ส่อง 5 ธุรกิจเงินล้าน ครีเอเตอร์ไทยบน TikTok แบรนด์ใครดังและปังสุด ?

ส่องธุรกิจครีเอเตอร์ Tiktok

เพราะ TikTok ไม่ได้มีแค่ความบันเทิง แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับครีเอเตอร์ที่มีไอเดียและสามารถปั้นคอนเทนต์ให้กลายเป็นธุรกิจเงินล้าน มาดูกันว่า 5 ธุรกิจยอดฮิต ที่เปลี่ยนครีเอเตอร์คนไทยให้กลายเป็นเศรษฐี มีอะไรบ้าง และพวกเขาทำได้อย่างไร

วันที่ 3 กันยายน 2567 ข้อมูลจาก datareportal รายงานว่า การเติบโตของโซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่าง TikTok ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย จากสถิติผู้ใช้งานในปี 2567 มีจำนวนอยู่ที่ 44.38 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.2% แซงหน้าแพลตฟอร์, รุ่นพี่อย่าง YouTube ที่มีจำนวนผู้ใช้งานอยู่ที่ 44.20 ล้านคน และเติบโตเพียง 0.7% จากปี 2566

การเติบโตอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์มที่ครบครันอย่าง TikTok ส่งผลต่อการทำการตลาดของผู้ประกอบการในการเลือกใช้แพลตฟอร์มเพื่อเจาะตลาดฐานผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสการมองเห็นสินค้ามากยิ่งขึ้น เทคนิคการสร้างแบรนด์อย่าง Personal Branding จึงเป็นที่นิยมของผู้ประกอบการในการสร้างภาพจำที่ส่งผลต่อแบรนด์สินค้าของตนเอง และเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการรายย่อยที่เริ่มต้นธุรกิจในงบฯที่จำกัด

เทคนิคการสร้างตัวตนของแบรนด์หรือ Personal Branding เป็นการเลือกใช้ตัวบุคคลมาเป็นตัวแทนของแบรนด์นั้นด้วยเอกลักษณ์ประจำตัวที่ถ่ายทอดผ่านคอนเทนต์วิดีโอ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเจ้าของแบรนด์มาถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ที่ใช้สินค้าแบรนด์ของตนเองอย่างเป็นประจำ เกิดเป็นภาพจำที่โดดเด่นของแบรนด์ โดยไม่จำเป็นต้องจ้างพรีเซ็นเตอร์ หรือได้รับการโปรโมตเพิ่มเติมจากอินฟลูเอนเซอร์รายอื่น

“ประชาชาติธุรกิจ” พาไปส่อง 5 ธุรกิจของเหล่าครีเอตเตอร์คนไทย ที่ประสบความสำเร็จทั้งการสร้าง Personal Branding และยอดขายหลักล้าน

Love Potion-แบรนด์ซ้อการ์ด

ส่องธุรกิจครีเอเตอร์ Tiktok
(เครดิตภาพเฟซบุ๊ก : LOVEPOTION)

แบรนด์เครื่องสำอางของ “การ์ด-ณัฐชยานันท์ สุขวัฒนาพร” ที่ครองกระแสอยู่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสุดฮิตอย่าง TikTok ด้วยการนำเสนอไลฟ์สไตล์ที่สนุกสนานของการ์ดกับกลุ่มเพื่อน หรือผู้ติดตามที่ถูกดึงเข้ามามีส่วนร่วมในคลิปวิดีโอ เกิดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของช่องกับผู้ติดตามแบบไม่รู้ตัว 

Advertisment

คอนเทนต์ภายใต้แอ็กเคานต์ Cardncyn จึงได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี นำมาซึ่งการอุดหนุนสินค้าภายใต้แบรนด์เลิฟโพชั่นที่มากขึ้น ทำให้กำไรสุทธิจากปี 2563 อยู่ที่ 4,795.73 บาท ก้าวกระโดดมาเป็น 34,628,413.31 บาทในปี 2566 และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ จากคอนเทนต์ที่แปลกใหม่และน่าสนใจ รวมถึงการตลาดแบบไลฟ์สตรีมมิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามากระตุ้นยอดขายอีกด้วย

La glace Thailand

ส่องธุรกิจครีเอเตอร์ Tiktok
(เครดิตภาพ laglacecosme.com)

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินสินค้าที่ชื่อว่า “บลัชดำ” ต่อด้วย “ลากลาส” แบรนด์เครื่องสำอางไทยที่เน้นเจาะตลาดเจเนอเรชั่น MZ ด้วยเป้าหมายยกระดับคุณภาพเครื่องสำอางไทยแต่คงไว้ในราคาที่เอื้อมถึง โดยลากลาสก่อตั้งเมื่อปี 2560 และมีชื่อเสียงอยู่แล้วบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างอินสตาแกรม 

