NETA V สมาร์ท อีวี อีโคคาร์ บอกเลยว่าน่าใช้

NETA V
คอลัมน์ : เทสต์คาร์
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

กระแสยานยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรา ถือว่าได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเทคโนโลยี และต้องการเปลี่ยนผ่านจากโลกยานยนต์เครื่องยนต์ ice (สันดาปภายใน) ข้ามผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี มีอยู่จำนวนไม่น้อย

ยิ่งมีทางเลือกมากขึ้น จากค่ายรถยนต์หลากหลายแบรนด์ บวกกับนโยบายสนับสนุนทางด้านมาตรการทางภาษี ให้เงินสนับสนุนผู้ใช้รถยนต์อีวีอีก 150,000 บาท ของภาครัฐ ถือว่า “จุดติด” จนทำให้กระแสความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

วันก่อน “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสนำรถยนต์ไฟฟ้า 100% ขนาดเล็ก หรือซิตี้คาร์ อย่าง NETA V มาทดสอบ ท่ามกลางอาการประหม่าเล็กน้อย

หลังจากบิดพลิ้วอยู่หลายรอบ กับความไม่มั่นใจ เพราะแอบประหม่าเล็ก ๆ กับความยุ่งยากในการเติมพลังงาน

NETA V

หลังจากรับรถจากใจกลางเมืองย่านราชประสงค์ “ศศิธร วิเศษไชยยะ” ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวางแผนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมด้วย “ธิราภร ย้อยแสง” พี.อาร์.คนเก่ง แนะนำผลิตภัณฑ์ การใช้งานของเจ้า NETA V กันอย่างแจ่มแจ้ง โดยเฉพาะฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อควบคุมตัวรถยนต์ จากหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ที่เสมือนเป็น “สมองกล” ซึ่งควบคุมระบบการทำงานของรถยนต์คันนี้รวมทั้งความบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งเรียกว่าใช้งานไม่ยาก และฟังก์ชั่นต่าง ๆ ไม่ได้ซับซ้อนหรือลงลึกแต่อย่างใด

ถือว่าง่าย และสะดวกพอสมควร กับระบบอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของรถคันนี้ มีให้มาตามความจำเป็น ได้แก่ ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ แต่เสียดายที่บานประตูหลัง NETA ไม่ใส่ใบปัดน้ำฝนให้ แต่เขาใส่ระบบไล่ฝ้ามาให้แทน ส่วนกระจกมองข้าง ปรับด้วยไฟฟ้า แต่หากต้องการพับเก็บ ออกแรงใช้มือผลักเก็บกระจก ซึ่งตรงนี้ถือว่ารับได้ แต่ในส่วนของบานกระจกทั้ง 4 ไม่สามารถขึ้น-ลงโดยอัตโนมัติ ทำให้ต้องกดปุ่มเปิด-ปิดแช่ไว้ ซึ่งตรงนี้มีแค่ฝั่งคนขับสักบานก็น่าจะช่วยอำนวยความสะดวกได้มากขึ้น ยิ่งเวลารับบัตรเข้าห้าง หรือบัตรทางด่วนลำบากเลย

กล้องถอยหลัง พร้อมเซ็นเซอร์ มีติดมาให้ สามารถใช้งานได้ชัดเจน แม่นยำ ส่วนกุญแจเป็นกุญแจรีโมต ทรงกลม เราสามารถพกกุญแจไว้กับตัว แล้วเปิดล็อก-ปิดล็อกประตู พร้อมเปิด-ปิดระบบการทำงานของมอเตอร์ไปได้ในคราวเดียวกัน

โดยรวม ๆ แล้วถือว่า NETA มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้อย่างพอเพียง ส่วนใครจะใช้งานแบบไหน คงต้องเอาไปช่วงน้ำหนักและเปรียบเทียบกันอีกทีหนึ่ง ขณะที่ขุมกำลังในการขับเคลื่อนของรถคันนี้ เนื่องจากเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100%

NETA V

แน่นอนว่าก่อนใช้งานสิ่งที่จำเป็นสุด ๆ คือการโหลดแอปพลิเคชั่น สำหรับใช้กับสถานีชาร์จแต่ละยี่ห้อ ไว้ในโทรศัพท์เพื่อเตรียมความพร้อม จะได้ไม่ขลุกขลักหน้างาน เพราะกว่าที่เราจะปลุกปล้ำกับแอปพลิเคชั่นสถานีชาร์จแต่ละแบรนด์ได้ เล่นเอาใช้เวลาอยูู่มากโข บางผู้ให้บริการในส่วนจุดชาร์จไฟฟ้าไม่อัพเดต บางแห่งไปถึง ปรากฏว่าปิดบริการจ่ายไฟเพื่อซ่อมแซมก็มี

ตรงนี้เป็นปัญหาขลุกขลัก สำหรับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงนี้ ส่วนอนาคตหวังว่า ทุกอย่างจะค่อย ๆ สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะความพยายามผลักดันของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ให้บริการเป็นไปในมาตรการเดียวกัน เชื่อมต่อกันทั้งหมด

สำหรับ NETA V คันนี้ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ที่เพลาหน้า ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า และแรงบิด 150 นิวตันเมตร จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ขนาดความจุ 38.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC มีโหมดขับขี่ 2 โหมด คือ Normal Mode ทำความเร็วได้ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ Sport Mode ที่ทำความเร็วได้ 124 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

NETA V

อัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้านั้นหายห่วง กดปุ๊บมาปั๊บ แต่เนื่องจาก NETA ตั้งใจให้รถคันนี้เป็น ซิตี้คาร์ ดังนั้นความเร็วกับการใช้งาน หลักคือการขับขี่ในเมือง ถือว่าเพียงพอเมื่อมีจังหวะ ลองกดคันเร่งเรียกความเร็ว รถคันนี้ไปได้ตามสเป็กกำหนด เพียงแต่หากนั่งแค่คนเดียวก็อาจจะมีแรงหวิว ๆ ไปบ้าง แต่หากโดยสาร 4-5 คนแล้ว ก็เชื่อว่าน่าจะโอเค

ส่วนการชาร์จไฟแบบปกติ AC รองรับกำลังไฟ 6.6 กิโลวัตต์ 0-100% ใช้เวลา 8 ชั่วโมง และชาร์จแบบเร็ว DC Fast Charge รองรับไฟสูงสุด 45 กิโลวัตต์ 30-80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที

ส่วนใครที่กังวลว่ารถคันนี้จะวิ่งออกนอกเมืองได้หรือไม่ จากการทดสอบ หากคุณเคยขับรถยนต์อีโคคาร์ที่วันนี้เราเห็นวิ่งกันอยู่เกลื่อนเมือง วิ่งข้ามจังหวัด แน่นอนว่า เจ้า NETA V คันนี้ก็ไปได้ เพียงแค่ผู้ใช้งานจะต้องวางแผนระยะทางและการชาร์จพลังงานให้ดีเท่านั้น

เนต้ายิ่งราคาค่าตัว ที่ได้รับการสนับสนุนทางภาษีมูลค่า 150,000 บาท ทำให้รถคันนี้มีราคาจำหน่ายที่ 549,000 บาท นั้น กับสิ่งที่ NETA มีให้มา ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความ “คุ้มค่า น่าใช้อย่างยิ่ง” และเมื่อเทียบกับคู่แข่งหลักในกลุ่มรถยนต์อีโคคาร์แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม ความชอบของแต่ละท่าน ว่าจะเลือกออปชั่น หรือพลังงานไฟฟ้า เพราะถือว่าหากวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ ถือว่าเป็นคู่แข่งที่ไม่ควรประมาทอย่างยิ่งสำหรับตลาดอีโคคาร์บ้านเรา

NETA V

NETA V NETA V NETA V