สธ.เคาะแผนกระจายไฟเซอร์ บุคลากรด่านหน้าได้บูสเตอร์โดส 5 แสนโดส

สธ.เคาะแผนอนุมัติไฟเซอร์

สธ.กางโรดแมปกระจายไฟเซอร์ บุคลากรด่านหน้าได้บูสเตอร์โดส 5 แสนโดส ด้านกลุ่มเสี่ยง 608-ประชาชนพื้นที่เสี่ยงได้อานิสงค์ด้วย พร้อมโต้ข่าวลือส่งไฟเซอร์ป้อนวีไอพี ลั่นดำเนินคดีเฟคนิวส์ให้ถึงที่สุด

วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง (รก.11) นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สธ. ได้เดินหน้ามาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น ควบคู่กับมาตรการเชิงรุกทั้งการตรวจหาเชื้อโควิดเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง ตลอดจนการเร่งฉีดวัคซีนแก่บุคคลกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และสตรีมีครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป

ขณะที่วัคซีนไฟเซอร์ที่จะเข้ามาในปลายเดือนกรกฎาคมราว 1.54 ล้านโดส จะเริ่มฉีดในต้นเดือนสิงหาคมนี้ สำหรับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์จะได้รับการจัดสรรในจำนวนนี้เป็นบูสเตอร์โดส (เข็มที่ 3) ไม่น้อยกว่า 500,000 โดส ขอยืนยันว่าไม่ได้รับเพียง 200,000 โดสตามที่มีกระแสข่าวออกมา

นอกจากนี้ วัคซีนจำนวนที่เหลือจะถูกจัดสรรไปให้แก่กลุ่มเสี่ยงเป็นอันดับที่ 2 คือ กลุ่ม 608 ประกอบด้วยกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป กลุ่มผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และกลุ่มสตรีมีครรภ์ จากนั้นจึงเป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งมีการระบาดหนัก ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ที่จะเข้ามาอีก 20 ล้านโดส และจะเริ่มฉีดตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. ก็จะเน้นไปแนวทางนี้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้วัคซีนทั้งหมดประชาชนจะได้รับการจัดสรรฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีบุคลากรทางการแพทย์บางส่วนได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไปก่อนแล้ว ซึ่งขอชี้แจงว่าผลการศึกษาการฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยบูสเตอร์โดสแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม ทำให้มีภูมิต้านทานสูงกว่าการฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม, ซิโนแวค 2 เข็ม, แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม, ซิโนแวค 1 เข็ม และแอสตร้า 1 เข็ม

ส่วนข่าวลือที่ว่าจะนำวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 300,000 โดส ไปฉีดให้แก่กลุ่ม VIP ก็ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การให้ข่าวปลอมใด ๆ ก็ตาม สธ.จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

“เราอยู่ในสภาวะที่ทำงานหนักมาก แต่เราขอสัญญาว่าจะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด” นพ.รุ่งเรืองกล่าวทิ้งท้าย