DOD ผุดอาหารเสริมกัญชง-CBD-กระท่อม จ่อแตกไลน์ผลิตเจล-เจลลี่เพิ่ม รับเทรนด์สุขภาพมาแรง-ตลาดอาหารเสริมฟื้นตัว พร้อมทุ่มงบ 180 ล้าน ขยายคลังสินค้า-พัฒนาการผลิต ตั้งเป้ารายได้โต 20%
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ผู้ดำเนินธุรกิจ OEM อาหารเสริม เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดอาหารเสริมโลกมีมูลค่าสูงถึง 1.2 แสนดอลลาห์สหรัฐ โดย Euromonitor ประมาณการภายในปี 2569 จะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 1.5 แสนล้านดอลลาห์
ขณะที่ภาพรวมตลาดอาหารเสริมในไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 5.1% จากแนวโน้มผู้บริโภคหันมารับประทานอาหารเสริมและวิตามินมากขึ้น หลังโควิดระบาด ทำให้เกิดเทรนด์ดูแลสุขภาพในระยะยาว
ดังนั้น ยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของ DOD ในปี 2565 จะหันมารองรับเทรนด์สุขภาพ ผ่านการออกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมให้แก่ลูกค้าในปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 10 ชิ้น ทั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความสวยงาม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมน้ำมันจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) ส่วนผสมของสารสกัด CBD Isolate และพืชกระท่อม รวมทั้งพืชสมุนไพรไทยอื่น ๆ
โดยตั้งเป้าการเติบโตรายได้ในปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2564 จากยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความสวยงาม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ยังคงมีการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ควบคู่กับการขยายไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบเจล และ เจลลี่ ที่มีความนิยมค่อนข้างมากในประเทศเกาหลีใต้ และ ประเทศญี่ปุ่น โดยในปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมที่มากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาสูตร พัฒนาแพคเกจจิ้ง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารร่วมกับลูกค้า โดยคาดว่าจะสามารถออกผลิตภัณฑ์ได้ในไตรมาส 2/2565
นายธนิน กล่าวต่อไปว่า สำหรับปีนี้บริษัทฯได้วางงบลงทุนไว้ ไม่ต่ำกว่า 180 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ในการขยายคลังสินค้า และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน มูลค่าราว 80 ล้านบาท พร้อมกับเตรียมพัฒนาและลงทุนไลน์การผลิตสินค้า บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด (SHT) ภายใต้บริษัทย่อยของ DOD เพื่อให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์สินค้าปลายน้ำออกจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าได้ทันที
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการเจรากับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ ในการผลิตจากต่างประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ ที่มีความต้องการที่จะเข้ามาขยายธุรกิจในประเทศไทยเพื่อที่จะสร้างฐานการผลิตรองการขยายตลาดไปในภูมิภาค โดยมองทั้งการร่วมลงทุน และการอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Licensing) โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/2565
ส่วนบริษัทลูก บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด (SHT) ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง ได้เริ่มดำเนินการสกัดสาร CBD Isolate แบบผงที่มีความเข้มข้นไม่ต่ำกว่า 98% ในโรงสกัดที่ได้มาตรฐานสากลเชิงพาณิชย์อย่างถูกกฎหมายเป็นรายแรกของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์แล้ว และเตรียมรับช่อดอกกัญชงเข้ามาสกัดอย่างต่อเนื่องในปี 2565
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มนำสารสกัด CBD Isolate ซึ่งเป็นวัตถุดิบและสารตั้งต้นในการใช้เป็นส่วนผสม เพื่อพัฒนาและต่อยอดในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ได้อย่างครบวงจรแบบ One Stop Service Solution ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ให้กับกลุ่มพันธมิตรที่บริษัทฯ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จ (Finished product) ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดจากกัญชงในช่วงก่อนหน้านี้ อาทิ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย (JKN) , บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS), บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY), บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO), บมจ.เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท (FN) และกลุ่มผู้ประกอบการทั่วไปได้ทันที ไม่ต่ำกว่า 2 – 3 ผลิตภัณฑ์ต่อราย โดยบริษัทฯคาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวได้ ภายในช่วงต้นปี 2565 ตามแผนที่วางไว้