คลินิกความงาม ระเบิดศึก มีบัตรประชาชนใบเดียว ผ่อนได้

คลินิกความงาม

คลินิกศัลยกรรมความงาม 3 หมื่นล้านเริ่มฟื้น ดีมานด์ดีดกลับ แข่งขันระอุ สงครามราคาคึกคัก สวยผ่อนได้เฟื่องฟู 0% เกลื่อนตลาด “ยันฮี-รมย์รวินท์-พฤกษา-บางมด” ปูพรมแคมเปญดึงลูกค้าแบบรัว ๆ ส่วนรายเล็กไม่น้อยหน้า ปิ๊งไอเดียดึงคนไม่มีบัตรเครดิต บัตรประชาชนใบเดียวผ่อนได้-แบ่งจ่าย 5-10 งวด

นายแพทย์สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลยันฮี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงวิกฤตโควิด 1-2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงขาลงของตลาดศัลยกรรมความงาม แม้ขณะนี้ตลาดจะเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมาบ้าง เพราะทุกคนอยากสวยอยากงาม

แต่โดยส่วนตัวมองว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 5-10 ปี กว่าตลาดจะฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิมในช่วงก่อนหน้าที่จะมีโควิด-19 เกิดขึ้น เพราะขณะนี้ยังมีปัจจัยในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่กลับมา ขณะนี้หากสังเกตจะเริ่มเห็นว่า ผู้ประกอบการหลายค่ายทั้งรายเล็กรายใหญ่ต่างเริ่มหันมาจัดโปรโมชั่นกันอย่างคึกคักเพื่อดึงลูกค้า

สำหรับกลยุทธ์ของศูนย์ศัลยกรรมยันฮี ในช่วงจากนี้ไป หลัก ๆ จะมุ่งมาเน้นที่ลูกค้าคนไทยมากขึ้น ด้วยการลดแลกแจกแถม รวมถึงผ่อน 0% ร่วมกับบัตรเครดิต เพื่อกระตุ้นเป็นระยะ ๆ เช่น เดือน มิ.ย. มีแคมเปญลด 10-15% สำหรับเสริมหน้าอก เดือน ก.ค. ก็อาจจะลด 10-20% สำหรับการทำตา 2 ชั้น หรือ ส.ค. ลด 15% สำหรับการจัดฟัน

เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็เริ่มกลับมาทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติผ่านทางออนไลน์ เป็นการปูทางไว้ก่อน เพราะต้องยอมรับว่ากลุ่มคนไข้ต่างประเทศที่เคยเป็นลูกค้าเขาก็ได้รับผลกระทบจากโควิดและเศรษฐกิจ จึงอาจจะยังไม่สะดวกที่จะเดินทางเข้ามา จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป

แข่งขันระอุ ลดราคา-0% เกลื่อน

นายแพทย์เศรษฐกานต์ อัตถากรพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท พฤกษาคลินิก โฮลดิ้ง จำกัด เจ้าของพฤกษาคลินิก แสดงความเห็นว่า ตลาดศัลยกรรมและความงามมีการแข่งขันสูง เฉพาะอย่างยิ่้งในแง่ของการลดราคา เพราะมีรายใหม่ ๆ เข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะเซ็กเมนต์ศัลยกรรม หลัง ศบค.ผ่อนปรนมาตรการ และคลินิกความงาม กลับมาเปิดให้บริการ

ตอนนี้ลูกค้าเริ่มกลับมา 70-80% แล้ว ส่วนใหญ่ประมาณ 85% เป็นลูกค้าเดิม โดยกลุ่มระดับล่าง คนไข้เริ่มกลับมา แต่ใช้จ่ายไม่เท่าเดิม คือ ใช้จ่ายน้อยกว่าเดิม

ส่วนตลาดไฮเอนด์ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องกำลังซื้อ แต่อาจจะชะลอการใช้บริการเพราะกังวลเรื่องโควิด สำหรับพฤกษาเอง แม้คนไข้ส่วนใหญ่จะมีกำลังซื้อ แต่ก็ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ช่วงไหนที่โปรโมชั่นดีน่าสนใจ ลูกค้าก็จะคึกคักเป็นพิเศษ เรามีผ่อน 0% ร่วมกับบัตรเครดิตเป็นระยะ ๆ แต่ก็พยายามจะลดลงเพราะว่าคอสต์สูงขึ้น

