“ปลากระป๋อง” ดิ้นสู้ตลาดซบ บิ๊กแบรนด์แห่รุกอาหารพร้อมทานปั๊มยอด

ตลาดปลากระป๋องเฉาต่อเนื่อง พิษเศรษฐกิจทุบกำลังซื้อบวกผู้บริโภคมีทางเลือกใหม่ แบรนด์ดังแห่เพิ่มพอร์ตฯสินค้า ขยับตัวแตกไลน์ ส่งอาหารพร้อมทานสแน็ก เพิ่มช่องทางขายบุกออนไลน์ ปั้นรายได้เสริม “โรซ่า” เตรียมบุกอาหารเพื่อสุขภาพ-สปอร์ตฟู้ด ด้าน “สามแม่ครัว” ประกาศเพิ่มเมนูใหม่ ขณะที่ “ซูเปอร์ซีเชฟ” ลุยอาหารพร้อมทาน ส่วน “ปุ้มปุ้ย” เปิดตลาดใหม่ ส่งออกเครื่องแกงเจาะต่างประเทศ

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดปลากระป๋อง จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 8-9 พันล้านบาท ตัวเลขค่อย ๆ ลดลง หรือแทบจะไม่เติบโตขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภค ขณะที่ภาวะการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการรายใหม่ที่กระโดดเข้ามาในตลาดเป็นระยะ ๆ และส่วนใหญ่เน้นการแข่งขันด้วยโปรโมชั่นราคา และอีก

ปัจจัยที่สำคัญ คือ แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและหันไปรับประทานอาหารอื่น ๆ ที่เข้ามาทดแทนในตลาดมากขึ้น จากปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้แบรนด์หลักในตลาดต่างเร่งปรับตัว โดยหันไปพัฒนาสินค้าใหม่เข้ามาเติมพอร์ตโฟลิโอ เพื่อสร้างรายได้เสริมจากยอดขายปลากระป๋องที่ถดถอยลง

“โรซ่า” เล็งรุกสปอร์ตฟู้ด

นางสาวเมย์ วังพัฒนมงคล กรรมการบริหาร บริษัท ไฮคิว ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปลากระป๋องภายใต้แบรนด์ “โรซ่า” เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดปลากระป๋อง ที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 8-9 พันล้านบาท พบว่าตัวเลขลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนไปรับประทานอาหารกลุ่มอื่นทดแทน อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอาหารพร้อมทานต่าง ๆ ทำให้บริษัทต้องปรับตัวด้วยการแตกไลน์สินค้าอาหารพร้อมทานแบรนด์โรซ่า ที่ผสมผสานนวัตกรรม และสามารถเก็บได้ไม่ต้องแช่เย็น มีประมาณ 25 เมนู อาทิ เมนูไก่ เมนูทูน่า และอาหารเจ ราคาเริ่มต้น 28 บาท

นอกจากนี้ ล่าสุดยังได้ออกสินค้าใหม่ “โรซ่า เชฟ แอท โฮม” เป็นซีรีส์ซอสปรุงอาหารสำเร็จรูป เบื้องต้นมี 4 รายการ ได้แก่ ซอสพริกไทยดำ ซอสหอยนางรมผสมกระเทียม ซอสผัดผงกะหรี่ และน้ำจิ้มไก่ เบื้องต้นวางขายเฉพาะช่องทางออนไลน์ ช็อปปี้ และอีคอมเมิร์ซของบริษัททั้งทางเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ยังมีแผนจะขยายไลน์ไปยังสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารที่เกี่ยวกับกีฬา หรือสปอร์ตฟู้ด ที่ตลาดยังมีช่องว่างและมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก

ปัจจุบัน บริษัท ไฮคิว มียอดขายประมาณ 3,000 ล้านบาท มาจากปลากระป๋อง 45% ซอสมะเขือเทศ 30% และอาหารพร้อมทาน ซอสปรุงอาหารสำเร็จ 25%

สามแม่ครัว เพิ่มเมนูพิเศษ

นายเกรียงสิน เต็มสุนทร ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท รอแยลฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตอาหารกระป๋อง “สามแม่ครัว” เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดปลากระป๋องในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาค่อนข้างทรงตัว ซึ่งได้รับผลกระทบจากวัตถุดิบที่หายาก ส่งผลให้ไม่สามารถผลิตสินค้าเพื่อสต๊อกไว้ทำตลาดได้จำนวนมาก และผลจากวัตถุดิบที่หายากก็ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่บริษัทยังไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด เนื่องจากยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อยู่ แต่หากต้นทุนสูงขึ้นกว่านี้บริษัทก็อาจจะมีการปรับแผนงานใหม่

