“เอพริล เบเกอรี่” กางแผนเดินหน้าพัฒนาสินค้า-แตกไลน์แบรนด์ใหม่ “หยวนเป่า” เขย่าตลาดเบเกอรี่ 6 หมื่นล้าน พร้อมปักหมุดเปิดแฟลกชิปสโตร์ ยึดทำเลทองศูนย์การค้า Cover Hill-เซ็นทรัล บางรัก เดินหน้าสร้างการรับรู้ผ่านการดึงอินฟลูฯไลฟ์สดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อหวังเพิ่มยอดขายทั้งไทย-เทศ สิ้นปีตั้งเป้ายอดขายโต 20%
“เอพริล เบเกอรี่” (April’s Bakery) เป็นเบเกอรี่แบรนด์ไทยที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 14 ปี จากจุดเริ่มต้นด้วยการเปิดเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ด้วยเมนูเริ่มต้นจากขนมเค้ก พาย มัฟฟิน พิซซ่าโรล ฯลฯ แม้เส้นทางของการดำเนินธุรกิจจะไม่ราบรื่นนัก แต่จากการลองผิดลองถูก การพัฒนา และต่อยอดธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ถึงวันนี้ เอพริล เบเกอรี่ นอกจากจะมี 40 สาขาในห้างชั้นนำแล้ว ยังได้ขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาโปรดักต์เข้าไปวางขายร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สินค้าที่จัดจำหน่าย โดยมีสินค้าที่สร้างชื่อ อาทิ เปี๊ยะโมจิลาวาไข่เค็ม เปี๊ยะโมจิลาวาโอวัลติน เปี๊ยะหมูแดง และเปี๊ยะจิ๋วไส้ถั่ว ฯลฯ และมียอดสั่งซื้อมากกว่า 100,000 กล่องต่อวัน รวมทั้งการเปิดขายแฟรนไชส์และส่งสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศ
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เสิร์ฟสินค้าใหม่-เพิ่มมาร์เก็ตแชร์
นางสาวกนกกัญจน์ มธุรพร ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงหาฟู้ด อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จํากัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบรนด์ “เอพริล เบเกอรี่” (April’s Bakery) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดเบเกอรี่ของไทยที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 60,000 กว่าล้านบาท ยังเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับเอพริล เบเกอรี่ ปัจจุบันแม้จะมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่เพียงแค่ 1% แต่จากตลาดเบเกอรี่ที่ยังมีศักยภาพจะเติบโตได้อีกมาก บริษัทจึงวางเป้าที่จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 2-3% และในแง่ของรายได้ตั้งเป้าโต 20% หรือราว 800 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 660 ล้านบาท
“ถึงแม้เราจะเป็นส่วนเล็ก ๆ ในตลาดเบเกอรี่ แต่เราก็ยังมีความมุ่งหวังว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นในปีนี้สัก 2-3% เนื่องจากในตลาดเบเกอรี่มีผู้เล่นหลากหลายแบรนด์ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ซึ่งถ้าเราไปตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 30-40% ก็อาจจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าในอนาคตหากมีการพลิกผันขึ้นมา เช่น ขายดีมาก ๆ ก็คาดว่าเราจะสามารถกินส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 10-20% ได้”
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทจะยังคงเดินหน้าพัฒนาโปรดักต์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทั้งการออกสินค้ารสชาติใหม่ ๆ รวมถึงการปรับตัวแพ็กเกจจิ้งให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยมีแผนเตรียมที่จะออกสินค้าใหม่เพิ่มอีก 20 รายการ โดย 1 ในนั้นจะเป็น พายแช่แข็ง ที่เตรียมจะวางจำหน่ายในค้าส่งรายใหญ่ ทั้งโก โฮลเซลล์ และแม็คโคร เร็ว ๆ นี้ จากปัจจุบันที่มีสูตรไส้ต่าง ๆ มากกว่า 26 ไส้