ขณะที่นางขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท รมย์รวินท์ คลินิก จำกัด แสดงทรรศนะในเรื่องเดียวกันนี้ว่า ปัจจุบันผู้คนปรับตัวอยู่กับโควิดได้แล้ว ส่งผลให้ธุรกิจความงาม ที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือหัตถการที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 30,000 ล้านบาท เริ่มฟื้นตัวกลับมา

โดยเฉพาะหลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมาตรการที่ผ่อนคลาย และคลินิกความงามกลับมาเปิดให้บริการได้ พบว่าลูกค้าเริ่มกลับเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น เมื่อตลาดเริ่มฟื้น การแข่งขันก็สูงตามไปด้วย

ขณะนี้จะเห็นแบรนด์เล็ก ๆ มีการจัดโปรโมชั่นหนักขึ้น ซึ่งยอมรับว่าค่อนข้างกังวล เนื่องจากการจัดโปรโมชั่น หากจัดถี่เกินไป มีทั้งข้อดีและข้อเสียหากจัดเป็นชั่วคราว เพื่อให้ลูกค้าทดลองใช้ก็เห็นด้วย แต่ถ้ามีการตัดราคากันไปเรื่อย ๆ ประสิทธิภาพการรักษาก็จะต่ำลงและส่งผลต่อการรักษา

สำหรับรมย์รวินท์ ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตั้งแต่ระดับกลาง-พรีเมี่ยม ภาพรวมธุรกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยช่วง 1-3 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้าเก่าเริ่มกลับมาจองคอร์สระยะยาวเพิ่มขึ้น และมีปริมาณคนเข้ามาใช้บริการประมาณ 600 คนต่อวัน ต่อ 1 สาขา จากนี้ไปจะเร่งทำการตลาดอย่างหนัก ด้วยการตั้งทีมเทรนนิ่ง หรือจะเรียกว่าโค้ช
ความงาม ให้ลูกค้าสามารถปรึกษาได้ส่วนตัว

รวมไปถึงการนำเข้าเครื่องมือที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ควบคู่กับการเปิดรับสมัครทีมขายสินค้าหลายอัตรา มาทำหน้าที่ขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 200 รายการ สิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดแข็งที่จะสามารถหาลูกค้าใหม่ ๆ ได้เพิ่มขึ้น

ด้านนายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล ผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ระบุว่า ขณะนี้ตลาดศัลยกรรมพรีเมี่ยมกลับมาคึกคักขึ้น หลังโควิดคลี่คลาย ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศค้าเริ่มกลับมาใช้บริการ ทำให้รายได้จากศัลยกรรมของบางมดกลับมาเติบโตเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า

ล่าสุดได้นำเทคนิคใหม่มาใช้ในการดึงหน้า ทำให้หน้าเด็กลง แผลเล็ก หายเร็ว เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังได้ทุ่มงบฯหลักพันล้าน สำหรับสร้างโรงพยาบาล Bangmod Aesthetic & Wellness Hospital บนพื้นที่ 5 ไร่ ทำศูนย์ศัลยกรรมครบวงจร โดยจะแยกแผนกศัลยกรรมออกมาจากการรักษาโรคทั่วไป คาดว่าจะใช้เวลาสร้าง 2-3 ปี

สวยผ่อนได้ด้วยบัตร ปชช.

แหล่งข่าวจากวงการคลินิกศัลยกรรมและความงาม เปิดเผยว่า ขณะนี้การแข่งขันของตลาดค่อนข้างรุนแรง นอกจากภาพการลดราคาและมีบริการเงินผ่อน 0% ที่เป็นการร่วมมือกับบัตรเครดิตและบัตรเงินผ่อนของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีให้เห็นเป็นระยะ ๆ แล้ว

ในส่วนของคลินิกรายเล็กหรือคลินิกเปิดใหม่ก็มีการจัดโปรโมชั่นอย่างหนัก เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิต หรือกลุ่มนักศึกษา กลุ่มลูกค้าระดับแมส ด้วยการให้บริการศัลยกรรมความงามเงินผ่อน โดยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว โดยกำหนดให้การผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ หรือบางรายวางเงื่อนไขให้วางเงินดาวน์จำนวนหนึ่งก่อน

เช่น ทำศัลยกรรม (จมูก คาง) ผ่อนทุก 15 วัน 5 งวด โดยใช้บัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน เช่น เสริมจมูกราคา 10,000 บาท ผ่อน 2,000 บาท 5 งวด หรือทำตา 2 ชั้น 10,400 บาท ผ่อน 3,466 บาท 3 งวด, เสริมคาง 6,500 บาท ผ่อน 2,167 บาท 3 งวด และทำปากกระจับบน-ล่าง 15,600 บาท ผ่อน 3,120 บาท 5 งวด หรือการทำหน้าอก 39,999 บาท ผ่อน 3,999 บาท 10 งวด โดยกำหนดเงื่อนไขว่า เมื่อผ่อนครบ 5 งวดแล้วสามารถนัดวันทำได้เลย

หรือบางแห่งจัดโปรโมชั่น “ทำมาก ลดมาก” เช่น ลด 15,000 บาท เมื่อจอง 3 หัตถการ หรือลด 9,000 บาท เมื่อจอง 2 หัตถการ และลด 4,000 บาท เมื่อจอง 1 หัตถการ รวมถึงมีการกระตุ้นสุ่มแจกทองและรถจักรยานยนต์เมื่อจองทำศัลยกรรม (จมูก, คาง, ตา, ลักยิ้ม) ผ่านช่องทางออนไลน์

เช่นเดียวกับคลินิกศัลยกรรมความงามรายใหญ่ที่มีความเคลื่อนไหวจัดโปรโมชั่นเป็นระยะ ๆ อาทิ เมโกะคลินิก ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ จัดโปรโมชั่นวันแม่เสริมหน้าอก เทคนิค seamless ไร้รอยแผล ด้วยราคาเริ่มเพียง 59,000 บาท พร้อมของแถมมูลค่ากว่า 40,000 บาท อาทิ ตรวจสุขภาพ ปรึกษา บริการดูแลก่อนและหลังผ่าตัด ชุดล้างแผล 7 วัน ตัดไหม เป็นต้น

หรือรักแม่ พาแม่มาทำสวย โปรโมชั่นสวยแพ็กคู่ รับ gift voucher free 5,000.- เมื่อมียอดทำศัลยกรรม 60,000 บาทขึ้น และสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลด skin หรือ surgery (ราคาเต็ม) ในครั้งถัดไปได้, โปรโมชั่น ยกคิ้ว foxy eyes ราคาพิเศษ 69,000 บาท ผ่อน 0% กับธนาคารที่ร่วมรายการ

ขณะที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ จัดโปรโมชั่นลดราคาหลายรายการ เช่น เสริมหน้าอก ราคาเริ่มต้นที่ 38,900 บาท จากปกติ 75,900 บาท เสริมจมูก 7,900 บาท จาก 19,900 บาท ฟรีตะไบฮัมพ์ แต่งปลายจมูก, ปากกระจับ ราคาเริ่มต้น 9, 900 บาท จากปกติ 21,900 บาท ส่วนโรงพยาบาลยันฮี จัดโปรโมชั่น (1 ก.ค.-30 ก.ย.) อาทิ เสริมจมูก ราคา 9,900 บาท (สำหรับซิลิโคนมาตรฐานเท่านั้น) ศูนย์จุดซ่อนเร้น รับส่วนลด 10% เป็นต้น

ด้านนางสาวรุจาภา เทียนทอง หุ้นส่วนผู้ร่วมก่อตั้งคลินิกเสริมความงาม กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทิศทางของตลาดธุรกิจเสริมความงาม ครึ่งหลังปี 2565 กำลังฟื้นตัวกลับมาหลังจากโควิดคลี่คลาย มีการเปิดประเทศ ทางเราเป็นนักลงทุนใหม่ เริ่มเห็นสัญญาณที่ดี ตรงนี้ จึงได้ตัดสินใจลงทุนกิจการ Lovely way clinic ย่านอ่อนนุช ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาต เตรียมจะเปิดดำเนินการเร็วๆนี้

“ แม้ว่าธุรกิจเสริมความงามจะมีการแข่งขันสูง แต่มองว่ายังมีรูมให้ขยายได้อีกมากโดยเฉพาะในพื้นที่นอกห้างสรรพสินค้า จะมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะในแต่ละพื้นที่และมีข้อได้เปรียบจากต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ที่ต่ำกว่า ส่วนธุรกิจเสริมความงามแบรนด์ดังก็ดักจับกลุ่มลูกค้าในห้างราคาและโปรโมชั่นอาจจะแรงกว่า เพราะแข่งขันสูง ร้านนอกห้าง”

เราจึงให้ความสำคัญกับ โปรโมชั่น และอำนวยความสะดวกการชำระให้ลูกค้าชำระผ่านบัตรเครดิตได้ หรือถ้าไม่มีบัตรเครดิต ก็จะมีช่องทางส่งเสริมการขายจากทางคลินิก โดยจะพิจารณาเป็นโปรแกรมแพคเกจของคลินิก