ขณะนี้ ตลาดเครื่องฟอกอากาศที่มีมูลค่าตลาดรวมราว ๆ 5,000 ล้านบาท ไม่เพียงกลับมาคึกคักจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 เท่านั้น แต่ปีนี้ตลาดยังเต็มไปด้วยสินค้าใหม่ที่มีความเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องที่ออกแบบมาสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ หรือเครื่องที่เจาะกลุ่มผู้ใช้แก็ดเจต ไปจนถึงฝั่งงานโครงการที่มีหลายบริษัทพากันโปรโมตนวัตกรรมระบบหมุนเวียนอากาศ หลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมไปถึงกระแสนิยมสัตว์เลี้ยง ยังทำให้เกิดดีมานด์ฟังก์ชั่นใหม่ ๆ นอกเหนือจากการฟอกอากาศแบบธรรมดา
PM 2.5 ปัจจัยหนุนตลาดคึกคัก
“บุญฤทธิ์ ฉันสุวรรณ” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แสงชัย แอร์ควอลิตี้ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ แบรนด์ Blueair (บลูแอร์) เปิดเผยว่า เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทเติบโตแบบดับเบิลหรือโต 100% ในทุกช่องทางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นไส้กรองหรือตัวเครื่อง พลิกกลับจากภาวะเงียบเหงาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแบบหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเป็นผลจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่กลับมารุนแรงอีกครั้งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเปิดประเทศ ทำให้ทั้งผู้บริโภคครัวเรือน และภาคธุรกิจ อาทิ โรงแรม โรงพยาบาล ร้านอาหารเริ่มมีเม็ดเงินและหันมาหาซื้อเครื่องฟอกอากาศ ทั้งเพื่อสุขภาพของตนเอง พนักงานและลูกค้า
นอกจากนี้ กระแส ESG (environment-social-governance) หรือแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ผลักดันให้ปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ เช่น โรงแรม ธนาคาร อาคารสำนักงานหันมาสนใจเรื่องคุณภาพอากาศในอาคารกันมากขึ้น จนลูกค้าองค์กรกลายเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพขึ้นมา และเชื่อว่าจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ยืดเยื้อจะทำให้มีดีมานด์เครื่องฟอกต่อเนื่องไปอีกหลายเดือน ซึ่งหากสถานการณ์ฝุ่นแย่ลงอาจทำให้ตลาดที่เคยเติบโตประมาณ 15-20% โตก้าวกระโดดถึง 100% ได้เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับแนวโน้มดังกล่าว บริษัทจึงเริ่มสำรองสินค้าตั้งแต่ปลายปี 2565 ที่ผ่านมา รวมถึงนำเครื่องฟอกรุ่นสำหรับเจาะกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์เข้ามาทำตลาด เช่น รุ่น Blue พร้อมสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียสร้างการรับรู้ ชูความสามารถในการกรองขน-สะเก็ดผิวหนังจากสัตว์ ส่วนกลุ่มลูกค้าองค์กรจะมุ่งทั้งโรงพยาบาล โรงแรมและอาคารสำนักงาน ตามกระแสโคเวิร์กกิ้งสเปซและการเปลี่ยนออฟฟิศเป็นห้องประชุม
ค่ายใหญ่ขนทัพรับดีมานด์พุ่ง
สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของแอลจี ที่ปีนี้ขนทัพเครื่องฟอกอากาศรูปแบบใหม่ ๆ มาเจาะลูกค้าครัวเรือนหลากหลายกลุ่ม “อำนาจ สิงหจันทร์” ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นอีกกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพของตลาดเครื่องฟอกอากาศในปีนี้ ทั้งด้วยจำนวนผู้เลี้ยง ที่เพิ่มขึ้นตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนจากการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยง ทำให้ความต้องการเครื่องฟอกอากาศเพื่อรับมือกับกลิ่น-ขนสัตว์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จนมีความสำคัญไม่แพ้กลุ่มผู้สนใจสุขภาพและผู้เป็นภูมิแพ้ที่เป็นฐานลูกค้าเดิม
สำหรับยุทธศาสตร์สำหรับกลุ่มเครื่องฟอกอากาศในปีนี้จะเน้น 4 ด้าน คือ เพิ่มความหลากหลายของสินค้าเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกเซ็กเมนต์ โฟกัสการรับมือปัญหาภูมิแพ้ ดีไซน์เรียบหรูทันสมัยและฟีเจอร์ล้ำ การเข้ารับทดสอบมาตรฐานสากลต่าง ๆ รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นของการทำตลาดเครื่องลดความชื้นซึ่งเป็นสินค้าน้องใหม่
มีไฮไลต์เป็นเครื่องฟอกที่เน้นเฉพาะด้าน อาทิ Puricare PET เน้นกำจัดกลิ่นและขนของสัตว์เลี้ยงจากอากาศได้เร็วเป็นพิเศษ ซึ่งจะนำเข้ามาทำตลาดในครึ่งหลังของปี และ Puricare Aero Furniture เครื่องฟอกอากาศที่ออกแบบสไตล์เฟอร์นิเจอร์ ด้วยพื้นที่วางของด้านบนทำให้สามารถใช้เป็นโต๊ะข้างเตียง-ข้างโซฟาได้ และยังเป็นแท่นชาร์จไร้สายสำหรับแก็ดเจตต่าง ๆ รวมถึงมีโคมไฟแอลอีดีเปลี่ยนสีในตัวอีกด้วย เพื่อมาเสริมทัพชิงตลาดเครื่องฟอกอากาศระดับพรีเมี่ยม