สำหรับแนวทางการทำตลาดจากนี้ไปบริษัทจะให้ความสำคัญการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ปลากระป๋องในกลุ่มเมนูพิเศษมากขึ้น เช่น ปลาแมกเคอเรลในซอสมะเขือเทศ สูตรยำ และห่อหมกปลาแมกเคอเรล เพื่อขยายฐานผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบจากเดิมที่มีกว่า 10 เมนู อาทิ ฉู่ฉี่ คั่วกลิ้ง มัสมั่น และน้ำพริก เป็นต้น รวมถึงการหันมาให้ความสำคัญการขายผ่านทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น

“ปีนี้บริษัทตั้งเป้าสร้างการเติบโตกว่า 10% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เติบโตทรงตัว โดยปัจจุบันสามแม่ครัวยังเป็นผู้นำในตลาดปลากระป๋องด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 40% และมียอดขายมาจากในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20%” นายเกรียงสินกล่าว

“ซูเปอร์ซีเชฟ” ลุยพร้อมทาน

นายอาชวิน โรจน์ชัยนินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ซีแวลู จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายปลากระป๋องภายใต้แบรนด์ “ซูเปอร์ซีเชฟ” กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมของซูเปอร์ซีเชฟในไตรมาสแรกของปีถือว่าเติบโตขึ้น จากความได้เปรียบทางวัตถุดิบ ตรงข้ามกับหลายแบรนด์ที่ประสบปัญหาเรื่องวัตถุดิบไม่เพียงพอ เนื่องจากปลาซาร์ดีนแท้หายากขึ้น ผู้ผลิตหลายรายต้องเปลี่ยนไปใช้ปลาแมกเคอเรลแทน จนเกิดช่องว่างในตลาด ทำให้บริษัทสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจากเดิมอันดับ 4 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2

ปัจจุบันตลาดปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศที่มีมูลค่าประมาณ 8-9 พันล้านบาทอยู่ในช่วงชะลอตัว โดยมีอัตราการเติบโตเพียง 1-2% ซึ่งเป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ลดลง ล่าสุด “ซูเปอร์ซีเชฟ” ได้ลอนช์ผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มอาหารพร้อมทาน แบรนด์ซูเปอร์ซีเชฟ อาทิ ไข่พะโล้ ปูผัดผงกะหรี่ จำหน่ายผ่านช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ และเตรียมลอนช์เมนูใหม่ ๆ เพิ่มอีก 2-3 เมนู ควบคู่กับการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย จัดโรดโชว์และทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับร้านค้าและตัวแทนจำหน่าย เริ่มตั้งแต่โมเดิร์นเทรด ร้านค้าส่งและยี่ปั๊ว เพื่อกระตุ้นการรับรู้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

“ปุ้มปุ้ย” เครื่องแกงบุก ตปท.

นายไกรฤทธิ์ โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตปลากระป๋อง “ปุ้มปุ้ย” เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” เมื่อก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมุ่งปรับกลยุทธ์ เน้นคุณภาพ ราคามาตรฐาน และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ กลุ่มเครื่องแกงสำเร็จรูป ได้แก่ พริกแกงมัสมั่น พริกแกงกะหรี่ พริกแกงเขียวหวาน เครื่องปรุงผัดไทย เครื่องต้มยำ เพื่อส่งออกไปตลาดต่างประเทศ

โดยเฉพาะตลาดในแถบยุโรปที่มีความชื่นชอบอาหารไทย ล่าสุดได้นำผลิตภัณฑ์ไปประชาสัมพันธ์ในงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในงาน Anuga 2019 ที่ประเทศเยอรมนีจากที่ผ่านมาได้เริ่มทำตลาดผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานสำเร็จรูปตราปุ้มปุ้ย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Smiling Meal” ให้ทุกมื้ออาหารเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งหมด 8 เมนู อาทิ คั่วกลิ้งไก่ ผัดกะเพราไก่ แกงมัสมั่นไก่ เป็นต้น เจาะกลุ่มแม่บ้านยุคใหม่ที่ใช้เวลาเร่งรีบ รวมทั้งสแน็กแบรนด์ “Smiling Fish” ที่ได้มีการปรับปรุงใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น วางจำหน่ายผ่านช่องทางร้าน

ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ ควบคู่กับจัดกิจกรรมตามจุดขาย และจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการขายตามร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค