สธ.สั่งห้าม 8 ประเทศแอฟริกาใต้เข้าไทย สกัดโควิด “โอไมครอน”

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

สธ. ประกาศห้ามนักท่องเที่ยว 8 ประเทศเสี่ยงทวีปแอฟริกาเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่ 27 พ.ย.นี้เป็นต้นไป เฝ้าระวังป้องกันโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” ส่วนผู้ได้รับอนุญาตเดินทางแล้วให้กักตัว 14 วัน

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า วานนี้ (26 พ.ย.) องค์การอนามัยโลก (WHO) มีมติยกระดับโควิดสายพันธุ์ B.1.1.529 เป็นสายพันธุ์น่ากังวล และตั้งชื่อว่า “โอไมครอน”

หลังพบสายพันธุ์โอไมครอนเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เริ่มที่ประเทศบอตสวานา และระบาด 5-6 ประเทศใกล้กันบริเวณแอฟริกาใต้ และตรวจเจอคนเดินทางจากแอฟริกาใต้ไปยังฮ่องกง เบลเยียม และอิสราเอล แม้บางคนได้รับวัคซีนครบแล้ว ส่วนประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังตรวจรหัสพันธุกรรมยังไม่มีสายพันธุ์นี้ โดยยังเฝ้าระวังต่อเนื่อง

สายพันธุ์โอไมครอนมีการกลายพันธุ์ 50 กว่าตำแหน่ง โดย 32 ตำแหน่งอยู่บนโปรตีนหนามที่จับกับเซลล์มนุษย์ ต้องจับตาว่าตำแหน่งที่กลายพันธุ์จะมีปัญหาหรือไม่

ทั้งนี้ มีการสันนิษฐานจากตำแหน่งการกลายพันธุ์ว่า อาจเพิ่มอำนาจการแพร่เชื้อมากขึ้น หรือหลบภูมิคุ้มกันได้

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์

ส่วนพื้นที่ที่ตรวจพบสายพันธุ์นี้มีข้อมูลว่า ตรวจเจอเชื้อค่อนข้างมาก สะท้อนว่าอาจแพร่ติดเชื้อง่ายหรือเร็วขึ้น แต่ข้อมูลในสนามจริงยังมีไม่มากพอ ต้องติดตามข้อมูลต่อไป ซึ่งองค์การอนามัยโลกขอความร่วมมือทุกประเทศช่วยกันตรวจสายพันธุ์นี้ เพื่อรายงานว่ามีการแพร่กระจายไปที่ไหน

ส่วนผู้เดินทาง 63 ประเทศที่ไทยอนุญาตให้เข้าประเทศไทย จะต้องเข้าสู่ระบบ Test & Go แต่ขณะนี้ยังไม่มีประเทศในทวีปแอฟริกา

อย่างไรก็ตาม สธ. จะประสานโรงพยาบาลที่ตรวจพบเชื้อผู้เดินทางเข้าประเทศจากทุกระบบ ส่งตัวอย่างผลบวกทั้งหมดมาถอดรหัสพันธุกรรมที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อดูว่ามีสายพันธุ์นี้หรือไม่

สำหรับมาตรการป้องกันโรคปัจจุบันยังใช้ได้ผล ทั้งเว้นระยะห่าง ลดแออัด หน้ากาก ล้างมือ และไวรัสตัวนี้ตรวจด้วย RT-PCR ได้ตามปกติ

นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อไปว่า การเดินทางเข้ามาทางอากาศไม่ค่อยเป็นปัญหา เพราะมีมาตรการดูแลได้ครบถ้วน สิ่งที่กังวลคือช่องทางบก ที่ต้องเฝ้าระวังและขอให้ เจ้าหน้าทีเข้มงวดและประชาชนงดการลักลอบเดินทางเข้าออกประเทศ

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

แต่ปัจจุบันข้อมูลทางระบาดวิทยา ลักษณะการระบาด ความรุนแรงของโรค ความเร็วการแพร่กระจายเชื้อ หรือความสามารถหลบเลี่ยงวัคซีนและยา ของสายพันธุ์โอไมครอนยังไม่มีข้อมูลชัดเจน เพราะเป็นสายพันธุ์ใหม่ ทั่วโลกกำลังร่วมกันจับตา

ส่วนประเทศไทยมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกับประเทศต่าง ๆ รวมถึงองค์การอนามัยโลก

ล่าสุด ได้วางมาตรการเรื่องผู้เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา คือ ไม่อนุญาตให้ผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยง 8 ประเทศในทวีปแอฟริกา เข้าประเทศไทยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. เป็นต้นไป โดยรายชื่อประเทศมีดังนี้

  • 1.สาธารณรัฐบอตสวานา
  • 2.ราชอาณาจักรเอสวาตินี
  • 3.ราชอาณาจักรเลโซโท
  • 4.สาธารณรัฐมาลาวี
  • 5.สาธารณรัฐโมซัมบิก
  • 6.สาธารณรัฐนามิเบีย
  • 7.สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
  • 8.สาธารณรัฐซิมบับเว

ส่วนผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางก่อนหน้านี้ จะให้กักตัว 14 วันทุกราย ไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมนอกห้องพัก และตรวจห้องปฏิบัติการ 3 ครั้ง คือ วันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. , 5-6 ธ.ค. และ 12-13 ธ.ค. หากไม่พบเชื้อจึงอนุญาตให้ออกมาได้

นอกจากนี้ ยังจับตาประเทศอื่น ๆ ที่อาจตรวจพบไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์นี้ได้ เนื่องจากมีระบบการเฝ้าระวังที่ดี อย่างฮ่องกงก็ตรวจพบเป็นผู้ติดเชื้อในแอฟริกาใต้เดินทางไป จึงถือเป็นกรณีนำเข้า ซึ่งจะมีการติดตามสถานการณ์ หากเหตุการณ์เปลี่ยนมีจะเพิ่มมาตการและชี้แจงให้ทราบต่อไป


“การกลายพันธุ์ของเชื้อมีตลอดเวลา แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แถบแอฟริกาใต้มีการกลายพันธุ์ค่อนข้างมาก นอกจากการป้องกันแล้ว คือวัคซีน ซึ่งทวีปแอฟริกามีการฉีดวัคซีนครอบคลุมน้อยที่สุด สิ่งที่ประชาชนจะร่วมกันทำให้ประเทศปลอดภัย คือ ร่วมกันฉีดวัคซีน ป้องกันตนเองครอบจักรวาล ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง มาตรการ COVID Free Setting ที่หน่วยงานต่าง ๆ ต้องร่วมมือกัน”