เซ็นทรัลฟู้ดส่ง “ท็อปส์คลับ” ลุย ดีเดย์กันยายน ขายสินค้านำเข้า

topsclub

“เซ็นทรัล รีเทล” กางแผนดัน “ท็อปส์” ขึ้น “เบอร์ 1” ธุรกิจฟู้ดรีเทลในไทย-เวียดนาม พร้อมเดินหน้าเสริมแกร่งพอร์ตธุรกิจฟู้ด ยึดทำเลทอง พระราม 2 เปิดตัวร้านโมเดลใหม่ระบบสมาชิก Tops CLUB ขนทัพสินค้านำเข้าและสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ดังกว่า 3,500 รายการจากทั่วโลก ดีเดย์ตัดริบบิ้น ก.ย.นี้

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้บริหารซูเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ เดลี่, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนและยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ ด้วยการเปิดให้บริการรูปแบบร้านที่หลากหลาย รวมทั้งการนำเสนอความครบครันของสินค้า และช่องทางออมนิแชนเนล ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการให้กับลูกค้าที่แตกต่างกันในทุกช่วงเวลา

ขณะเดียวกันที่ผ่านมาก็ได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการนำแบรนด์ “ท็อปส์ มาร์เก็ต” ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยไปขยายในเวียดนาม

นอกจากนี้เพื่อยกระดับธุรกิจค้าปลีกและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง จึงประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี โดยใช้ 4 กลยุทธ์ ตามยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ด้วยงบฯลงทุน 18,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาให้ครบ 1,700 แห่ง และกวาดรายได้โต 3 เท่า เพื่อนำธุรกิจฟู้ดรีเทลให้ก้าวสู่เบอร์ 1 ทั้งในไทยและเวียดนาม คือ 1.ผู้นำร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตทุกฟอร์แมต ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต และคอนวีเนี่ยนสโตร์

ล่าสุดได้พัฒนารูปแบบร้านโมเดลใหม่ระบบสมาชิก ภายใต้ชื่อ Tops CLUB ที่รวบรวมสินค้านำเข้าและสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ดังจากทั่วโลกกว่า 3,500 รายการ มากกว่า 70% เป็นสินค้านำเข้า อาทิ จากสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น มีครบทุกกลุ่มสินค้า ได้แก่ อาหารสด, อาหารแห้ง, ขนมขบเคี้ยว, ของใช้ภายในบ้าน, ของตกแต่งบ้าน, ของเล่น, อุปกรณ์สนาม-แคมปิ้ง และอุปกรณ์กีฬา ฯลฯ

“ร้าน Tops CLUB แฟลกชิปสโตร์ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการสาขาแรก ปลายเดือนกันยายนนี้ ย่านพระราม 2 และตั้งแต่วันนี้-30 กันยายนนี้ เปิดสมัครสมาชิกในราคาเพียง 799 บาท/ปี จากปกติ 999 บาท จำนวนจำกัด เพื่อรับสิทธิซื้อสินค้าแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟราคาพิเศษ ผ่านช่องทางออนไลน์แอปพลิเคชั่น Tops CLUB พร้อมจัดส่งฟรีในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2565 และช่องทาง Tops CLUB พ็อปอัพสโตร์ อาทิ เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล เวิลด์, เมกา บางนา และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี”

2.ซูเปอร์มาร์เก็ตแพลตฟอร์มออมนิแชนเนลสมบูรณ์แบบที่สุดของไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ WHENEVER, WHEREVER เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า นอกจากการซื้อสินค้าผ่านหน้าร้าน ยังมีช่องทางออนไลน์หลากหลาย และเสมือนมาเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเองที่หน้าร้าน

รวมถึงการอำนวยความสะดวกและความต้องการเฉพาะบุคคล ด้วยบริการผู้ช่วยช็อปส่วนตัว (personal shopper) ช็อปแบบเรียลไทม์ ทั้ง โทร. แชต และวิดีโอคอล ให้ลูกค้าสามารถเลือกช็อปได้หลากหลายช่องทาง สะดวกทุกที่ ทุกเวลา พร้อมบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน

3.one stop shopping “ท็อปส์” รวมความครบครันสินค้าดีที่สุด มากที่สุดจากทั่วโลก มีสินค้าหลากหลายกว่า 45,000 รายการ รวมถึงยังให้ความสำคัญกับการคัดเลือกสินค้าออร์แกนิกทั้งผัก ผลไม้ สินค้าเพื่อสุขภาพ และความงาม ที่มีจำหน่ายมากที่สุด รวมถึงการนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และ own brand ของ “ท็อปส์” เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านสินค้าครบครันในที่เดียว

4.ผู้นำองค์กรขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนในไทย และเวียดนาม ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนองค์กรผ่านเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศด้วยการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรโดยตรง เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรนำสินค้ามาจำหน่ายส่งตรงถึงมือผู้บริโภคในตลาด “จริงใจ FARMERS’ MARKET” และยังมอบโอกาสเติบโตทางธุรกิจให้กับ SMEs ทั่วประเทศ ผ่านแพลตฟอร์ม “ท็อปส์ ท้องถิ่น” รวมไปถึงการจับมือกับผู้ค้ารายย่อย เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกัน

มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าเพื่อจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งที่ไทยและเวียดนาม รวมถึงมีการจัด business matching เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ของทั้งสองประเทศได้มีโอกาสเจรจาธุรกิจร่วมกัน รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อโปรโมตสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรทั้งที่ท็อปส์ มาร์เก็ต ในเวียดนาม และในประเทศไทย

“จากกลยุทธ์ดังกล่าวเชื่อมั่นว่า ท็อปส์จะเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงใจของผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย ฉีกกฎซูเปอร์มาร์เก็ตในรูปแบบเดิม ๆ เติบโตอย่างมั่นคง พร้อมทั้งนำเสนอนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ทันสมัยในการให้บริการ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค” นายสเตฟานกล่าว