เช่นเดียวกันซัมซุง ที่ล่าสุดเดินหน้าโปรโมตทั้งเครื่องฟอกอากาศ BESPOKE Cube ชูจุดเด่นด้านดีไซน์สไตล์เฟอร์นิเจอร์ และโหมดสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เน้นกรองไรขน รวมถึงแผ่นกรองกำจัดกลิ่น อีกทั้งยังเน้นย้ำเรื่องการใช้เครื่องฟอกคู่กับแอร์ อย่างรุ่น WindFree Premium Plus ซึ่งมีแผ่นกรองฝุ่น PM 1.0 อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านความเคลื่อนไหวของบรรดาช่องทางจำหน่ายและร้านค้าต่าง ๆ ต่างงัดกลยุทธ์มาผลักดันการขายเครื่องฟอกอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่ขาย โปรโมชั่น หรือติดตั้งป้ายแจ้งปริมาณฝุ่นในแต่ละวัน เช่น เพาเวอร์บาย เชนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในเครือเซ็นทรัลรีเทล จัดแคมเปญ จักรวาลเครื่องฟอกอากาศ ไอเท็มเด็ด พิชิตฝุ่น ลดราคา-จัดผ่อนเครื่องฟอกอากาศหลายรุ่น เมื่อช่วง 23 ก.พ.-1 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา ส่วนห้างเซ็นทรัลนำเครื่องฟอกจัดแสดงบริเวณทางเข้าพร้อมติดป้ายแจ้งปริมาณฝุ่นในแต่ละวัน ขณะที่ เพาเวอร์ มอลล์ ในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดแคมเปญลดราคาเครื่องฟอกอากาศ 8 รุ่นสูงสุดถึง 63% ไปเมื่อ 13-28 ก.พ. 66 ที่ผ่านมาเช่นกัน
แค่กรองไม่พอ ต้องถ่ายเทด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากเครื่องฟอกอากาศสำหรับการกรองอากาศในบ้านในอาคารแล้ว ปีนี้ยังมีกระแสการโปรโมตนวัตกรรมสำหรับถ่ายเทอากาศระหว่างใน-นอกอาคาร ซึ่งมาแรงในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย นำโดยการโปรโมตของแบรนด์ญี่ปุ่นทั้งพานาโซนิคที่ผลักดันระบบนี้มานาน และล่าสุดไดกิ้นโดดร่วมวงด้วย
“ฮิเดกิ คิตาซาวะ” ผู้อำนวยการส่วนการตลาดเครื่องปรับอากาศ และฝ่ายขาย B2B บริษัท พานาโซนิค เอ.พี. เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันความกังวลเรื่องคุณภาพอากาศของผู้บริโภคไทยมีมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์นี้ จึงพัฒนา Panasonic Complete Air Management System หรือระบบควบคุมอากาศสมบูรณ์แบบขึ้น โดยระบบนี้มีจุดเด่นเป็นการทำงานประสานกันของเครื่องปรับอากาศ และการระบายอากาศ อาศัยอัลกอริทึมและเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ตรวจจับคุณภาพอากาศไม่ว่าจะเป็น ความชื้น PM 2.5, CO2 อุณหภูมิภายในอาคาร และใช้เทคโนโลยี nanoe X มาทำให้อากาศสะอาดโดยยับยั้งเชื้อโรค และมลพิษ อาทิ ฝุ่น PM 2.5, สารก่อภูมิแพ้ ฯลฯ ไปจนถึงยังควบคุมความสมดุลความชื้น จึงเหมาะที่จะติดตั้งในห้องที่ผู้คนใช้เวลาอยู่นานกว่า 8 ชั่วโมง อย่างห้องนอน
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ร่วมกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซื่อตรง พร็อพเพอร์ตี้ นำระบบนี้ไปติดตั้งในบ้านในโครงการ ซื่อตรง พรีเมี่ยม ไอแอม พระราม 2-แสมดำ เป็นโครงการนำร่องโครงการแรกในไทย เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับระบบของบริษัทในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย พร้อมกับเป็นจุดขายของโครงการด้วย หลังจากนี้จะมีติดตั้งระบบในโครงการใหม่ของซื่อตรงฯ รวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์อื่น ๆ ซึ่งคาดว่าในปี 2566 จะมีการติดตั้งประมาณ 25 โครงการ ก่อนจะขยายตลาดไปยังกลุ่มเจ้าของบ้านด้วย
ขณะที่ “วรุตม์ เลขะจิระกุล” ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนธุรกิจ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า สินค้าด้านคุณภาพอากาศในปีนี้ นอกจากเครื่องฟอกอากาศแล้ว จะยังมีแอร์ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการเติมอากาศจากภายนอกเข้าสู่ภายในห้อง (ventilation) ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และกลิ่นต่าง ๆ เช่น กลิ่นสัตว์เลี้ยงเพื่อรับเทรนด์ความสนใจคุณภาพอากาศในอาคาร-ที่อยู่อาศัย โดยอยู่ในแอร์รุ่นท็อปอัลตร้า แม็ก อินเวอร์เตอร์ (FTXU18XV2S)
ด้านเครื่องฟอกอากาศจะเสริมไลน์อัพเครื่องขนาดใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น พร้อมย้ำจุดแข็งด้านอายุแผนกรองที่สามารถใช้ได้นาน 3-5 ปี โดยปีนี้เตรียมความพร้อมด้านสต๊อกสินค้าทั้งเครื่องฟอกและแอร์ รองรับดีมานด์อย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้นปีแล้ว
จากนี้ต้องรอดูว่าจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่วิกฤตมากขึ้นในหลาย ๆ จังหวัด หลาย ๆ พื้นที่แต่ละแบรนด์จะมีกลยุทธ์และสินค้าใหม่มาชิงความสนใจและเม็ดเงินจากผู้บริโภคกันอย่างไรบ้าง