“ทอย อาร์ อัส” อาการหนัก จ่อขายสาขาเอเชียล้างหนี้

คอลัมน์ Market Move

ชะตากรรมของเชนร้านของเล่นรายใหญ่สุดของโลกอย่าง “ทอย อาร์ อัส” (Toy R us) ที่มีสาขากว่า 1,500 แห่ง ใน 33 ประเทศรวมถึงไทยยังคงถูกจับตาจากทั่วโลก หลังจากบริษัทแม่ที่สหรัฐยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์และฟื้นฟูกิจการไปเมื่อปลายปีที่แล้ว เนื่องจากมีหนี้สะสมสูงถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเผชิญการแข่งขันดุเดือดกับอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง อเมซอน

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในบางภูมิภาค อาทิ “ทอย อาร์ อัส เอเชีย” รับหน้าที่บริหารธุรกิจในตลาดจีน ญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมกว่า 400 สาขานั้น มีสถานะเป็นบริษัทร่วมทุนและกิจการยังไปได้ดี จึงรอดพ้นจากการล้มละลายและยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ โดยไม่ได้รับผลกระทบตามบริษัทแม่แต่ล่าสุดเชนร้านของเล่นยักษ์รายนี้พยายามขายธุรกิจในเอเชียให้กับกลุ่มทุนใหญ่ของฮ่องกง ด้วยมูลค่าที่อาจจะสูงถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า “ทอย อาร์ อัส” อยู่ระหว่างเจรจากับ “ฟัง กรุ๊ป” (Fung Group) บริษัทโฮลดิ้งสัญชาติฮ่องกงซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์และผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของทอย อาร์ อัส เอเชีย ด้วยสัดส่วนหุ้น 15% เพื่อให้รับซื้อหุ้นอีก 85% ที่บริษัทแม่ถืออยู่ ด้วยมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้กลุ่มทุนนี้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจทอย อาร์ อัส ในเอเชียแบบเต็มตัว

สอดคล้องกับแหล่งข่าวอีกรายที่ระบุว่า “ฟัง กรุ๊ป” กำลังหาพาร์ตเนอร์มาร่วมซื้อกิจการครั้งนี้ ซึ่งหากสามารถซื้อกิจการได้สำเร็จ จะเริ่มกระบวนการเข้าตลาดหุ้นและเปิดไอพีโอภายใน1-2 ปี

ทั้งนี้ นอกจากถือหุ้นในบริษัทค้าปลีกของเล่นมานานตั้งแต่ปี 2529 แล้ว บริษัทโฮลดิ้งรายนี้ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายของ “ลีแอนด์ฟัง” (Li & Fung) บริษัทซัพพลายเออร์สัญชาติสหรัฐหลายรายรวมถึง “วอลมาร์ท” (Walmart)

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่า ดีลนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้นและอาจมีผู้ซื้อรายใหม่เข้ามาอีกได้ ส่วนทั้งทอย อาร์ อัสซึ่งเป็นบริษัทแม่และฟังกรุ๊ปได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

ในขณะที่ธุรกิจในเอเชียกำลังไปได้สวยและอาจได้เม็ดเงินจากการขายกิจการนั้น สถานการณ์ในฝั่งตะวันตกกลับตรงกันข้าม เมื่อ “ทอย อาร์ อัส ยูเค” ธุรกิจบนเกาะอังกฤษซึ่งมีสาขา 105 แห่ง และพนักงานอีก 3,000 รายประกาศว่า ได้เข้าสู่กระบวนการพิทักษ์ทรัพย์แล้ว เนื่องจากไม่สามารถหาผู้มาซื้อธุรกิจต่อได้ตามกำหนด

“มัวฟิล์ด แอทไวซอรี” บริษัทการเงินที่เชี่ยวชาญด้านคดีล้มละลายซึ่งได้สิทธิเข้าจัดการทรัพย์สินของทอย อาร์ อัส ยูเค ระบุว่า สาขาทุกแห่งในอังกฤษจะยังเปิดทำการปกติพร้อมจัดโปรโมชั่นลดราคาเพื่อระบายสต๊อกสินค้าที่เหลืออยู่ พร้อมย้ำว่า จะพยายามหาผู้ซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ ให้ได้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ ยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับการปิดสาขาหรือลดจำนวนพนักงานออกมานับเป็นข่าวร้ายที่ 2 ของยักษ์ค้าปลีกของเล่นหลังจากการประกาศปิดสาขาอีก 200 แห่งในสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดไปเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากไม่สามารถหากลยุทธ์มาต้านทานการรุกคืบของอีคอมเมิร์ซได้

สอดคล้องกับความเห็นของนักวิเคราะห์ที่มองว่า สินค้าของทอย อาร์ อัส อาทิ ของเล่นและเสื้อผ้าเด็ก-ทารกนั้น เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเลือกซื้อหรือทดลองที่ร้าน จึงสูญเสียฐานลูกค้าให้กับอีคอมเมิร์ซซึ่งเสนอจุดขายทั้งส่วนลดและการบริการดีลิเวอรี่

ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความดุเดือดของการแข่งขันระหว่างค้าปลีกออฟไลน์และออนไลน์ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง และแผ่ขยายสมรภูมิไปทั่วโลก ขณะเดียวกันต้องจับตาดูกันว่า ธุรกิจของทอย อาร์ อัส ในแต่ละภูมิภาคจะเป็นอย่างไรต่อไป และยักษ์ค้าปลีกจะสามารถแก้วิกฤตนี้ได้หรือไม่