
เบนซ์ จ่อส่งรถอีวีทำตลาดอีก 2 รุ่น เผยปลื้มยอดขายครึ่งปีแตะ 7.7 พันคัน ปลื้ม แพ็กเกจ รับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ลูกค้าตอบรับเกินคาด
วันที่ 11 สิงหาคม 2566 นายมาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงแผนการเปิดตัวรถยนต์ในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า 100% หรือ EV Portfolio ในประเทศไทยว่า ราวกลางเดือนกันยายน หรืออีก 6 สัปดาห์จากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จะส่งรถยนต์อีวีออกสู่ตลาดอีก 2 รุ่น หลังจากได้ เปิดตัว EQS และ EQB ไปก่อนหน้านี้
ถึงยอดขายในช่วง 6 เดือนแรกของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำ 1,019,200 คันทั่วโลก มีอัตราการเติบโตที่ 5% เป็นผลมาจากยอดขายในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำตัวเลขสูงถึง 102,600 คัน เติบโตกว่า 121% จากปีก่อน ส่วนประเทศไทยโตกว่า 6% มียอดจดทะเบียนครึ่งปีแรกได้กว่า 7,700 คัน เป็นผลมาจากการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ลงตลาดอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันเรามีสัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในสัดส่วนคิดเป็นครึ่งหนึ่งของพอร์ตแล้ว เพราะเราเชื่อว่า รถปลั๊ก-อิน ไฮบริด จะเป็นสะพานเชื่อมต่อไปยัง รถยนต์ไฟฟ้า เห็นได้จากยอดขายส่วนนี้ของเราเพิ่มขึ้นทุกปี และลูกค้าให้การย่อมรับอย่างต่อเนื่อง”
ส่วนการตอบรับหลังจากบริษัทได้เปิดตัว โปรแกรมการบริการหลังการขายใหม่ โดยขยายระยะเวลาการรับประกันคุณภาพของแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery) ในรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด เป็น 10 ปี ไม่จำกัดระยะทางไปเมื่อ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น โดยครอบคลุมทั้งรถใหม่ และย้อนหลังให้ลูกค้าที่ซื้อรถไปแล้ว และไทยเป็นประเทศแรกในโลก ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ใช้โปรแกรมนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่ช่วยส่งเสริม และทำให้ราคาขายต่อรถยนต์ของรถที่เข้าร่วมโครงการดีขึ้นมาก ๆ เพราะผู้ที่จะซื้อรถต่อจากผู้ใช้รายเดิมสามารถตรวจสอบระยะเวลารับประกันที่เหลืออยู่ได้ และช่วยให้ลูกค้าผู้ใช้รถสามารถเปลี่ยนรถได้เร็วขึ้นด้วย
ปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดให้เครือข่ายผู้จำหน่ายสามารถจำหน่ายและให้บริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ครอบคลุมมากกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ
ล่าสุดบริษัทเพิ่งส่งรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด อย่าง GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศออกสู่ตลาด โดยรถรุ่นนี้สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง โดยมีราคาจำหน่ายเบื้องต้น เริ่มต้นที่ 4.18 ล้านบาท