
โรคจากยุงระบาดหนักทั้งไข้เลือดออก-ซิก้า ป่วยเพียบ 7 เดือน ทะลุ 4 หมื่นราย สธ.กำชับโรงพยาบาลเลี่ยงจ่ายยากลุ่มเอ็นเสด
วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 โรคที่มียุงเป็นพาหะ อาทิ ไข้เลือดออก และไวรัสซิกา กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของวงการสาธารณสุขไทย หลังมีผู้ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มเฉลี่ย 5 พันราย/สัปดาห์ และล่าสุดโรคไข้เลือดออกไครเมียนคองโก ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตราย มีการระบาดในแถบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชียกลาง และเอเชียใต้
7 เดือนป่วยทะลุ 4 หมื่น เสียชีวิต 41 ราย
โดยตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ 1 ม.ค.-19 ก.ค. 2566 มีผู้ป่วยไข้เลือดออกรวม 41,527 ราย สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2565 ถึง 2.8 เท่า และมีผู้เสียชีวิต 41 ราย ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 5,057 ราย
โดยมีการระบาดหนัก ซึ่งพบผู้ป่วยต่อเนื่องนานเกิน 8 สัปดาห์ และมีจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมามากกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง ใน 30 อำเภอของ 18 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ตาก เพชรบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด อุบลราชธานี กระบี่ ภูเก็ต สงขลา สตูล นราธิวาส รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย
อาการเปลี่ยน วินิจฉัยยาก เสี่ยงรักษาไม่ทันการณ์
ไม่เพียงการระบาดที่รวดเร็วขึ้น แต่ สธ. ยังพบว่าปีนี้ไข้เลือดออกยังมีอาการเปลี่ยนแปลงไป เช่น เริ่มพบผู้ป่วยกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปมากกว่าเด็กเล็ก และอาการป่วยยังคล้ายคลึงกับโรคอื่นทำให้วินิจฉัยยาก
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่า ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ รูปแบบอาการไม่เหมือนกับที่เคยพบมา และมีอาการคล้ายกับโรคอื่น ทำให้การวินิจฉัยโรคในระยะแรกค่อนข้างยากหากไม่ติดตามสังเกตอาการใกล้ชิด และจะทำให้การรักษาล่าช้าส่งผลให้อาจเกิดความรุนแรงและเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ อาการของไข้เลือดออกส่วนใหญ่จะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน และสูงลอยประมาณ 2-7 วัน ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หน้าแดง อาจมีจุดแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเบื่ออาหาร บางรายมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ส่วนใหญ่ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ต่อมาไข้จะลดลง ในระยะนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดภาวะช็อก และเสียชีวิตได้
ไวรัสซิการะบาดหนัก หวั่นกระทบสตรีมีครรภ์
นอกจากไข้เลือดออกแล้ว ยังมีการระบาดอย่างหนักของ ไวรัสซิกา ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะเช่นกัน และหากหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อนี้จะมีความเสี่ยงทำให้เกิดการแท้ง หรือทารกเกิดภาวะศีรษะเล็กได้ โดยตั้งแต่ 1 มกราคม-19 กรกฎาคม 2566 พบผู้ป่วยแล้ว 110 ราย ใน 20 จังหวัด แนวโน้มผู้ป่วยเริ่มสูงขึ้นช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และสูงสุดในเดือนมิถุนายน จำนวน 30 ราย
ส่วนเดือนกรกฎาคมนี้ พบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อแล้ว 6 ราย ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี 2 ราย พิษณุโลก ระยอง สมุทรสงคราม และตราด จังหวัดละ 1 ราย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา มีการติดตามผลกระทบของไวรัสซิกาตั้งแต่ปี 2559-2565 จำนวน 241 ราย พบมีการแท้ง 4 ราย เด็กที่คลอดมีภาวะศีรษะเล็กและมีผลบวกต่อไวรัสซิกา 3 ราย และได้ติดตามพัฒนาการเด็กจนครบ 2 ปี จำนวน 77 ราย พบมีพัฒนาการผิดปกติ 4 ราย
ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก โรคติดต่ออันตราย
ขณะเดียวกันโรคไข้เลือดออกไครเมียนคองโก ซึ่ง WHO กำหนดให้เป็นโรคติดต่ออันตราย ยังระบาดเพิ่มขึ้นในหลายประเทศของยุโรป และตะวันออกกลาง
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบายว่า ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก เกิดจากเชื้อไนโรไวรัส ที่อาศัยบนตัวสัตว์เท้ากลีบ เช่น วัว ควาย แพะ แกะ มีรายงานครั้งแรกในปี พ.ศ. 2487 บริเวณแหลมไครเมียน ต่อมาเกิดการระบาดในประเทศคองโก อัตราการป่วยตายจะอยู่ที่ ร้อยละ 30-40
สำหรับการแพร่ระบาดสามารถติดโรคนี้ได้จาก
1 .ถูกเห็บที่มีเชื้อไนโรไวรัสกัด
2. สัมผัสเลือดหรือเนื้อเยื่อของสัตว์ที่มีเชื้อ
3. สัมผัสเลือดหรือเนื้อเยื่อของผู้ป่วย
ส่วนอาการป่วยจะเริ่มด้วยอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดกล้ามเนื้อ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ อาเจียน ปวดท้อง อุจจาระร่วง มีภาวะเลือดคั่ง ตาอักเสบบวมแดง อาจมีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง เกิดขึ้นบริเวณหน้าอกและท้องแล้วกระจายไปทั่วร่างกาย อาจมีเลือดออกที่บริเวณเหงือก จมูก ปอด มดลูก ทางเดินปัสสาวะ และทางเดินอาหาร โดยหากพบผู้ติดเชื้อให้แยกผู้ป่วยให้อยู่ในห้องเดี่ยว และควรเป็นห้องความดันลบ
ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรคย้ำว่า ปัจจุบันยังไม่พบรายงานผู้ป่วยไข้เลือดออกไครเมียนคองโกในประเทศไทย สำหรับผู้ที่กลับจากต่างประเทศและสงสัยโรคนี้ ให้พบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทางและปัจจัยเสี่ยง
กำชับ รพ.เลี่ยงสั่งจ่ายยากลุ่มเอ็นเสด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้กำชับโรงพยาบาลและบุคลากรแล้วให้หลีกเลี่ยงการจ่ายยากลุ่มเอ็นเสด อาทิ ไดโครฟีแนก แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ในกรณีผู้ป่วยมีไข้และยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน และหากอาการยังไม่ดีขึ้น ขอให้กลับไปพบแพทย์อีกครั้ง
เนื่องจากพบว่าในกลุ่มผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ประมาณ 10% มีการกินยาแอสไพริน หรือยาลดไข้แก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด เช่น ไอบูโพรเฟน ทำให้เกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ เพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกง่ายจนช็อกและเสียชีวิต
ดังนั้น หากมีไข้ คลื่นไส้อาเจียน ปวดจุกแน่นในท้อง ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของโรคไข้เลือดออก ที่วินิจฉัยแยกจากโรคอื่นที่ได้ยาก เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ หรือโรคฉี่หนู ขอให้ระมัดระวังไม่ซื้อยาเหล่านี้มารับประทาน
แนะใช้กลไกคณะกรรมการวิชาการออกประกาศพื้นที่ระบาดโรคไข้เลือดออก
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า สำหรับการประกาศพื้นที่ระบาดโรคไข้เลือดออกหรือโรคอื่นใด หากพื้นที่เห็นว่าการระบาดมากจนทรัพยากรในจังหวัดหรือพื้นที่นั้นไม่เพียงพอรับสถานการณ์ เช่น ขาดงบประมาณ ขาดยา ขาดบุคลากร หรือจำเป็นต้องใช้งบประมาณพิเศษ หรือต้องมีการบูรณาการพิเศษ ก็ให้เสนอเรื่องถึงอธิบดีกรมควบคุมโรคพิจารณา
โดยใช้กลไกคณะกรรมการวิชาการออกประกาศ ซึ่งสามารถประกาศระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ หรือทั้งจังหวัดก็ได้ เพื่อให้มีอำนาจในการดำเนินการควบคุมโรคมากขึ้น รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้งบประมาณ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ เนื่องจากโรคระบาดในคนถือเป็นสาธารณภัยรูปแบบหนึ่ง