“นิโตริ” เฟอร์นิเจอร์ดังญี่ปุ่นบุก ปักหมุด “เซ็นทรัลเวิลด์”-200 สาขาทั่วไทย

นิโตริ

ตลาดเฟอร์นิเจอร์-ของตกแต่งบ้านคึกคัก “นิโตริ” แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นยึด “เซ็นทรัลเวิลด์” ปักธงสาขาแรก ทยอยรับสมัครพนักงานเพียบ คาดตัดริบบิ้นเร็วกว่ากำหนด ภายในปีนี้เปิดแน่ จากเดิมตั้งเป้าจะเปิดปี 2024 ก่อนปูพรมในกรุงเทพฯ 10 สาขา กางแผนระยะยาว 200 แห่งทั่วไทย

อีกไม่นานเกินรอคาดว่าบรรดาคนที่ชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจากประเทศญี่ปุ่นจะมีทางเลือกมากขึ้น หลังจากมีกระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาว่า NITORI ร้านเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่จากญี่ปุ่นเตรียมจะขยายเข้ามาเปิดธุรกิจในไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการรุกตลาดในเอเชียอย่างเต็มตัว โดยเบื้องต้นตั้งเป้าจะเปิดสาขาแรกในไทยภายในต้นปี 2567 รวมทั้งตั้งเป้าจะเปิดสาขาในกรุงเทพฯราว 10 แห่ง แต่ล่าสุดยักษ์เฟอร์นิเจอร์รายใหญ่รายนี้อาจจะเปิดสาขาได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ยึดทำเลทอง “เซ็นทรัลเวิลด์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัท นิโตริ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น มีความเคลื่อนไหวในการประกาศรับสมัครพนักงานประจำร้าน ผ่านบริษัทจัดหางานหลายบริษัท รวมทั้งเริ่มมีการประชาสัมพันธ์และเปิดรับสมัครพนักงาน ผ่านเฟซบุ๊ก Nitori Thailand และ www.nitori.co.th ข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า “Opening Soon เร็ว ๆ นี้ 2023 ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย! Coming soon 2023 in Bangkok Thailand!” อาทิ พนักงานขาย พนักงานขายหน้าร้าน ค้าส่ง ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เพื่อเปิดสาขาแรกในประเทศไทย โดยระบุว่าสาขาแรกในไทยจะเปิดที่เซ็นทรัลเวิลด์

โดยกำหนดคุณสมบัติ ทักษะด้านภาษาที่จำเป็น สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี รวมทั้งยินดีรับนักศึกษาจบใหม่ บุคลิกที่เป็นมิตร ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ มีความมั่นใจ และมีส่วนร่วมในทีม เป็นส่วนหนึ่งของทีม และสามารถมีส่วนร่วมกับพนักงานในร้านค้า/ตารางการทำงานเป็นระบบการทำงานเป็นกะ

จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท นิโตริ รีเทล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 ทุนจดทะเบียน 210 ล้านบาท วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการค้าปลีก ค้าส่ง เป็นนายหน้าสำหรับการค้าเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ตกแต่งภายใน ฯลฯ มีกรรมการประกอบด้วย นายโซอิจิ โอดะ และนายยาซูยูกิ โอโนะ

ก่อนหน้านี้ นิโตริ ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ด้วยการตั้งบริษัท สยาม นิโตริ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 14 เม.ย. 2532 ทุนจดทะเบียน 912.4 ล้านบาท เป็นโรงงานผลิตพรม ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู สมุทรปราการ และบริษัท นิโตริ เทรดดิ้ง(ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2554 ทุนจดทะเบียน 105 ล้านบาท วัตถุประสงค์ ตรวจสอบคุณภาพเฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่งภายใน และดูแลการส่งออก

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการค้าปลีกวิเคราะห์ในเรื่องนี้ว่า การเข้ามาของนิโตริ แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นจะทำให้การแข่งขันของตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในบ้านแบรนด์ต่างชาติมีความคึกคักมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาเป็นตลาดที่มีผู้เล่นไม่มากนัก หลัก ๆ จะมีเพียง อิเกีย ที่มี 3 สาขา (บางนา บางใหญ่ และภูเก็ต) ซึ่งปิดยอดปีงบประมาณ 2564 ณ วันที่ 31 ส.ค. ด้วยรายได้รวม 6.41 พันล้านบาท หรือโตขึ้น 17% สะท้อนว่าตลาดนี้ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก

กางแผนขยายสาขาบุกเอเชีย

ล่าสุด นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า นิโตริ โฮลดิ้ง ยักษ์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติญี่ปุ่นมีแผนจะเดินหน้าขยายสาขาใหม่อีก 206 สาขา ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขนี้มากกว่าปีที่แล้วเท่าตัว โดยนิโตริมุ่งขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจีน ไต้หวัน และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมวางเป้าภายใน มี.ค. 2568 จะต้องมีสาขาในต่างประเทศประมาณ 300 สาขา หรือมากกว่าเท่าตัวจากปัจจุบัน และในระยะยาวบริษัทคาดว่าจำนวนสาขาในต่างประเทศจะแซงหน้าสาขาในญี่ปุ่น เนื่องจากมองว่าโอกาสขยายสาขาในญี่ปุ่นมีไม่มากแล้ว

นายอะคิโอะ นิโตริ ผู้ก่อตั้งและประธาน บริษัท นิโตริ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของเอเชีย บริษัทจะโฟกัสตลาดต่างประเทศมากกว่าญี่ปุ่น ทั้งการขยายสาขาและการจัดสรรกำลังคน

ขณะเดียวกัน นิโตริตัดสินใจถอนตัวออกจากตลาดสหรัฐ หลังกำไรลดลง เพราะสหรัฐตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งเป็นฐานผลิตสำคัญของบริษัท

เป้า 200 สาขาในไทย

ข้อมูลจากเว็บไซต์ นิโตริ ระบุว่า เปิดสาขาแรกในปี 2510 โดย นายอะคิโอะ นิโตริ ก่อนจะเริ่มสร้างแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของตัวเองในปี 2522 เน้นโพซิชั่นเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดีในราคาจับต้องได้ ด้วยการนำเทคโนโลยีและยุทธศาสตร์ต่าง ๆ มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับโพซิชั่นจากผู้ค้าเป็นผู้ผลิตด้วย พร้อมอาศัยฐานผลิตในต่างประเทศซึ่งมีค่าแรงถูกกว่า อัพเกรดเทคโนโลยีด้านจัดการคลังสินค้า ฯลฯ กลยุทธ์สำคัญและเป็นเอกลักษณ์ของนิโตริ อยู่ที่การมีธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เน้นการบริหารจัดการตั้งแต่การวางแผนสินค้า ผลิต กระจายสินค้า และขายด้วยตัวเอง ช่วยให้สามารถขายสินค้าคุณภาพดีได้ในราคาจับต้องได้

ทั้งนี้ 90% ของสินค้าในร้านเป็นไพรเวตแบรนด์ และเกือบทั้งหมดผลิตจากโรงงานในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากร้าน Nitori แล้ว นิโตริ โฮลดิ้งยังมีร้านค้าอีก 3 แบรนด์คือ Deco Home ขายสินค้าตกแต่งบ้าน เน้นด้านของใช้ประจำวัน, Shimachu ขายผลิตภัณฑ์ปรับปรุงบ้านและเฟอร์นิเจอร์, N Plus ขายเครื่องแต่งกายสตรี

โดยนิโตริเปิดสาขาต่างประเทศแห่งแรกที่ไต้หวันในปี 2550 และเปิดสาขาในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2564 ที่มาเลเซียและสิงคโปร์ ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะเปิดสาขาแรกในเดือน มี.ค. 2567

ตามข้อมูลของเว็บไซต์ทางการของบริษัท ณ เดือน ก.พ. 2565 นิโตริ มีสาขารวมกว่า 801 สาขา เป็นสาขาในญี่ปุ่น 708 สาขา ไต้หวัน 44 สาขา จีน 46 สาขา สหรัฐอเมริกา 2 สาขา มาเลเซีย 1 สาขา มีฐานสมาชิกรวม 45 ล้านคน

โดยบริษัทมีแผนระยะยาวที่จะมีสาขาครบ 3,000 สาขาทั่วโลก และยอดขาย 3 ล้านล้านเยน ในปี 2575

ทั้งนี้ นิโตริวางเป้าขยายสาขาในภูมิภาคอาเซียน อาทิ มาเลเซีย 20 สาขา สิงคโปร์ 10 สาขา และไทย 200 สาขา