นอกจากการออกสินค้าใหม่แล้ว ยังมีแผนที่จะแตกไลน์แบรนด์ใหม่ภายใต้แบรนด์ “หยวนเป่า” ที่มีความหมายถึงก้อนเงินก้อนทอง โดยตัวสินค้าจะมีลักษณะเป็นก้อนสีทอง ที่สอดไส้ด้วยลาวาไข่เค็มผสมกับชาไทย โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนนี้ ที่บิ๊กซี ราชดำริ และสาขาอื่น ๆ อาจจะขยายไปในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ หรือเซ็นทรัล เป็นต้น
เปิด 2 สาขาแฟลกชิปสโตร์ใหม่
นางสาวกนกกัญจน์กล่าวต่อไปว่า ปีนี้จะเป็นปีแรกที่เอพริล เบเกอรี่ จะมีการเปิดสาขาใหม่ที่เป็นแฟลกชิปสโตร์ ซึ่งจะมีความแตกต่างจากสาขาอื่น ๆ ตรงที่จะมีการเพิ่มพื้นที่หน้าร้านให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เปรียบเสมือนเป็นครัวกลางที่อยู่ภายในร้าน เพื่อรองรับการอบขนม และห่อสินค้า เป็นต้น ขณะที่สาขาอื่น ๆ จะมีเพียงแค่หน้าร้าน และตู้วางขายขนมเท่านั้น เบื้องต้นเตรียมจะเปิดนำร่องก่อน 2 สาขา และหลังจากนั้นหากมีผลตอบรับที่ดี ก็จะทยอยขยายสาขาในรูปแบบนี้มากขึ้น โดยสาขาแรกจะเปิดที่โครงการศูนย์การค้า Cover Hill ในเดือนเมษายน และสาขาที่ 2 จะเปิดที่ เซ็นทรัล บางรัก ในเดือนพฤษภาคม โดยจะใช้งบฯลงทุนต่อสาขาอยู่ที่ 2-3 ล้านบาท จากปัจจุบัน เอพริล เบเกอรี่ มีจำนวนสาขาทั้งหมด 40 สาขา แบ่งเป็นที่บริษัทเป็นเจ้าของ 12 สาขา และแฟรนไชส์ 28 สาขา
“การที่เลือกเปิดสาขาในรูปแบบแฟลกชิปสโตร์ในลักษณะดังกล่าว ส่วนหนึ่งเนื่องจากผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มักจะชอบดูขั้นตอนการทำ หรือชอบถ่ายรูป ถ่ายคอนเทนต์ เพื่อลงสื่อออนไลน์ จึงเล็งเห็นโอกาสและนำมาปรับใช้กับตัวหน้าร้านของเรา เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น”
นอกจากที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ April’s Bakery แล้ว บริษัทยังมีการรับ OEM ให้กับแบรนด์เบเกอรี่อื่น ๆ ด้วย โดยปัจจุบันจะมีโรงงานอยู่ทั้งหมด 5 แห่ง แบ่งเป็นโรงงานทำขนมเค้ก โรงงานทำขนมเปี๊ยะ โรงงานทำไก่หย็อง เป็นต้น
บุก ตปท.-ปูทางเข้าตลาด
นางสาวกนกกัญจน์ยังกล่าวถึงการทำตลาดในต่างประเทศว่า หลังจากที่บริษัทได้มีการส่งออกสินค้าไปทำตลาดใน 3 ประเทศ อาทิ กัมพูชา เวียดนาม และ สปป.ลาว ผ่านตัวแทนจำหน่ายและรูปแบบมาสเตอร์แฟรนไชส์
ล่าสุดปีนี้มีแผนจะบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น ด้วยการทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมตสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ TikTok Shopee และ Lazada เป็นต้น จากที่ก่อนหน้านี้จะมีช่องทางการขายเพียงช่องทางเดียวคือ Line@
เพื่อหวังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มยอดขาย และสร้างการรับรู้ในวงกว้างทั้งในไทยและต่างประเทศ
รวมถึงในอนาคตก็มีแผนจะบุกตลาดจีน สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เช่นเดียวกัน โดยเบื้องต้นจะมีการเข้าไปศึกษาตลาดผ่านการไปออกงานแสดงสินค้าก่อน เพื่อให้รู้แนวทางและรูปแบบธุรกิจที่ชัดเจน เพราะเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เคยมีการเข้าไปเปิดกิจการที่สิงคโปร์อยู่ 2 ปี แต่ก็ต้องพับแผนไป
ทั้งนี้ จากแผนการดำเนินงานดังกล่าวคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ได้อย่างแข็งแกร่ง และโตตามเป้าที่วางไว้
รวมถึงจะสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ให้ขยายออกไปในวงกว้างมากขึ้นทั้งในไทย และต่างประเทศเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการปูทางในการเข้าจดทะเบียนและระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปี 2570
