เซเว่นเขย่าสมรภูมิโลจิสติกส์ 3พันสาขาชน”เคอรี่-ไปรษณีย์”

โลจิสติกส์-ดีลิเวอรี่โตร้อนแรง 2.8 หมื่นล้าน ยักษ์สะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” แตกแบรนด์ใหม่ “สปีด-ดี” ส่งสินค้าภายใน 1 วัน ปูพรม 3,000 สาขาทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล เลือกได้รับสินค้าที่บ้านหรือ 7-11 ดีเดย์ 29 ตุลาคมนี้ “ไปรษณีย์ไทย” อวดโฉมบริการใหม่ 1 ธ.ค.เก็บเงินปลายทาง เข้าระบบอีวอลเลต ชี้ยังไม่เกิดสงครามราคา “เคอรี่” ทุ่มพันล้าน จ้างงานเพิ่ม 6,000 คน จับมือแฟมิลี่มาร์ท, มินิบิ๊กซี, Spar, ท็อปส์ และออฟฟิศเมท “DHL” ไม่หวั่น ชี้ส่งผลดีกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ตลาดรวมของธุรกิจขนส่งบริการสินค้าและดีลิเวอรี่ 2.8 หมื่นล้านบาทมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการทั้งแบรนด์โลคอลและแบรนด์จากต่างประเทศเคลื่อนไหวคึกคัก ล่าสุด ยักษ์สะดวกซื้อ 7-11 ประกาศลงมาแข่งในสนามรบนี้เต็มตัว ด้วยจุดแข็งของจำนวนสาขากว่าหมื่นแห่งทั่วประเทศ และได้พาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ 1 วันถึง

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นได้เปิดบริการขนส่งพัสดุแล้วชื่อ SPEED-D (สปีด-ดี) โดย บมจ.ซีพี ออลล์ ร่วมกับบริษัท ไดนามิค ลอจิสติกส์ จำกัด พร้อมนำร่องให้บริการ 3,000 สาขาในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทั่วกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เริ่มวันที่ 29 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป

จุดขายของ “สปีด-ดี” ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนั้น จะการันตีส่งถึงปลายทางภายใน 1 วัน (ส่งก่อน 21.00 น.จะรับสินค้าปลายทางได้ในวันรุ่งขึ้น 18.00 น.) ซึ่งการรับ-ส่งพัสดุในร้าน 7-11 จะครอบคลุมตั้งแต่การซื้อกล่องหรือซองที่ร้าน 7-11 และลูกค้าสามารถเลือกรับพัสดุได้ทั้งที่บ้านหรือร้าน 7-11 โดยตรวจสอบสถานะพัสดุและติดตามด้วยระบบ tracking 24 ชั่วโมง

แตกธุรกิจส่งพัสดุ

“สปีด-ดี” เป็นบริการขนส่งพัสดุน้องใหม่ที่ให้บริการครบวงจรในร้าน 7-11 ตั้งแต่การเลือกซื้อกล่อง-ซอง การฝากส่ง และการเลือกรับพัสดุที่ปลายทาง ส่วนพันธมิตร บริษัท ไดนามิค ลอจิสติกส์ จำกัด มีประสบการณ์การขนส่งสินค้าหลายประเภทและกระจายอยู่ทั่วภูมิภาคกว่า 21 จุดบริการ ด้วยเครือข่ายผู้ให้บริการขนส่งมากกว่า 800 รายทั่วประเทศ ทั้งรูปแบบการกระจายสินค้าสู่ร้านค้าปลีกและรูปแบบรับ-ส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าแบบจุดต่อจุด ทั้งสินค้าแห้ง สินค้าแช่เย็น สินค้าแช่แข็ง สินค้าปิโตรเคมี สินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งเนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป ผัก ผลไม้ นม เบเกอรี่ และอาหารสัตว์

เซเว่นฯ “ดีลิเวอรี่” 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เชนร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เริ่มทดลองบริการดีลิเวอรี่ “อิ่มท้องกับ 7-อีเลฟเว่น” ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยลูกค้าสามารถสั่งอาหารพร้อมทาน ของหวาน-ผลไม้ และเครื่องดื่มออลคาเฟ่ ผ่านการแชตกับแอ็กเคานต์ไลน์ของร้าน ซึ่งมีกลยุทธ์จูงใจคือ ส่งฟรีเมื่อยอดซื้อครบ 100 บาท และพร้อมส่งภายใน 30 นาที โดยใช้พนักงานในสาขาทำหน้าที่ส่งสินค้าด้วยรถจักรยานยนต์ ส่วนการชำระค่าใช้จ่ายก็มีตัวเลือกทั้งเงินสดและผ่านทรูวอลเลต

โดยเปิดให้บริการช่วง 6 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม นำร่องในสาขาซอยบรมราชชนนี 4 สาขาหมู่บ้านสีวลี-ราชพฤกษ์และย่านใกล้เคียง เช่น ซอยบรมราชชนนี 4 และ 6 คอนโดฯลุมพินี พาร์ค ปิ่นเกล้า เช่นเดียวกับหมู่บ้านสีวลี-ราชพฤกษ์ หมู่บ้านชัยพฤกษ์-ราชพฤกษ์ และหมู่บ้านเบญญาภา-ราชพฤกษ์

ตลาดโต 2.8 หมื่น ล.

ธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตปีละ 10-20% มี 2 รูปแบบคือ การขนส่งระหว่างธุรกิจบีทูบี และการขนส่งแบบบีทูซี ปัจจุบันได้ขยายตัวมากตามกระแสของอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีผู้ให้บริการหลายราย อาทิ ไปรษณีย์ไทย, เคอรี่ เอ็กซ์เพรส, ลาล่ามูฟ, LINE Man, นิ่มเอ็กซ์เพรส และเอสซีจี เอ็กซ์เพรส

ปณท เร่งอัพเกรดรักษาแชมป์

นายพิษณุ วานิชผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจองค์กร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีนี้จะเร่งขยายพื้นที่ให้บริการแบบ same day จากปัจจุบันบริการ EMS ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงหลายจังหวัดใหญ่ หากนำส่งที่สาขาก่อน 12.00 น. พัสดุจะถึงปลายทางไม่เกิน 20.00 น.ในวันเดียวกัน และจะขยายอีกหลายจังหวัด ส่วนจังหวัดรองลงมาจะส่งแบบ next day คือนำส่งก่อน 15.00 น.จะถึงในวันถัดไป

“ค่าบริการวันนี้ยังไม่ถึงภาวะสงครามราคา แต่มีจัดโปรโมชั่นเป็นช่วง ๆ ส่วนไปรษณีย์มีส่วนลดพิเศษให้ลูกค้าอีคอมเมิร์ซที่ส่งจำนวนมากอยู่แล้ว”

ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้จะเปิดให้บริการโฉมใหม่เก็บเงินปลายทาง (COD) พร้อมนำส่งเข้าระบบอีวอลเลตของไปรษณีย์ไทย ซึ่งผู้ค้าอีคอมเมิร์ซจะบริหารเงินในระบบอีวอลเลตได้ทันที ไปรษณีย์ไทยมีมาร์เก็ตแชร์กว่า 50% มีที่ทำการ 1,300 แห่ง รวมถึงเอกชนที่ได้รับอนุญาตแฟรนไชส์อีก 3,000 แห่ง รวมแล้วกว่า 5,000 แห่ง มีศูนย์กระจายพัสดุ 18 แห่งทั่วประเทศ

โลจิสติกส์ B2C-C2C ไม่หมู

นายเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ค่อยมีร้านสะดวกซื้อลุกขึ้นมาขยายธุรกิจนี้เอง เพราะธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ซับซ้อนอยู่พอสมควร แม้ธุรกิจค้าปลีกจำเป็นต้องมีเครือข่ายกระจายสินค้า แต่การทำธุรกิจ B2B การเปิดรับส่งพัสดุสำหรับอีคอมเมิร์ซหรือลงไปถึงผู้ค้ารายย่อยแบบ B2C และ C2C ไม่ใช่ทุกรายจะทำได้สำเร็จซึ่งบริการ DHL eCommerce ในไทยเริ่มให้บริการปี 2558 ปัจจุบันมีพาร์ตเนอร์แบรนด์ใหญ่คือร้านหนังสือ “ซีเอ็ด” และร้านค้าย่อยในพื้นที่ต่างจังหวัด รวม 900 จุดให้บริการทั่วประเทศ คาดสิ้นปีจะทะลุเป้าหมาย 1,000 แห่ง

เคอรี่ฯทุ่มอีกพันล้าน

รายงานข่าวจากบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ปัจจุบันมีจุดให้บริการกว่า 2,500 สาขาทั่วประเทศ มีศูนย์กระจายสินค้ากว่า 600 แห่ง มียอดจัดส่งพัสดุด่วนกว่า 8 แสนชิ้น สามารถให้บริการแบบ next day ได้มากกว่า 99.9% ของประชากรไทยทั้งหมด และปีนี้มีแผนลงทุน 1,000 ล้านบาท จ้างงานเพิ่ม 6,000 คน และจับมือกับร้านสะดวกซื้อ FamilyMart, Mini Big C, Spar, ท็อปส์ เดลี่ มินิ ซูเปอร์มาร์เก็ต และ OfficeMateดีต่ออีคอมเมิร์ซ

นางสาวเพ็ญสิริ เสถียรวงศ์นุษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอคอมเมิร์ซ ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเพิ่มบริการส่งของไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เชื่อว่าการลงทุนในอีโคซิสเต็มจะมากขึ้นและส่งผลดีกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ”