
“เบนซ์” ปรับใหญ่ทำข้อตกลงดีลเลอร์ เลิก “สงครามราคา” ชูจุดแข็ง ตัวสินค้า-บริการระดับลักเซอรี่ ลั่นแก้ปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ลงตัว หลังวางแผนร่วมกับบริษัทแม่ ส่งอีก 2 รุ่นใหม่ C350 e AMG Dynamic และ Vito 119 ทำตลาด
นายบีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดจากนี้ไปบริษัทจะหันกลับมามุ่งเน้นจุดขายหลักซึ่งเป็นความแข็งแกร่งแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ความเป็นลักเซอรี่แบรนด์ในทุก ๆ ส่วน ตั้งแต่ตัวสินค้า บริการ และการสื่อสารการตลาด รวมทั้งทำข้อตกลง ความเข้าใจ (MOU) และมอบนโยบายให้กับดีลเลอร์ทุกราย เพื่อดำเนินธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน
“แน่นอนว่าจากนี้ไปจะไม่เห็นการตัดราคากันเองระหว่างดีลเลอร์ของเรา เลิกใช้ราคาเป็นจุดขายเหมือนที่ผ่านมา เช่น การตั้งราคาแบบมีเศษ 99 บาทไม่ถึง 100 บาท เพื่อให้ดูต่ำกว่าคู่แข่ง เราจะมุ่งเน้นและเดินไปสู่ความแข็งแกร่งของเราคือความเป็นลักเซอรี่แบรนด์ ให้ลูกค้ามีความประทับใจกับตัวสินค้า และได้ความคุ้มค่าที่ตัดสินใจเลือกเมอร์เซเดส-เบนซ์”
นายบีเยิร์นกล่าวถึงความสำเร็จผลประกอบการ 9 เดือนที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 10,255 คัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าพอใจ แม้จะต้องเผชิญปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งสำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์นั้น ไม่กระทบมากนัก เนื่องจากบริษัทได้มีการบริหารจัดการร่วมกับบริษัทแม่ แต่สิ่งสำคัญที่ยังต้องจับตาคือ ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่จะมากระทบต่ออุตสาหกรรม
“ตอนนี้เรามียอดรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ค้างส่งมอบอยู่ราว ๆ 1,000 คัน โดยกำลังเร่งดำเนินทยอยส่งมอบ”
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวรถยนต์นั่งปลั๊ก-อิน ไฮบริด อย่าง C 350 e AMG Dynamic ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร โดยสามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุดจากการขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าได้ถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยจำหน่ายในราคา 3,350,000 บาท
และอีกรุ่นคือ รถตู้ขนาด 11 ที่นั่งอย่าง Vito 119 CDI Tourer Select ที่บริษัทตัดสินใจนำเข้ามาเพื่อทำตลาดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการความกว้างขวางสะดวกสบายในวันทำงาน และการเป็นรถยนต์สำหรับการใช้งานได้อีกหลายรูปแบบในวันหยุดหรือในทุกวันที่ต้องการ
โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี เจเนอเรชั่นล่าสุดที่ทำงานประสานกับชุดเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงที่ 9.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 205 กิโลเมตร/ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 3,100,000 บาท