Advertisment

ก่อนที่เจ้าของแบรนด์อย่าง “ไอติม-เอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์” จะเริ่มเจาะตลาดแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่าง TikTok เพิ่มขึ้นด้วยคลิปวิดีโอรีวิวสินค้า โดยใช้ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่สามารถรีวิวและอัพเดตสินค้าใหม่ได้ไปในคราเดียวกัน ความน่าเชื่อถือของแบรนด์จึงสูงกว่าการใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์รายอื่น 

ขณะเดียวกันคลิปวิดีโอที่น่าสนใจและสร้างขึ้นอย่างสม่ำเสมอ กระตุ้นการมองเห็นสินค้าภายใต้แบรนด์ลากลาสสูงมากขึ้น ส่งผลให้ยอดกำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 108,139,842.03 บาท เป็นกำไรที่สูงที่สุดของแบรนด์

Nose Tea-ชานมจมูกเขียว

ส่องธุรกิจครีเอเตอร์ Tiktok
(เครดิตภาพเฟซบุ๊ก : Nose Tea Thailand)

แบรนด์ชานมสุดไวรัลนี้เกิดขึ้นจากความชื่นชอบของ “ไผ่-กชณิชา ฐิติชนาโชติ” และสามี ดีกรีผู้บริหารแบรนด์เสื้อผ้า LCH BY LEELACHY และ NAKIZ LIVELY NOSE ผลิตภัณฑ์ลอกสิวเสี้ยนที่ประสบความสำเร็จในการเจาะกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี โนสทีจึงกลายมาเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการตลาดบนโซเซียลมีเดียเป็นพิเศษท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจชานมที่ดุเดือด

ด้วยคลิปโปรโมตสินค้าที่บอกเล่าที่มาของวัตถุดิบ วิธีการดื่ม และปัญหาที่เกิดขึ้น แม้ปัญหาที่นำมาเผยแพร่นั้นจะส่งผลลบต่อแบรนด์ ในขณะเดียวกันก็สร้างความรู้สึกที่ดีให้กับผู้ติดตามได้กับวิธีการแก้ปัญหาที่ตามมา ส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์สูงขึ้น ซึ่งการตลาดนี้สร้างผลลัพธ์ให้โนสทีที่เคยขาดทุนกว่า 2,497,757.46 บาทในปี 2565 กลับมาได้กำไร 5,080,570.27 บาทในปี 2566 

V Clean & รัญจวน

ส่องธุรกิจครเอเตอร์ TIktok
(เครดิตภาพเฟซบุ๊ก : V-Clean วีคลีน น้ำยาอเนกประสงค์ )

“ไก่ กัญจน์รัตน์ ศักดิ์กรธนาศิริ” เจ้าของบริษัท กัญจน์รัตน์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เพ็ทส์ เฮลตี้ จำกัด แบรนด์อาหารและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เกิดจากความรักในการทำอาหารและความสะอาด ด้วยความเชื่อที่ว่าการใส่ใจในทุกรายละเอียดจะนำมาซึ่งความสุขและความสำเร็จในชีวิต การตลาดรูปแบบนำเสนอไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันลงบนแพลตฟอร์มโวซเชียลมีเดียจึงเกิดขึ้น  

น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์หรือ “V (Care U) Clean” สินค้าไวรัลชิ้นแรกจากคลิปวิดีโอทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุม ประสบความสำเร็จจนกลายมาเป็นสินค้าที่หาซื้อยากในช่วงเวลาหนึ่ง เสริมทัพด้วยคลิปวิดีโอการทำอาหารด้วยความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ขั้นตอนการทำ ไปจนถึงการทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ ส่งผลให้สินค้าอย่าง “น้ำปลาร้ารัญจวน” เป็นสินค้าถัดมาที่ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงยอดขายสินค้าทุกชิ้นภายใต้ทั้งสองแบรนด์เติบโตแบบก้าวกระโดดรวมกว่า 200 ล้านบาทในปี 2566  

Bondi Jelly

ส่องธุรกิจครีเอเตอร์ Tiktok
(เครดิตภาพเฟซบุ๊ก ; Bondi Jelly )

“บิว-วราภรณ์ ปิยะนันทสมดี” เริ่มเป็นที่รู้จักผ่านการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์บนแพลตฟอร์มยูทูบ และเริ่มหันมาตีตลาดแพลตฟอร์มดังอย่าง TikTok ด้วยคลิปไลฟ์สไตล์ที่สนุกสนานร่วมกับครอบครัวและทีมงาน โดยเส้นทางของการเป็นยูทูบเบอร์และครีเอเตอร์บนทั้งสองแพลตฟอร์มนั้นค่อย ๆ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยคอนเทนต์ที่โดนใจผู้ติดตาม 

ก่อนที่บิวจะท้าทายตัวเองด้วยการก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารแบรนด์ Bondi Jelly ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมรูปแบบเจลลี่ และตีตลาดอาหารเสริมนี้บนแพลตฟอร์ม TikTok อย่างต่อเนื่องผ่านคลิปวีดิโอและไลฟ์สตรีมมิ่ง ทำให้กำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 2,551,634.05 บาท

อ้างอิงข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และเว็บไซต์ Creden Data