนบุรี และนวมินทร์

นอกจากนี้ ยังมีออนไลน์สโตร์ที่ UNIQLO.com/th และแอปพลิเคชั่น UNIQLO ซึ่งในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายออนไลน์ของเราเติบโตอย่างรวดเร็ว และขณะนี้สัดส่วนของยอดขายยังอยู่ในทิศทางที่ดี แต่ก็ยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งเมื่อเทียบกับยอดขายจากร้านสาขา

จากนี้ไป ยูนิโคล่มีนโยบายจะขยายสาขามากขึ้น โดยใช้โมเดลต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเฉพาะเจาะจงในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการปรับปรุงสาขาต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้ง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เพิ่งมีการเปิดร้านยูนิโคล่ สาขาอุดรธานี โฉมใหม่ เต็มรูปแบบ 2 ชั้น เป็นสาขาใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน จากก่อนหน้านี้ที่มีการปรับปรุงหลาย ๆ สาขา อาทิ เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น, แฟชั่นไอส์แลนด์ เป็นต้น

และยูนิโคล่ยังคงสร้าง brand awareness รวมถึงการสร้างกลยุทธ์ที่รวม e-Commerce และ in-store เข้าด้วยกัน โดยจะใช้กลยุทธ์ O2O หรือ online to offline กับเรื่องการขาย การเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ และการนำเอา live streaming มาเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านทางเว็บไซต์ของยูนิโคล่

ขณะเดียวกันก็มีนโยบายเน้นให้ความสำคัญกับร้านค้าออนไลน์เช่นเดียวกับร้านสาขาและมุ่งเน้นที่จะพัฒนาช่องทางออนไลน์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อทำให้ลูกค้าใช้แอปได้อย่างรวดเร็วขึ้นและติดตามง่ายขึ้น เช่น ฟีเจอร์ click-and-collect ที่ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าออนไลน์และเลือกจ่ายที่ร้านได้

Q : เป้าหมายของยูนิโคล่

ตลอดระยะเวลาที่ยูนิโคล่ดำเนินธุรกิจในเมืองไทย ยูนิโคล่มีความมุ่งมั่นตั้งใจให้คนไทยทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านเสื้อผ้าในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ส่งต่อปรัชญาไลฟ์แวร์ (Life Wear) รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อคงความเป็นแบรนด์ที่มีคุณค่าในสังคมต่อไป อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ LifeWear เพื่อสนับสนุนให้คนไทยสวมใส่เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

นอกจากนี้ ยูนิโคล่นำเสนอหลักปรัชญาไลฟ์แวร์ โดยมุ่งหวังว่าจะตอบโจทย์คนทุกช่วงวัย ขณะเดียวกันก็จะมีดีไซน์ที่ไร้ที่ติ ออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคน ทุกไลฟ์สไตล์ สวมใส่ได้ทุกวัน โดยคอนเซ็ปต์นี้ครอบคลุมถึงเสื้อผ้าของยูนิโคล่หลายประเภท ตั้งแต่ผ้าถักและลินิน ไอเท็มระดับไอคอนของยูนิโคล่ ไปจนถึงเซต HEATTECH, UV Protection และ AIRism รวมไปถึง Uniqlo U คอลเล็กชั่นที่รวมนวัตกรรมต่าง ๆ ในดีไซน์ที่ใส่ได้ทุกวันอีกด้วย

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยูนิโคล่ได้เพิ่มความสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องของความยั่งยืน (sustainability) มิใช่เพียงเพราะ ลูกค้าให้ความสนใจในเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้นเท่านั้น แต่เป็นพันธกิจของยูนิโคล่มาอย่างยาวนานในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมและธุรกิจโดยรวม

ซึ่งยูนิโคล่ประเทศไทยดำเนินงานสอดรับในหลายมิติทั้งในส่วนของผู้คน โลก และชุมชน ยกตัวอย่าง ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ยูนิโคล่ บริจาคให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ อาทิ โรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศ, UNHCR, มูลนิธิกระจกเงา เป็นต้น

ปัจจุบันแม้ต้นทุนทั้งวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ที่เป็นต้นทุนหลักของการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น ยูนิโคล่ก็พยายามมอบประสบการณ์การซื้อสินค้าและสินค้าที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าโดยตลอด