วัตสันปูพรมสาขาเจาะชุมชน ชู “ออฟไลน์-ออนไลน์” ปั๊มยอด

วัตสัน

วัตสันกางแผนปี’65 ทุ่มงบฯขยายสาขา 50 แห่ง-เดินหน้ารีโนเวตสาขาเก่า 100 แห่ง จ่อยกระดับประสบการณ์ช็อปปิ้งผุดกลยุทธ์ออฟไลน์-ออนไลน์ เชื่อมออนไลน์และออฟไลน์ไร้รอยต่อ เคลื่อนตัวหาผู้บริโภค ตั้งเป้า 2-3 ปี เพิ่มสัดส่วนมาเป็น 20% ของพอร์ต พร้อมเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ชูความยั่งยืน ดึงสินค้า sustainable choices จับกลุ่มคนรุ่นใหม่

นายพสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วัตสัน ประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารเชนค้าปลีกสุขภาพและความงามวัตสัน (Watsons) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดค้าปลีกสุขภาพและความงามในประเทศไทยมีศักยภาพเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องถึง 1.5 เท่า จากปัจจัยหนุนพฤติกรรมผู้บริโภคให้ความสนใจทางด้านเวลเนสมากขึ้น

รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของการซื้อสินค้าในกลุ่มสกินแคร์ เดอร์มาสกินแคร์ ฟิตเนส บำรุงผม ประกอบกับการช็อปปิ้งออนไลน์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา แม้ยังมีปัจจัยลบโควิดยืดเยื้อก็ตาม ส่งผลให้เกิดผู้เล่นหน้าใหม่ทยอยเกิดขึ้นจำนวนมาก อาทิ ธุรกิจรีเทลที่เริ่มเพิ่มโซนในการนำผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามมาจัดจำหน่าย

ดังนั้น ในปี 2565 วัตสันได้เตรียมทุ่มงบประมาณ สร้างการเติบโตผ่านการขยายสาขาต่อเนื่อง โดยจะแบ่งงบฯออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.การขยายสาขาใหม่จำนวน 50 สาขา โฟกัสแหล่งที่อยู่อาศัยทราฟฟิกสูง บนทำเลศักยภาพในพื้นที่ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ควบคู่กับการชะลอเพิ่มสาขาในย่านท่องเที่ยวที่ยังได้รับผลกระทบจากโควิด 2.การรีโนเวตปรับพื้นที่สาขาเดิมจำนวน 100 สาขา ให้ทันสมัย และดึงดูดใจผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น หลังจากในปีนี้ขยายสาขาได้ตามเป้าหมายทั้งหมด 50 สาขา โดยล่าสุดได้เตรียมเปิดสาขาเซ็นทรัล อยุธยา ภายใต้โมเดลใหม่เจเนอเรชั่น 9 ทำให้สิ้นปีนี้จะมีสาขาทั้งหมดอยู่ที่ 640 สาขา

ขณะที่ช่วงโค้งท้ายของปี 2564 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 25 ปีของแบรนด์วัตสัน บริษัทเตรียมลงทุนขยายแวร์เฮาส์เก็บสินค้าใน จ.ขอนแก่นเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของดีมานด์ โดยเฉพาะในภาคอีสาน หลังจากที่่ผ่านมาเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดแบบไร้รอยต่อระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ (O+O) โดยอาศัยเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น Watsons TH เชื่อมต่อกับหน้าร้านวัตสันกว่า 600 สาขา ให้บริการต่าง ๆ อาทิ Click & Collect ช็อปออนไลน์แต่รับสินค้าสาขาใกล้บ้าน, Watsons Chat & Shop

ช็อปแบบเรียลไทม์ผ่านการคุยกับพนักงานประจำร้านวัตสันกว่า 250 สาขา เพื่อเพิ่มประสบการณ์การช็อปปิ้งให้ง่ายยิ่งขึ้น และยังเป็นการเคลื่อนตัวเข้าหาลูกค้า โดยที่ผ่านมาหลังจากเริ่มทำ O+O มีลูกค้าในช่องทางดังกล่าวเพิ่มขึ้นราว 2.5 เท่า และคาดว่าใน 2-3 ปีข้างหน้า สัดส่วนยอดขายจาก O+O จะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ของพอร์ต

“ช่วงที่ผ่านมาตลาดสุขภาพและความงามเผชิญความท้าทายจากปัจจัยโควิด ดึงกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ส่งผลให้วัตสันในฐานะเบอร์ 1 ของตลาดต้องปรับตัว เพิ่มประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ ตลอดจนการขยายสาขา เพื่อเพิ่มยอดขายใน 2 ช่องทาง และสร้างการเติบโต”

พร้อมกันนี้ วัตสันยังรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านฐานข้อมูลสมาชิกกว่า 6 ล้านราย ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ตลอดเวลา พร้อมกับยกระดับสังคมไร้สัมผัสผ่านการทำ touchless experience เช่น ชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงเปิดบริการปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าขอคำแนะนำเรื่องสุขภาพได้กับเภสัชกรของวัตสันได้โดยตรง

นอกจากนี้ ได้เดินหน้าวิสัยทัศน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2573 ตามบริษัทแม่ เอ.เอส.วัตสัน กรุ๊ป (A.S. Watson Group) โดยนำสินค้า sustainable choices มาจัดจำหน่าย เพื่อเป็นทางเลือกการใช้สินค้ายั่งยืนในกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ลูกค้ากว่า 70% ยินดีจ่ายเท่าเดิมหรือมากขึ้นเพื่อสินค้ายั่งยืน พร้อมกับเดินหน้าลดการใช้พลังงานลง 30% อีกด้วย