โตโยต้าลั่นพร้อมส่งรถปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ BEV และรถกระบะจากโครงการ IMV 0 ทำตลาดตามแผนปลายปีนี้ เชื่อตลาดรถ EV จีน คนละกลุ่มลูกค้า เผยเดินหน้าเร่งผลิต “ยาริส เอทีฟ” เสิร์ฟลูกค้า หลังแบ็กออร์เดอร์สูงกว่า 3 หมื่นคัน
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความชัดเจนของแผนการเตรียมความพร้อมและความคืบหน้าของโครงการ IMV 0 ของโตโยต้า ที่ก่อนหน้านี้ อดีตประธานใหญ่ นายอากิโอะ โตโยดะ ได้ประกาศบนเวทีเนื่องในโอกาสฉลองครบ 60 ปี โตโยต้าประเทศไทย ว่า โตโยต้ามีแผนจะแนะนำรถยนต์จากโครงการดังกล่าว ออกสู่ตลาดประเทศไทยภายในปี 2566 ว่าขณะนี้การดำเนินการทุกอย่างตามแผน
และโตโยต้าเตรียมนำเสนอรถยนต์ปิกอัพ EV (Hilux REVO BEV) และรถ IMV 0 หรือกระบะ LEGO Concept ปรับเปลี่ยนท้ายกระบะได้ตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ และตามแผนงานที่วางไว้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งลูกค้าจะได้สัมผัสกับรถทั้ง 2 อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในส่วนของสถานการณ์ตลาดรถ EV ในปัจจุบันนั้น ถือว่าเป็นตลาดที่น่าจับตาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะมีกลุ่มผู้เล่นแบรนด์จีนเข้ามาทำตลาดค่อนข้างมาก และตลาดในวันนี้อยู่ในช่วงทรงตัว อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังมองว่าในส่วนของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันนั้น ยังถือว่าเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่าง ยาริส และยาริส เอทีฟ
เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเลือกใช้รถ EV เป็นรถคันที่ 2-3 มากกว่า ไม่ได้ซื้อรถ EV เป็นรถใช้งานเพียงคันเดียว ดังนั้น ตลาดอีโคคาร์จึงถือว่าไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ทั้งนี้ คาดว่าความต้องการของตลาดรถ EV ในประเทศไทยปีนี้ น่าจะมีสัดส่วนในตลาด 8-10%
ส่วนสถานการณ์ด้านการผลิตนั้น ขณะนี้โตโยต้ายังคงเดินหน้าผลิตรถยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการตามดีมานด์ของลูกค้าทั้งในประเทศและส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่าง โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ที่ขณะนี้บริษัทได้พยายามจัดสรรการผลิตทั้งในส่วนของดีมานด์และซัพพลายให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเซมิคอนดักเตอร์ที่มีจำนวนจำกัด ทำให้ต้องบริหารจัดการให้พอสมควร
ปัจจุบัน ยาริส เอทีฟ มียอดจองเฉลี่ย 5,000-6,000 คัน มีแบ็กออร์เดอร์รวม ๆ 20,000-30,000 คัน โดยลูกค้าที่จองรถวันนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรอรับรถนานถึง 5 เดือน
แต่ก็มีลูกค้าบางกลุ่มที่ตัดสินใจ เปลี่ยนจาก ยาริส เอทีฟ รุ่น 4 ประตู ไปหาโตโยต้า ยาริส แฮตช์แบ็ก แทน แต่ก็เป็นจำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่จะตัดสินใจรอรถที่สั่งจองไว้
“เราได้พยายามคุยกับโรงงานและซัพพลายเออร์ในส่วนต่าง ๆ เพื่อพยายามจัดสรรชิ้นส่วนมาเพื่อให้สามารถผลิตรถ ยาริส เอทีฟ ได้เพียงพอกับความต้องการ วันนี้เราทำได้อยู่ที่เดือนละ 4-5 พันคัน เพราะต้องรอซัพพลายบางส่วนด้วย” นายศุภกรกล่าว