วอรี่-ฟรี บิวตี้ ส่งสกินแคร์น้องใหม่ รับตลาดความงามแสนล้าน

วอรี่-ฟรี บิวตี้

ตลาดความงามโลกฟื้นตัวหลังโควิด “วอรี่-ฟรี บิวตี้” เปิดแนวคิดใหม่ฉีกกฎการตลาด ชูคอนเซ็ปต์ “คลีนบิวตี้” ส่งเรื่องราวการตลาดแบบธรรมชาติ ปูพรมตลาดออนไลน์ พร้อมส่งสกินแคร์น้องใหม่บุกตลาดแสนล้าน เจาะคนรุ่นใหม่

วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 นางสาววิลาสินี ภาณุรัตน์ ผู้บริหารฝ่ายออกแบบและสร้างสรรค์ Chief Cheerleader & CREATOR แบรนด์วอรี่-ฟรี บิวตี้ เปิดเผยว่า หลังตลาดความโลกต้องเผชิญสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดหดตัวอย่างต่อเนื่อง แต่หลังการระบาดเริ่มคลี่คลาย และมีการเปิดประเทศประเมินว่าภาพรวมตลาดความงามกำลังฟื้นกลับมาเติบโตอย่างแน่อนอน

แต่ทว่าภาพรวมรวมการแข่งขันจะเป็นไปในโมเดลที่เปลี่ยนไป เพราะตั้งแต่ช่วงโควิดที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาหาออนไลน์กันมากขึ้น

วิลาสินี ภาณุรัตน์
วิลาสินี ภาณุรัตน์

ทำให้ผู้เล่นรายย่อยหลั่งไหลออกมาสู่ตลาดออนไลน์กันอย่างคึกคัก ยิ่งทำให้การควบคุมการสื่อสารในเรื่องของสรรพคุณสินค้านั้นทำได้ยากยิ่งขึ้น และในบางครั้งก็ทำให้เห็นการสื่อสารในเรื่องสรรพคุณที่ว่านี้ไปไกลจนเกินจริง ซึ่งหากรวมกับ social commerce sellers เหล่านี้ เป็นไปได้อย่างสูงว่าตลาดความงามจะกลับมาเป็นบวกหลังจากติดลบมา 2 ปีแล้วอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มสกินแคร์ที่เล็งเห็นความแอกทีฟขึ้นมาอย่างชัดเจน บริษัทจึงเดินจะสามารถเร่งให้การเติบโตในตลาดกลับมา

ในส่วนของกลุ่มสินค้าบริษัทเลือกจะนำเสนอ คือกลุ่มสกินแคร์ซึ่งเป็นเซกเม้นท์ใหญ่ที่สุดของตลาด และถือว่าเป็นกลุ่มสินค้าหลักของบริษัท นอกจากนี้ยังมองว่ากลุ่มดูแลทำความสะอาดผิวกายและเส้นผมที่มีอัตราการเติบโตแบบพุ่งกระฉูดในช่วงโควิดนั้นกำลังแผ่วลง แต่ก็ยังคงเป็นกลุ่มที่ต้องรวมอยู่ด้วย เนื่องด้วยปริมาณการผลิตที่สูงกว่าสินค้าราคาสูงอย่างสกินแคร์ กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่กระทบกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดแน่นอน

และเราอยากจะให้ทุกคนมีความสวยงามที่ไม่ทำร้ายโลก ก็เลยจะเห็นสินค้ากลุ่มนี้รวมอยู่ด้วย กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มของอาหารเสริม ซึ่งที่จริงเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดเพราะคนเริ่มหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น เป็น health and wellness มากขึ้น

“ปัจจุบันผู้บริโภครับรู้ได้ว่าสุขภาพและความสวยงามนั้นต้องเสริมสร้างจากภายใน แต่ก็เป็นที่ที่โฆษณาไปไกลสุดเช่นกัน เราเลยอยากจะลองดูว่าเราสามารถทำอะไรบ้างในกลุ่มที่มีการต่อสู้ทางการตลาดที่รุนแรงขนาดนี้ ก็เลยจะมี 1 SKU (Stock Keeping Unit) อยู่ แต่เลือกทำผลิตภัณฑ์ในส่วนที่ผู้บริโภคสามารถมองเห็นผลลัพธ์ได้จริง วัดได้จริง ซึ่งก็คือตัว Detox”

โดยแนวทางการทำตลาดนับจากนี้จะตีโจทย์คำว่าคลีนบิวตี้ ให้แตกต่างออกไป ด้วยการสื่อสารแบรนด์ในเรื่องที่การปราศจากสิ่งที่เป็นอันตรายหรือมีโอกาสที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้บริโภค ดังนั้น ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์จะต้องเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง “Transparency” คือ Commitment แรกที่เลือกใช้ นับเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่เริ่มสื่อสารในส่วนของความโปร่งใส มีรายละเอียดที่ชัดเจนให้กับลูกค้า ที่สำคัญคือลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดได้ด้วยตนเอง

สินค้าทุกตัวของเราจะมี QR code อยู่ที่ฉลากผลิตภัณฑ์ เมื่อลูกค้าสแกนก็จะเชื่อมต่อไปที่ w clean beauty standard ทันที ลูกค้าจะสามารถตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ รายละเอียดของส่วนประกอบต่าง ๆ รวมถึงสาเหตุที่เลือกใส่ส่วนประกอบนั้น ๆ หรือสาเหตุที่หลีกเลี่ยง เราเรียกว่า Yes List กับ No List เพื่อให้ได้ดังคุณสมบัติที่เราบอกไป โดยต้องไม่เกินความเป็นจริงหรือหลอกลวง ซึ่งถือเป็น trademark ของแบรนด์

ทั้งนี้เป้าหมายของแบรนด์เป็นกลุ่ม young people ที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์ จึงเป็นเรื่องสำคัญและหลีกเลี่ยงดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาเว็บไซต์ของตัวเองด้วย ซึ่งในนั้นจะมีข้อมูลทุกอย่างให้กับคนที่เข้ามา แล้วก็มี Line OA และ E-market place สำหรับในส่วนของออฟไลน์ จะมีการวางจำหน่ายที่ All About You เพราะกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างตอบโจทย์ที่ตรงกับแบรนด์ด้วย โดยมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตอยู่ที่ 5-6% ซึ่งเกือบเทียบเท่าตอนก่อนโควิดอย่างแน่นอน