แม็คโคร ตั้ง “ธานินทร์ บูรณมานิต” นั่งแท่นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจ แม็คโครคนใหม่แทน “สุชาดา อิทธิจารุกุล” พร้อมย้ำกลยุทธ์ขยายธุรกิจ ออฟไลน์และออนไลน์ (O2O) นำทัพธุรกิจสู่ผู้นำค้าส่งค้าปลีกเอเชีย
วันที่ 28 เมษายน 2565 นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจแม็คโคร ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจแม็คโคร ซึ่งดำเนินธุรกิจ แม็คโครและโลตัส ปักธงเป็นผู้นำค้าส่งค้าปลีกของเอเชีย เสริมทัพทีมงานมืออาชีพรุ่นใหม่ พร้อมกลยุทธ์ขยายธุรกิจ ออฟไลน์และออนไลน์ (O2O) อีคอมเมิร์ซ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้า ที่ปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล เช่น
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- เช็กเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนเมษายน 2567 เงินเข้าวันไหน
- ปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพ ข้าราชการ 4 กลุ่ม เริ่ม 1 พ.ค.นี้
การเปิดตัวแอปพลิเคชั่น maknet B2B Marketplace หรือตลาดค้าส่งออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการแบบ End to End Solutions ที่เปิดบริการไปเมื่อ 31 มีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเร่งเปิดสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมชูแพลตฟอร์มแห่งโอกาส หนุนเอสเอ็มอีไทยก้าวไปสู่ตลาดภูมิภาค”
“แม็คโคร ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 32 ปี ด้วยการขับเคลื่อนของทีมงานบริหารมืออาชีพ ที่มีความเข้าใจลูกค้าผู้ประกอบการอย่างลึกซึ้ง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญอันทำให้แม็คโครเจริญเติบโตมาจนปัจจุบันนี้ และด้วยความต้องการของลูกค้าและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
เราได้มีการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และเปิดรับทีมงานคนรุ่นใหม่ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านดิจิทัลเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทำงานร่วมกับทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจค้าส่งค้าปลีก เพื่อให้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง บรรลุเป้าหมายในการขับเคลื่อนองค์กร ภายใต้สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจในรูปแบบใหม่”
ที่ผ่านมาได้มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ใน 10 ประเทศ และได้มุ่งสนับสนุนสินค้าจากผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีออกสู่ตลาดต่างประเทศ ผ่านโครงการแพลตฟอร์มแห่งโอกาส เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เอสเอ็มอีไทยเติบโตและขยายสู่ตลาดในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสินค้าจากผู้ผลิตเอสเอ็มอีมากกว่า 100 รายการถูกนำไปวางจำหน่ายผ่านสาขาของแม็คโครใน กัมพูชา เมียนมา และมีอีกหลายรายการที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
นอกจากนี้กลุ่ม ยังมุ่งมั่นในการทำธุรกิจที่ตอบโจทย์สังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยหลัก ESG ที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ซึ่งแม็คโครเชื่อว่าจะนำพาธุรกิจสู่การเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยการบริหารจัดการบนพื้นฐานของความยั่งยืน ที่แม็คโครให้ความสำคัญสูงสุดทั้ง 3 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม (E) สังคม (S) และการมีธรรมาภิบาลหรือความโปร่งใส (G) โดยได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการต่างๆ ที่ ควบคู่กับการเปิดโครงการมิตรแท้โชห่วย เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อย สู่การเป็น สมาร์ทโชห่วย อย่างต่อเนื่องมากว่า 12 ปี
รวมทั้งได้เปิด “แม็คโคร โฮเรก้า อคาเดมี (MHA)” ขึ้นเพื่ออบรมให้ผู้ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร และจัดเลี้ยงรายย่อยได้เข้ามาพัฒนาต่อยอดฝึกอาชีพ เสริมทักษะ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่ผู้ประกอบการต้องการพัฒนาทักษะเพื่อต่อยอดธุรกิจ รองรับการฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิด-19