เต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี ซีอีโอคนใหม่ บุญรอดบริวเวอรี่

เต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่
เครดิตภาพ : ไอจี tae_bhurit

“เต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี” ทายาทรุ่นที่ 4 ตระกูลภิรมย์ภักดี ได้รับแต่งตั้งจากบอร์ด ให้ทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

วันที่ 29 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีมติแต่งตั้ง “ภูริต ภิรมย์ภักดี” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หลังนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดีเสียชีวิต

“ประชาชาติธุรกิจ” จึงรวบรวมประวัติส่วนตัวและประสบการณ์การทำงานของซีอีโอคนใหม่บุญรอดบริวเวอรี่

ประวัติส่วนตัว

ภูริต ภิรมย์ภักดี หรือชื่อเดิม สันต์ ภิรมย์ภักดี มีชื่อเล่นว่า เต้ เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม ปี 2520 เป็นลูกชายคนโตของนายสันติ-นางอรุณี ภิรมย์ภักดี สมรสกับ ตอง นิสามณี ภิรมย์ภักดี มีบุตร 2 คน ชื่อ ด.ญ.นิษา ภิรมย์ภักดี และ ด.ช.ณกฤศ (สิงห์) ภิรมย์ภักดี 

ประวัติด้านการศึกษา

เมื่อจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่โรงเรียนสาธิตประสานมิตร ก็ได้เดินทางไปศึกษาต่อระดับไฮสกูลที่ Wilbraham Monson Academy ประเทศสหรัฐอเมริกา จนถึงเกรด 12 และจบปริญญาตรีด้าน Business Management จากมหาวิทยาลัย Bentley College เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์

จากนั้นจึงกลับมาช่วยธุรกิจครอบครัวในตำแหน่งพนักงานดูแลถังเบียร์ และได้ไปศึกษาการปรุงและการผลิตเบียร์ Master of Brewing ที่ Doemens Institute of Technology ซึ่งเป็นสถาบันสอนด้านการปรุงเบียร์ที่เก่าแก่ของเยอรมัน และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับระดับโลก ถือเป็น Brewmaster คนที่ 3 ของตระกูลภิรมย์ภักดี ต่อจากคุณปู่ “ประจวบ ภิรมย์ภักดี” (Brewmaster ไทยคนแรก) และคุณลุง “ปิยะ ภิรมย์ภักดี”

หลังสำเร็จการศึกษา ภูริตเดินทางกลับมายังประเทศไทยและฝึกงานกับบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ เพื่อเรียนรู้งานด้านโฆษณาและการตลาด ก่อนจะเข้ามาทำงานด้านการตลาดที่บุญรอดฯ แล้วจึงศึกษาต่อระดับปริญญาโททางธุรกิจ Master of Business Administration และ Marketing and Entrepreneurship Major ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ประสบการด้านการทำงาน

ภูริตได้เข้าทำงานที่บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด อย่างเต็มตัวในปี 2547 ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มน็อนแอลกอฮอล์ กระทั่งปี 2553 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับสินค้าในเครือของบุญรอดบริวเวอรี่ ในปี 2559 จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ภูริตยังสร้างผลิตภัณฑ์ในกลุ่มน็อนแอลกอฮอล์ เช่น สาหร่ายมาชิตะ น้ำแร่เพอร์รา อีกทั้งยังเป็น Key man ในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลายให้กับบริษัท อาทิ บริษัท มารุเซ็น ที จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวญี่ปุ่น (Japanese Green Tea) ของประเทศญี่ปุ่นและส่งออกไปในหลายประเทศทั่วโลก, บริษัท ซังโกะ เซกะ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมอบกรอบ และบริษัท เค เจ ซี อินเตอร์ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตสาหร่ายจากประเทศเกาหลี

อีกทั้งในปี 2561 ภูริตยังเป็นกำลังหลักในการจัดตั้งบริษัท Singha Ventures ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุน หรือ CVC (Corporate Venture Capital) ในธุรกิจ Start Up ทั่วโลก โดยภูริตรับผิดชอบในด้านการบริหารองค์กร ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร

ทั้งนี้ ตำแหน่งล่าสุดของ ภูริต ภิรมย์ภักดี ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด คือตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ซีอีโอ บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Singha Worldwide และประธานกรรมการบริหารกองทุน สิงห์ เวนเจอร์

นอกจากนี้ ด้วยความที่ภูริตหลงใหลในกีฬามวยไทยมาตั้งแต่เด็ก และยังคงฝึกฝนอยู่ในปัจจุบัน จึงได้เปิดโรงเรียนสอนมวยไทยชื่อ RSM Academy

ผลงานในวงการบันเทิง

แม้ภูริตจะเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลภิรมย์ภักดีที่ต้องสืบทอดธุรกิจของครอบครัว แต่เขาก็ได้มีผลงานในวงการบันเทิงมากมาย โดยภูริตเป็นนักร้องนำวง “กรุงเทพมาราธอน” ซึ่งวงประกอบด้วยสมาชิกอีก 3 คน ได้แก่ ปาย กอบชัย ข่วงอารินทร์ (กีตาร์), นะ ธนวิตร พงษ์เจริญ (เบส) และ อู๋ ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์ (กลอง) มีผลงานเพลงสองอัลบั้ม คือ อัลบั้ม The Winner และ อัลบั้ม 7912 ภายใต้สังกัด สไปร์ซซี่ ดิสก์

รวมถึงมีผลงานเพลงประกอบละครดัง อาทิ “หากความรักฟังอยู่” เพลงประกอบละครเรื่อง บันไดดอกรัก, “เมื่อไหร่จะได้พบเธอ” เพลงประกอบละครเรื่อง พรพรหมอลเวง และ “ปลายรุ้ง” เพลงประกอบละครเรื่อง ตามรักคืนใจ ที่ได้ร้องร่วมกับลูกสาวคือน้องนิษา

นอกจากนี้ ภูริตยังได้แต่งเนื้อร้องและขับร้องเพลง “น้ำตา” เพื่อถ่ายทอดจากความรู้สึกหลังการจากไปของ สิงห์ ประชาธิป มุสิกพงศ์ มือกีตาร์วง Sqweez Animal ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้อง